วันนี้ แพรวดอทคอม จะพามาส่องวิวัฒนาการความแซ่บเบอร์แรงของ “เจนนี่ ปาหนัน หรือ วัชระ สุขชุม” หนึ่งในสมาชิกหัวเรือสายครีเอทีฟ ที่จะรู้จักกันดีในกลุ่มปาร์ตี้ Trasher และจากรายการยอดฮิตเทยเที่ยวไทย ผู้เป็นเจ้าของประโยคเด็ด “นุชาไม่กินปลา” ว่าในปี 2018 นี้จะแซ่บพรวดพราดจากสาวสะตอพลัดถิ่นขึ้นมามากมายก่ายกองขนาดไหน บอกเลยว่าความตลกใสๆ ตลกร้ายๆ ตลกล้นๆ ของเจนนี่นั้น ทำให้มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก รวมถึงแอดด้วย ลองมาดูกันสิว่าเจนนี่ ปาหนัน ผู้คลุกคลีในวงการสายครีเอทีฟ ที่ทำงานในวงการบันเทิงมาได้ก็หลายปีแล้ว จะมีไลฟ์สไตล์ความสวยแซ่บขึ้นขนาดไหน

แซ่บขึ้นเป็นกอง “เจนนี่ ปาหนัน” จากสาวดอกหญ้าในป่าสะตอสู่สาวเมืองกรุง

“อรุณา มุทิตา อุเบกขา #สวยมั้ยคะบอส#เมีย2018#จะกันยาตุลาพฤศจิกาก็เข้ามาเถอะ” jennie_panhan และนี่คือออออ…อรุณาลุคสวยคมใช่ไหมคะเจนนี่

“Life is better in red lipstick  #ลิปแดงเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง#สวยเป็นทุนอยู่แล้วด้วยแหละ#อิ๊อิ๊” jennie_panhan มีความชมตัวเองเข้าไปอีก อะ ต้องให้ ปากแดงรอดเสมอนะจ๊ะ

“อันยองซองเฮเคียวเองค่ะ#งานหวานแบบน้ำตาลไม่ต้องเติม#ได้อยู่เนอะ” jennie_panhan ลุคนี้หวานที่สุดในชีวิตแล้วไหมคะเจนนี่

ชอบความผมหน้าม้าเป็นเอกลักษณ์ แถมเส้นผมดูสุขภาพดีเลยดูหน้าม้าสวยเข้าไปใหญ่ และที่แน่ๆ ก็คืออออออ เจนนี่ ปาหนัน ต้องปากสีแดงจ้า กรีดอายไลเนอร์เบาๆ ให้สมกับความสวยคมเข้ม แต่ลุคนี้ก็ยังดูน่ารักเพราะทรงผมเลยนะเนี่ย

เวิร์คกิ้งวูแมนลุคต้องแซ่บแดงแรงเบอร์นี้ค่ะคุณผู้อ่าน

หรือจะแซ่บสายสตรองกึ่งสปอร์ตก็เข้าที ปากสีชมพูเข้มออกบานเย็นๆ เจนนี่ ปาหนัน ทาแล้วเอาอยู่ค่ะ

“นอกจากมารีญาก็เจนนี่ปาหนันนี่แหละที่ไปสู่จักรวาลได้” jennie_panhan เอ้า!! ถ้าปังขนาดนี้ แอดก็ว่าไปได้นะจ๊ะ อิอิ

หุ่นเซี๊ยะมาเชียวนะ ทาปากสีส้มก็ดูเก๋ได้อีกลุคเลยนะ

เปลี่ยนทรงผมเก่งแค่ไหน แต่หน้าม้าที่เป็น Signature ยังคงอยู่นะจ๊ะ

ปั๊วะๆ ปังๆ ลงนั่งเยี่ยงนางพญาก็มาค่ะ แซ่บลืมมมมมมมมมมม

ชมพูเซ็กซี่ขี้เล่นก็มานะคะ ปากแดงในชุดชมพูแบบนี้ ต้องให้!!

ความปากแดงไม่เคยหาย และเมื่อเจอทูพีชนี้เข้าไป ทะเลร้อนระอุขึ้นมาเป็นกอง

ความสวมบทแม่ริริก็มานะจ๊ะ “RiRi in Met(tad) Gala 2018 #งานก็อปเกรดAมิลเลอร์#เหมือนทุกจุดหลุดง่ายทุกชิ้น#งงมาก#เหมือนงานโรงเรียนอ่ะ#ชุดกาวร้อน” jennie_panhan

“Hold up, they don’t love you like I love you#หลบค่ะควีนบีมาแล้ว#แต่งเป็นบียองเซ่นะไม่ใช่ดาวขำมิน#อย่าทักผิด#เดี๋ยวแม่ฟาดเลย” jennie_panhan ลุคนี้เหมือนอยู่นะ ว่าไหม

“จักรวาล เอ๊ย!! ทางเข้างานไปทางไหนคะ #หมดไปกี่มุ้งกับชุดนี้#กวาดทุกอย่างที่อยู่บนพื้น#ชุดชมพูแต่เจอไฟปุ๊บกลายเป็นส้มปั๊บ”  jennie_panhan ลุคนี้สวยอะ เริ่ดอะ แอดชอบบบบบบบบบบบ

“MOANA #เจ้าหญิงเมานะแห่งเกาะยอสงขลา#ไม่บอกไม่รู้นะ#นึกว่านักรบล้านนา” jennie_panhan ก็เหมือนอยู่นะคะเจนนี่

“นางพญาผมเสีย #ภาคต่อของนางพญาผมขาว#นำแสดงโดยฟาดจิงจิง#น้องสาวฟ่านปิงปิง#ฟาดเนอะ#คือน่าจะฟาดสองสองสามที#เชิ่ดไรเบอร์นั้น” jennie_panhan (555+)

“ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองสวยเลย ทำยังไงดีอ่ะ #นี่พยายามทำหน้าตลกแล้วนะ#ทำไมถึงยังดูสวย#ละมุนอะไรเบอร์นั้น#งงตัวเองมาก#อยากมีรูปตลกๆลงบ้าง” jennie_panhan ก็สวยหวานอยู่นะ ปกติเห็นทาแต่ปากแดงเบอร์แรง ลุคนี้เลยดูซอฟต์ๆ ละมุนๆ

“ยิ้มเบาๆ ให้ผู้เกาเคลิบเคลิ้ม #ชม้อยชะม้ายชายตา#หวานๆละมุนๆ” jennie_panhan ลุคนี้เจนนี่นางว่านางหวานละมุนค่ะคุณณณ

“ผมใหม่แต่แขนใหญ่มาก #เช็คผมลืมเช็คหุ่น #สั้นๆแบ๊วๆ” jennie_panhan นั่นไง นี่แอดก็ว่าแขนเล็กแล้วนะ แต่เจนนี่ก็ยังไม่วายกัดตัวเองเบาๆ ว่าแขนใหญ่  โถ…แม่คุณโฟกัสที่ผมสิจ๊ะ เปรี้ยวแบบแบ๊วๆ ดี แอดชอบ

“ยืน 1 ทิฟฟาปีนี้แน่นอน #สวยจนไอโฟนไม่ปลดล็อคหน้าจอ#สวยจนเฟสไอดีไม่จับหน้า#เมคอัพเปลี่ยนชีวิตมาก#กราบแม่สิลูก”  jennie_panhan โอ้โห ก็งานนี้ได้น้องฉัตรมาแต่งหน้า ยังไงก็ต้องสวยปังอลังเว่อร์อยู่แล้วแหละเนอะ

“พอตื่นเช้า…มันก็จะสวยประมาณนี้แหละ #กล้องไอโฟนสิบคือเกินไปมาก#กล้องดีเปลี่ยนผีให้เป็นคน” jennie_panhan เอ้า…ความกัดตัวเองก็มาค่ะคุณผู้อ่าน ^^

“มารับยา พูลเลิศลาบก้อย ไทยแลนนนนนนด์ #จักรวาลไปทางไหนคะ #จะไปล้างรูป#เอ้าคนละจักรวาลเหรอ #ฉ่ำวาวสายฝอ#หน้าผมเฟี๊ยซๆปังๆ” jennie_panhan แหม..มีความแต่งหน้าเมคโอเวอร์เป็นมารีญาเบาๆ นะคะเนี่ย

มีความชมพูละมุนนีมากๆ ค่ะ เมคอัพสายหวาน ทรงผมสายซอฟต์ แต่ความหน้าม้าทรงเก๋เหมือนเดิม

มาในลุคไฮโซ ไม่ใช่โซธรรมดานะ…โซบิ้วตี้ฟูล

เป็นไงล่ะ ความแซ่บถึงพริกถึงขิงทุกลุคจริงๆ และถ้าใครอยากติดตามชีวิตของเจนนี่ ปาหนัน ที่ทำไมถึงได้ดีจนทุกวันนี้ คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ >> กตัญญูพ่อแม่จนได้ดี…ไขชีวิตสุดฮา “เจนนี่ ปาหนัน” สาวดอกหญ้าในป่าสะตอ!

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ IG : jennie_panhan

The post แซ่บขึ้นเป็นกอง “เจนนี่ ปาหนัน” จากสาวดอกหญ้าในป่าสะตอสู่สาวเมืองกรุง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากอย่างโชกโชนมาก่อน 10 ข้อ ฮิวจ์ แจ็คแมน กว่าจะเป็นพระเอกซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

ณ ตอนนี้คงไม่มีใคนไม่รู้จัก ฮิวจ์ แจ็คแมน พระเอกกล้ามโต เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมจากบท “วูล์ฟเวอรีน”  ในภาพยนตร์เรื่อง Les Misérables แม้หลายคนจะเห็นบทบาทการแสดงของเขาผ่านทางหน้าจอ แต่ถ้าพูดถึงชีวิตส่วนตัวของหนุ่มคนนี้ก็มีหลายเรื่องที่ไม่รู้ มาดูกันว่า 10 เรื่องนี้จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง

1.เคยเป็นตัวตลกตามปั๊มน้ำมัน

ก่อนที่พระเอกหนุ่มคนนี้จะโด่งดังเป็นพลุแตกในวงการฮอลลีวู้ด เขาก็เหมือนกับดาราในวงการบันเทิงที่มีอาชีพอื่นมาก่อน โดยนักแสดหนุ่มต้องหาอาชีพอื่นมาเสริมเพื่อประทังชีวิต ซึ่งช่วงที่เขายังไม่ได้เป็นที่รู้จักของผู้คนในฐานะพระเอกแถวหน้าแจ็คแมน เคยรับงานเป็นตัวตลกตามปั๊มน้ำมัน และงานปาร์ตี้วันเกิด

2. เอ็กซ์ตร้าที่ทำนักแสดงแขนหัก

ต้องยอมรับว่า แจ็คแมน เป็นคนที่จริงจังกับการแสดงมากๆ และหากเข้าถึงบทบาทแล้วอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ยิ่งถ้าเป็นการแสดงบทบู๊แอ็คชั่นเขาก็พร้อมที่จะใส่เต็มเหนี่ยวก็มีบ้างที่เพื่อนนักแสดงด้วยกันต้องเจ็บตัว

ครั้งหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์ Van Helsing เขาเล่นหนักไปหน่อยทำให้นักแสดงเอ็กซ์ตร้าต้องแขนหักมาแล้ว

3. โดนสาวสะกดรอยบ่อยๆ

เกิดเป็นคนหล่อแถมมากความสามารถ สาวๆ ทั่วโลกก็อยากได้ แจ็คแมน มาเป็นเจ้าของทั้งนั้น หรือขอแค่ได้เจอ

หลายครั้งที่คนดังมักเจอกับอะไรแปลกๆ แจ็คแมนก็เช่นกัน โดยเมื่อปี 2013 มีหญิงสาวรายหนึ่งพยายามติดตามเขาไปที่เวสต์ วิลเลจ ยิม จากนั้นก็รื้อค้นที่โต๊ะของเขา และขโมยเครื่องโกนหนวดไป โดยเหตุผลที่เธอทำแบบนั้นเพราะอยากแต่งงานกับดาราดังจากภาพยนตร์เรื่อง Les Misérables และสุดท้ายการกระทำที่ล้วงล้ำความเป็นส่วนตัวของคนอื่น ทำให้เธอต้องรับโทษทางกฎหมายแต่ยังโชคดีที่ศาลตัดสินภาคทัณฑ์โทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี

4. เป็นคนจุดเดือดต่ำตอนวัยรุ่น

สมัยวัยรุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเขาเป็นคนที่จุดระเบิดง่ายมากๆ มันกลายเป็นปัญหา ทว่าเมื่อเข้าวงการบันเทิงเขาสามารถใช้ปัญหามาสร้างประโยชน์ได้ด้วยการนำสิ่งนั้นมาใช้ในการแสดง

5. นักรณรงค์ทาครีมกันแดดหลังตรวจพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 เขาได้เจอกับรอยๆ หนึ่ง เขาคิดว่ามันเป็นรอยห้อเลือดที่เกิดจากกรงเล็บของวูล์ฟเวอรีน แต่ทว่ามันเลวร้ายกว่านั้นเมื่อเขาถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดเบซัล เซลล์ คาร์ซิโนม่า

หลังจากที่ต่อสู้กับความยากลำบาก ผู้ชายอย่างเขาก็ได้รู้เกี่ยวกับอันตรายที่มาจากแสงแดด เขาเลยเปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อหวังให้ทุกคนหันมาใส่ใจกับการทาครีมกันแดด ก่อนที่จะสายเกินไป

6. เกือบจะได้เป็น เจมส์ บอนด์ 007

หลายคนบอกว่านักแสดงหนุ่มมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสวมบท “เจมส์ บอนด์” ด้วยภาพลักษณ์เจ้าสำอางทั้ง หล่อ แถมยังดูฉลาดหลักแหลม แต่ว่าเลือกที่จะปฏิเสธโอกาสสำคัญในครั้งนี้ นั่นทำให้ส้มหล่นใส่ “แดเนี่ยล เคร็ก” เต็มๆ ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นักแสดงหนุ่มก็ยอมรับว่าหากมีโอกาสรับบทนี้ในอนาคต เขาจะพิจารณาอย่างจริงจัง

7.เก่งทั้งการร้องเพลงและการแสดง

นักแสดงส่วนใหญ่มักร้องเพลงไม่เพราะแต่ไม่ใช่กับพระเอกคนนี้ เพราะมีเสียงอันไพเราะเป็นที่เลื่องลือ และครั้งหนึ่งเขาได้มีโอกาสได้รับเชิญให้ทำหน้าที่ร้องเพลงในวันแต่งงานของ “นิโคล คิดแมน” กับ “คีธ เออร์บาน” เมื่อปี 2006 โดยในตอนนั้นเขาร้องเพลง Tenterfield Saddler ของ ปีเตอร์ อัลเลน ได้อย่างน่าปนะทับใจมากๆ

8. ลงทุนกินอาหาร 6,000 แคลอรี่เพื่อที่จะเล่น วูล์ฟเวอรีน

เพื่อที่จะเล่น “เดอะ วูล์ฟเวอรีน” แล้วเขาต้องทั้งออกกำลังหายหนักและกินหนักไปพร้อมๆ กันตามแผนด้านโภชนาการสุดโหด เพื่อให้มีร่างกายที่เหมาะสม โดยนอกจากการฝึกซ้อมร่างกายแบบเข้มงวดแล้ว เขายังต้องกินอาหารปริมาณ 6,000 แคลอรี่ต่อวันด้วย ขณะที่ค่าเฉลี่ยที่ผู้ชายทั่วไปต้องกินอยู่ที่ 2,000-2,600 แคลอรี่ต่อวันเท่านั้น

9. ความหล่อติดอันดับ

แจ็คแมน ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 คนที่หน้าตาดีที่สุดของโลกของนิตยสาร พีเพิล 5 ปีติดต่อกัน นั่นคือระหว่างปี 2000-2004 แถมเขายังได้เป็นชายที่เซ็กซี่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ในปี 2008 ด้วย หลักฐานชัดเจนขนาดนี้คงยากที่จะปฏิเสธแล้วค่ะ

10. เป็นนักแสดงที่เข้ากับนักข่าวได้เป็นอย่างดี

ซูเปอร์สตาร์นุ่มเรียนจบสาขานิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีใน ซิดนี่ย์ และเขาก็เคยอยากเป็นนักข่าว ทว่าในช่วงใกล้จบการศึกษาเขาพบว่าตัวเองมีชั่วโมงเรียนโดยรวมไม่มากพอ เขาเลยตัดสินใจเข้าเรียนคลาสการแสดง และหลังจากนั้นเขาก็เอาดีด้านนี้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกเลยที่เขาเข้ากับนักข่าวได้ดี

The post ฮิวจ์ แจ็คแมน 10 ข้อ กว่าจะเป็นพระเอกซูเปอร์สตาร์ระดับโลก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เป็นอีกหนึ่งคู่รัก ที่ก้าวผ่านกระแสสังคมมาได้ เซเรนา วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสอันดับ 1 ของโลก กับสามี อเล็กซิส โอฮาเนียน นักธุรกิจหนุุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit เว็บไซต์ออนไลน์ชื่อดัง

ใครๆ ก็อยากมีรักแท้ โดยเฉพาะสาวๆ แต่เดี่ยวนี้หาชายแท้ที่จริงใจ ไม่นอกลู่นอกทาง รักครอบครัว ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่สาวๆ คนไหนที่คุณแฟน คุณพ่อบ้าน เป็นดังที่กล่าวมา บอกเลยว่าคุณโชคดีมาก ยิ่งกว่าถูกหวยไปอีกคู้นนนน

เช่นเดียวกับเธอคนนี้ เซเรนา วิเลียมส์ อดีตนักเทนนิส อันดับหนึ่งของโลก ที่ชีวิตคู่ของเธอนั้น หวานซะไม่มี หวานจนน้ำตาลเรียกพี่ และยิ่งตอนนี้มีสาวน้อย อเล็กซิส โอลิมเปีย โอฮาเนียน จูเนียร์ มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ เติมเต็มความรัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความรักของเธอและสามีจะสมบูรณ์แบบขนาดไหน

แต่ก่อนที่ เซเรนา วิลเลียมส์ จะมีครอบครัวที่เพอร์เฟ็คขนาดนี้ เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการรักแท้เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆ ไป แต่เซเรนาไม่ได้คาดหวังว่า ผู้ชายที่จะมาเป็นคู่แท้ของเธอนั้น จะต้องดีเลิศ และเป็นชายผิวขาว เฉกเช่นสามีคนปัจจุบัน !! และแน่นอนในช่วงแรกที่เธอเปิดตัวว่าคบกับอเล็กซิส ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ กับ The New York Times ว่า

“I’m an athlete,” “He’s a business guy. I’m Black. He’s White. We are totally opposite. I think we just complement each other. I think we understand hard work in different ways.”

ฉันเป็นนักกีฬา เขาเป็นนักธุรกิจ ฉันเป็นคนผิวสี เขาเป็นคนผิวขาว เราทั้งคู่แตกต่างกัน แต่ฉันคิดว่า เราทั้งสองเติมเต็มซึ่งกันและกัน และเราเข้าใจการทำงานอย่างหนักในเส้นทางที่ต่างกัน

เซเรนา พบรักกับ อเล็กซิส โอฮาเนียน ในเดือนพฤษภาคม เมื่อปี 2015 ที่โรงแรมคาวาเลียริ ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ขณะนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยเธอเล่าให้ฟังว่า อเล็กซิสเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะใกล้กับสระน้ำที่กำลังว่างซึ่งอยู่ถัดจากโต๊ะของเธอ และเซเรนายังจำได้ดีว่า เธอพยายามให้เขาย้ายออกจากโต๊ะนั้น แต่ในทางกลับกัน เขากลับพยายามขยับเข้ามาใกล้ ไม่นานบทสนทนาของทั้งคู่จึงเริ่มขึ้น และดูเหมือนว่าเคมีของทั้งคู่จะเข้ากันได้ดีซะด้วย

ถึงแม้แบล็คกราวน์ดของเซเรนา และอเล็กซิส จะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่เซเรนาเองเชื่อมั่นว่า นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน

เส้นทางรักของเซเรนานั้นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะถึงแม้จะมีคนไม่เห็นด้วยในความรักครั้งนี้ก็ตาม แต่หลังจากที่ทั้งคู่คบกันไม่นาน ก็มีข่าวประกาศหมั้นสายฟ้าแลบ ชนิดที่ว่าแฟนๆ นักหวดตั้งตัวไม่ทัน โดยเซเรนาออกมาโพสต์ข้อความ ซึ่งเป็นบทกวีว่า

“I came home a little late. Someone had a bag packed for me and a carriage awaited. Destination: Rome, where our stars first collided. Down on one knee he said 4 words and I said yes.”

(ฉันกลับบ้านช้าเล็กน้อย ใครบางคนกำลังจัดกระเป๋า และรถกำลังรอฉันอยู่ จุดหมายคือโรม สถานที่ที่ดวงดาวของเราชนกันครั้งแรก เขาคุกเข่าพร้อมเอ่ย 4 คำ และฉันตอบตกลง)

ด้านอเล็กซิสแฟนหนุ่มก็ออกมาโพสในข้อความต่อจากเซเรนาว่า  “And you made me the happiest man on the planet.” คุณทำให้ผมเป็นผู้ชายที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

หลังจากที่ทั้งคู่หมั้นกันได้ไม่นาน ถัดมาในปี 2016 อเล็กซิสได้ขอเซเรนาแต่งงาน ในขณะที่ทั้งคู่ได้เดินทางกลับไปท่องเที่ยวที่กรุงโรม และได้กลับไปทานข้าวที่ร้านอาหารเดิม อีกทั้งยังได้นั่งโต๊ะตัวเดิมอีกด้วย ซึ่งที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้พบรักกัน และพัฒนาความสัมพันธ์จนเซเรนาตั้งครรภ์และมีนางฟ้าตัวน้อยๆ มาเป็นพยานรัก

พิธีวิวาห์ของเซเรนาและอเล็กซิสจัดขึ้นที่ศูนย์ศิลปะร่วมสมัย ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดี แน่นอนว่างานนี้จะขาดลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน หนูน้อยอเล็กซิส ไปได้อย่างไร เซเรนาพาลูกน้อยของเธอมาเป็นสักขีพยานรักในงานแต่งงานของเธอและสามีด้วย น่ารักมากๆ เลยล่ะ

มีครั้งหนึ่ง เซเรนาเคยบอกอเล็กซิสว่า “คุณรู้ดีถึงความแตกต่างระหว่างคนผิวสีกับคนผิวขาว เขามักจะได้ยินเกี่ยวกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นนี้ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าฉันเป็นคนผิวขาว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะได้แต่งงานกับชายผิวขาวเลย ดังนั้น มันแสดงให้เห็นว่า รักแท้จริงๆ แล้วไม่มีเรื่องของสีผิว มันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่าความรักจริงๆ”

และเธอยังกล่าวอีกว่า “ในที่สุดแล้ว ฉันก็อยากอยู่กับคนที่ดูแลฉัน คนที่หัวเราะไปด้วยกัน เข้าใจชีวิตกันและกัน และคนที่รักฉันจริงๆ”

ถึงแม้เซเรนาจะมีอายุมากกว่าอเล็กซิส รวมถึงสีผิวของทั้งคู่ที่ต่างกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ที่ห้ามให้ทั้งสองรักกัน แต่ในทางกลับกันนั้น กลับทำให้ความรักของทั้งคู่แข็งแกร่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ข้อมูลและภาพ : www.essence.com , alexisohanian, serenawilliams, olympiaohanian

The post เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสผิวสีระดับโลก เผยไม่เคยคิดว่าจะได้แต่งงานกับชายผิวขาว appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

กลัวการนั่งเครื่องบินไหม? ถ้ากลัวนิดๆ หรือ กลัวมากๆ มาฟังเทคนิคของ 10 คนดังฮอลลีวู้ดเขามี วิธีเอาชนะความกลัว เวลาอยู่บนเครื่องบิน มาฝากกันจ้า

คนแต่ละคนมีความชอบความกลัวที่ไม่เหมือนกัน แม้แต่คนดังในวงการฮอลลีวู้ดก็ไม่เว้น บางคนแม้จะรับงานทั้งในและต่างประเทศตลอดแต่ก็ยังเกิดอาการกลัว  วันนี้เราเลยไปเสาะหา วิธีเอาชนะความกลัว มาฝากเพื่อเป็นเทคนิคให้กับหลายๆ คนไว้ใช้เมื่อต้องขึ้นเครื่องบินกันค่ะ

1.เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (Jennifer Aniston)

เจนนิเฟอร์ อนิสตัน นักแสดงสาวคนดังจากซีรี่ส์ฮอต “Friends” มีโอกาสได้ร่วมถ่ายโฆษณาให้กับสายการบินเอมิเรตส์ แต่เธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับความหรูหราของเครื่องบินลำนี้เลย เธอกลับคิดว่ามันคือฝันร้าย เพราะเธอกลัวการขึ้นเครื่งบิน ทว่าเธอเอาชนะความกลัวเหล่านี้ด้วยความเชื่อส่วนตัว เธอบอกว่าเธอมักจะใช้เท้าขวาก้าวขึ้นเครื่องเป็นเท้าแรก พร้อมกับเคาะเบาๆ ที่ตัวเครื่องด้านนอก เพื่อความโชคดี

2.คิต แฮริงตัน (Kit Harington)

คิต แฮริงตัน นักแสดงหนุ่มจากซีรี่ส์ดัง Game of Thrones ในบทบาท จอน สโนว์ เขายอมรับว่ากลัวการขึ้นเครื้องบิน ทุกครั้งที่ต้องขึ้นเครื่องบิน เขาต้องหาบางสิ่งที่เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจในตอนที่เกิดอาการหวาดวิตก เขาจะกำปากกานำโชคไว้เสมอ นักแสดงหนุ่มยังบอกอีกว่าเขาไม่เคยออกจากบ้านโดยไม่มีมาสคอต หรือตัวนำโชคพกพาไปด้วย

3.ลอเรน คอนราด (Lauren Conrad)

ดีไซเนอร์แฟชั่นยอดนิยมแห่ง LC Lauren Conrad และ Paper Crown ประสบความสำเร็จอย่างมากในอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น และแน่นอนว่าเธอเป็นผู้หญิงแถวหน้าในเรื่องความมั่นใจ แต่ใครจะคิดว่า เธอก็เป็นคนดังที่ขยาดการขึ้นเครื่องบินทุกครั้ง โดยวิธีที่ทำให้เธอผ่อนคลายนั้นก็คือการถักไหมพรมเธอ บอกว่าเธออยากทำอะไรสักอย่างขณะที่อยู่บนเครื่องบิน และเมื่อการเดินทางถึงที่หมาย เธอก็จะได้ของใหม่เพื่อใช้เป็นของขวัญหรือสวมใส่เอง

4.แอนดี้ โคเฮน (Andy Cohen)

แอนดี้ โคเฮน มักจะแต่งตัวหล่อๆ เท่ๆ เสมอ แต่ไม่ใช่เวลาที่เดินทางด้วยเครื่องบินในระยะทางไกลๆ โดยพิธีกรรายการดัง Watch What Happens: Live เผยว่าเขามักจะแต่งชุดในสไตล์แบบวัฒนธรรมสมัยนิยม ก็ชุดนอนนั่นแหละ! เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อขึ้นเครื่องก็กินยานอนหลับกับไวน์แล้วก็นอนไปเลย

5.โอลิเวีย มุนน์ (Olivia Munn)

โอลิเวีย มุนน์ นางเอกชื่อดังที่มักจะได้รับฉายาว่า “แม็คไกเวอร์ภาคอิสตรี” เพราะเธอมักจะใส่ของเยอะแยะมากมายเอาไว้ในกระเป๋าถือ โดยเหตุผลก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมไปถึงการพกเกลือ เธอบอกว่าเมื่อนำมันไปผสมกับน้ำขิงก็จะช่วยให้ดีขึ้นเวลาอยากอาเจียน

6.คาร์เมน อีเล็คตร้า (Carmen Electra)

ส่วน “คาร์เมน อีเล็คตร้า” เธอไม่ได้กลัวเครื่องบินแต่ไม่ชอบที่จะอยู่ในที่ๆ มีอากาศหนาว โดยเฉพาะบนเครื่องบินเธอบอกว่ามันทรมานมาก เธอชอบอากาศร้อนชื้น หรือที่ๆ มีอากาศอุ่นมากกว่า ดังนั้นเวลาจะไปไหนมาไหนเธอบอกว่า เธอจะพกผ้าคลุมไปด้วยเสมอ

7.กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow)

“กวินเน็ธ พัลโทรว์” นางเอกสาวดีกรีออสการ์ เธอมีอาการประหม่าทุกครั้งเวลาขึ้นเครื่องบิน ส่วนเคล็ดลับเอาชนะความกลัว เธอบอกว่าจะพกวิตามินซีกับพวกวิตามินที่มีส่วนผสมของแม็กนีเซียมและแคลเซียม เพื่อช่วยให้รู้สึกสงบเวลาที่มีอาการประหม่าตอนขึ้นเครื่องบิน แถมก่อนที่จะนั่งเธอยังใช้สเปรย์ฉีดฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดอีกด้วย

8.มอร์แกน สจ๊วร์ต (Morgan Stewart)

“มอร์แกน สจ๊วร์ต”เคยเปิดเผยว่าาเธอมีกฎตายตัวอยู่ 2 ข้อเวลาเดินทาง นั่นคือไปถึงสนามบินก่อนที่เครื่องบินจะเดินทาง และทำให้ตัวเองปลอดเชื้อ เธอบอกว่าจะเอาขวดแอลกอฮอล์ติดตัวไปด้วยเสมอ มันมีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิดนะ มันเอาไว้ใช้ทำความสะอาดแปรง และช่วยล้างเชื้อโรคเวลาคุณจับสิ่งต่างๆ ด้วย

9.อัลตัน บราวน์ (Alton Brown)

ด้วยความที่”อัลตัน บราวน์”ต้องโดยสารเครื่องบินเป็นประจำ ทำให้เขาอยากลองใช้เวลาที่ว่างบนเครื่องทำอะไรสนุกๆ เขาจึงวางแผนเรื่องเมนู และเป็นนักบินประจำเครื่องบินของตัวเองด้วย ทำให้มันมีของบางชิ้นที่เขามักจะพกติดตัวไปด้วยเสมอ อย่างเช่นเครื่องทำเอสเพรสโซ่ เครื่องปั่น เขาบอกว่าคุณสามารถทำชา กาแฟ ข้าวโอ๊ตได้เอง

10.คิม คาร์เดเชี่ยน (Kim Kardashian)

เครื่องบินอะเรื่องเล็ก แต่กลัวไม่สวยอะเรื่องใหญ่ เพราะเช่นนั้น “คิม คาร์เดเชี่ยน” เลยเปิดใจว่าเธอต้องเดินทางไกลโดยใช้บริการเครื่องบิน เธอจะพกปลอกหมอนที่ตัดเย็บจากผ้าซาตินสีดำเพื่อใช้เป็นหมอนเวลานอนบนเครื่อง โดยเหตุผลก็คือไม่ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอย และไม่ทำให้ใบหน้าที่แต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องหมองคล้ำเพราะเธอต้องนอนทั้งๆ ที่แต่งหน้าเต็ม

The post 10 วิธีเอาชนะความกลัว เวลาอยู่บนเครื่องบินของเหล่าคนดัง ให้อยู่หมัด! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

แม่ก็สวย ลูกก็หล่อมากกก ลิสต์ 8 แม่สามีแห่งชาติ ที่สาวๆ จำนวนมากอยากกรอกใบสมัครเป็นสะใภ้เพียบ

ถึงก่อนหน้านี้เทรนด์เกาหลีหรือฝรั่งสายฝ. จะมาแรง แต่ตอนนี้ที่มาแรงสุดๆ คงต้องแบบไทยสไตล์นี่แหละ เห็นได้จากปีที่ผ่านมา หนุ่มๆ ในวงการหลายคนได้โกอินเตอร์กันเป็นแถว แถมมีแฟนคลับพรึ่บทั้งในและนอกประเทศ จนเรียกได้ว่าเป็นปีทองจริงๆ

ซึ่งปีที่ผ่านมา หนุ่มๆ หลายคนในวงการบันเทิงก็ฮ็อตเว่อร์ จนขึ้นแท่นสามีแห่งชาติกันเพียบ และใกล้วันแม่แห่งชาติแบบนี้ แพรวดอทคอม เลยขอถือโอกาสพาไปรู้จักกับบุคคลที่ใกล้ชิดกับพวกเขามากที่สุด นั่นก็คือคุณแม่ หรือเรียกว่า แม่สามีแห่งชาติ เผื่อบังเอิญเจอสาวๆ มีโอกาสได้เจอ จะได้เข้าไปฝากเนื้อฝากตัวกันถูกนะคะ

โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

“โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” บอกว่าผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในโลกคือคุณแม่ “ปราณี วรรธนะภูติ” และเขามักให้สัมภาษณ์กับนิตยสารและทีวีเสมอว่า ผู้ที่เป็นเบื้องหลังในความสำเร็จของเขาก็คือ คุณแม่ ท่านเป็นทั้งกำลังใจและให้คำแนะนำ จนทำให้เราสามารถมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ “โป๊ป” ยังเคยบอกอีกว่าคุณแม่เป็นต้นแบบที่ดีทั้งทางกายและทางใจ เป็นคนซื่อตรง สุจริต จนเป็น”โป๊ป”ที่ทุกคนรักในวันนี้

ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์

คุณแม่ของ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” ชื่อว่า “มาจอลิน สุวรรณเมธานนท์”เป็นชาวฝรั่งเศสแท้ๆ โดยพระเอกหนุ่มได้เคยโพสต์ภาพของคุณแม่สมัยสาวๆ บอกเลยว่าสวยมากๆ และนอกจากจะได้ดีเอ็นเอเรื่องหน้าตาดีแล้ว “ซันนี่”ยังได้ความอารมณ์ดีจากคุณแม่ด้วย อย่างไรก็ตามถึงปากจะบอกว่าไม่อยากแสดงความรักกับคุณแม่เพราะเขิน แต่ก็ยังมีภาพประทับใจแบบแม่ๆ ลูกๆ ออกมาเป็นระยะ เรียกว่าถึงจะปากหนัก แต่ก็รักคุณแม่มาก นี่แหละ! สไตล์ของหนุ่มคนนี้

เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข

อีกหนึ่งคุณแม่ที่มีลูกชายหล่อมากก็คือ “คุณแม่ต่าย-โชติกา ตั้งศรีสุข” มารดาของพระเอก”เจมส์จิ- จิรายุ ตั้งศรีสุข”ซึ่งตอนนี้กำลังฮ็อตสุดๆ กับบทบาทในละครเรื่อง “เกมเสน่หา” ครั้งหนึ่งคุณแม่บอกนักข่าวอย่างปลื้มใจว่า “เดี๋ยวนี้เขาเลี้ยงแม่นะ ลูกไม่ดื้อ ไม่เกเรก็ดีแล้ว แต่นี่เขาทำให้แม่ปลื้มก็ไม่คิดไม่ฝัน” สำหรับเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้คุณแม่เคยบอกว่า “เชื่อในการตัดสินใจของลูก ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย”

ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย

ถัดจาก “พี่หมื่นเดช” ก็คนนี้แหละที่เป็นสามีแห่งชาติ “ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย” เจ้าของบท “ขุนเรือง” แห่ง “บุพเพสันนิวาส” แม้ภายนอกเขาจะเต็มไปด้วยภาพแบดบอยหน่อย แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นผู้ชายที่น่ารักมากๆ โดยในรายการ “ค่าน้ำนม” หนุ่ม “ปั้นจั่น” ได้พาคุณแม่ไปออกรายการ ซึ่งนอกจากความสัมพันธ์ที่น่าประทับใจระหว่างแม่ลูกแล้ว ตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไร “ปั้นจั่น” จะจับมือคุณแม่ของเขาเสมอ เป็นความสม่ำเสมอของการดูแลอย่างแท้จริง

ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ

“ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ” เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก กว่าจะประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เขาต้องใช้กำลังใจและความอดทนสูง ซึ่งคนที่สนับสนุนเขามาตลอดก็คือคุณแม่ ซึ่งเขาระลึกเสมอว่า หากไม่มีพลังใจที่สำคัญจากคุณแม่ เขาคงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้แน่นอน

เป๊ก- ผลิตโชค อายนบุตร

อีกหนึ่งหนุ่มฮ็อตที่หยิบจับอะไรก็มีกระแสตลอดสำหรับ”เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร” นักร้องหนุ่มที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่รู้จักหนุ่ม “เป๊ก”ในมุมครอบครัวมากนัก หรือพูดได้ว่าคนนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับอาจไม่รู้เรื่องนี้เลยก็ได้ คุณพ่อและคุณแม่ “ชุรีพร นพคุณ” แยกทางกัน ด้วยความที่หนุ่ม “เป๊ก” มีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง เลยเลือกอยู่กับคุณพ่อ เพราะคุณแม่แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่ประเทศฮอลแลนด์ ถึงแม้ตัวจะห่าง แต่ใจใกล้กันเสมอ ไม่ว่ามีเรื่องอะไร หนุ่มเป๊กจะเล่าให้คุณแม่ฟังตลอด

นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ

หากพูดถึงคุณแม่ที่มีลูกชายหล่อจนเป็นขวัญใจของสาวๆ ทั่วประเทศ ต้องพูดถึงคนนี้เลย “แม่หมู-พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” ผู้หญิงที่ “นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ” เรียกว่าสตรีเหล็ก ที่แม้จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ก็สามารถดูแลลูกชายจนได้ดี ซึ่ง “นาย” เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขามีชีวิตที่ดีในวันนี้เพราะคำสอนของแม่ “การเป็นคนได้ต้องมีความทุกข์และอุปสรรคเข้ามา แต่สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือ สติ สมาธิ ปัญญา ซึ่งผลพวงจากคำสอนที่ดีก็ทำให้ “นาย”กลายเป็นหนุ่มหล่อที่น่ารักและมีคนรักเยอะมากๆ

The post ลูกชายหล่อมาก! 8 แม่สามีแห่งชาติ สาวๆ อยากสมัครเป็นสะใภ้เพียบ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ล้วงลึก! เคล็ดไม่ลับ มรดกความสวย ความงามจากรุ่นคุณแม่สู่รุ่นคุณลูกของ 4 สาวคนดังในวงการบันเทิง

สำหรับลูกทุกคนแล้ว คุณพ่อและคุณแม่เปรียบเสมือนคุณครูคนแรกที่คอยให้ความรู้และสั่งสอนเราในเรื่องต่างๆ ผ่านจากบทเรียนและประสบการณ์ชีวิตที่ท่านสั่งสมมา ปัจจุบันมีบิ้วตี้บล็อกเกอร์เกิดขึ้นมากมาย แต่แพรวดอทคอมเชื่อว่ากูรูในเรื่องความงามของสาวๆ รวมไปถึงหนุ่มๆ หลายคนก็คือคุณแม่นี่แหละ ที่คอยให้คำแนะนำ แถมยังป้ายยาเก่งมากๆ อีกด้วย และเนื่องในวันแม่แห่งชาติ แพรวดอทคอม เลยทำสกู๊ปพิเศษเจาะเกี่ยวกับ มรดกความสวย! ของเหล่าคนดัง ซึ่งคุณแม่แต่ละบ้านมีเทคนิคความงามอย่างไรมาบอกกันบ้าง ไปติดตามกันเลยดีกว่าค่ะ

ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

“ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” นางเอกสาวเจ้าของบท “ก้านแก้ว วีไอพี” เล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ เธอเป็นคนคิ้วโล้นมาก โดยสิ่งที่ทำให้เธอจำมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ คุณแม่ชอบจับเธอมาทาอัญชันที่คิ้วเพื่อช่วยเพิ่มความดกดำ ซึ่งหากไม่ได้ดอกอัญชันของแม่ในวันนั้น ก็อาจคิ้วบางกว่าทุกวันนี้ก็เป็นได้ ซึ่งนักแสดงสาวสวย “ใบเฟิร์น” ยังเล่าปนขำอีกด้วยว่า ทุกวันนี้เวลาเห็นดอกอัญชันที่อยู่ในแก้วน้ำ ก็มีความอยากล้วงมือไปหยิบออกจากแก้วแล้วมาบี้ที่คิ้วทุกครั้งเลยล่ะ

ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ

มีความสดใสมาแจกทุกเช้าผ่านหน้าจอทีวีเลยสำหรับ “ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” พิธีกรสาวคนเก่งของช่องสามพระรามสี่ “ไบรท์”บอกว่าคุณแม่ของเธอคือผู้นำเทรนด์สุขภาพของบ้าน โดยเฉพาะเรื่องการกิน เพราะคุณแม่ถือคติว่าถ้าฐานตัวเราแข็งแรงเราก็จะไม่ค่อยเจ็บป่วย ครอบครัว”ไบรท์”ค่อนข้างตัวเล็ก ดังนั้นจึงกินไม่ค่อยได้เยอะเท่าไหร่ แต่คุณแม่บอกว่าถ้ากินน้อยก็ต้องกินอย่างมีคุณภาพ ดังนั้นเมนูที่บ้านจะบาลานซ์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ และการที่เราตื่นและนอนในเวลาที่ไม่เหมือนคนอื่น ยิ่งต้องเพิ่มการดูแลตัวเองไปอีกหลายเท่า แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เป็นคุณแม่นั่นแหละที่คอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ

แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม

เจอกี่ครั้งก็หน้าสวยผ่องใสตลอด สำหรับนักแสดงสาวฝีมือดี “แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม” โดยเธอเม้าท์ให้ฟังว่าเห็นเธอดูแลตัวเองดีแค่ไหน แต่คุณแม่ของเธอดูแลตัวเองดีกว่าหลายเท่า ท่านเป็นคนรักสวยรักงามและท่านก็สอนให้รักสวยรักงามมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันแนทจะนั่งทาครีมกับคุณแม่ แต่ของ”แนท”จะเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก ในตอนเล็กๆ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่พอโตขึ้นก็เห็นได้ชัดเลยว่าดีมากๆ ถ้าไม่ได้รับคำแนะนำของคุณแม่และการดูแลที่ดี “แนท”คงไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้

ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ

เป็นคนที่มีความเฮฮาแบบว่ามีสุขภาพจิตที่ดีแล้ว ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วยสำหรับ นักร้องและนักแสดง “ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ”  โดยเธอเล่าให้ฟังว่าเธออาจเหมือนเด็กกะโปโลไปเลย หากชีวิตนี้ไม่มีคุณแม่คอยมาให้คำแนะนำและการดูแล ซึ่งภาพจำของเธอตอนเด็กๆ ก็คือคุณแม่เป็นคนที่ดูแลตัวเองหนักมากทั้งเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย บ่อยครั้งที่คุณแม่จะพาเธอไปวิ่งออกกำลังกายด้วยเสมอ แม้ปัจจุบันกิจกรรมนี้ก็ยังเป็นกิจกรรมที่ทำมาโดยตลอด เพราะเธอบอกว่านอกจะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ยังเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย

แต่ละบ้านก็มีเคล็ดลับความสวยที่ไม่เหมือนกันจริงๆ ได้ฟังอยากนี้แล้ว แอดมิน ก็อยากสวยบ้าง ถ้าเช่นนั้นวันนี้ขอตัวไปทำตามคำแนะนำของเหล่าสาวๆ ก่อนนะคะ

The post เจาะ! มรดกความสวย เคล็ดลับความงามจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นางสำราญ กุนัน คุณแม่ของ จ่าแซม “นาวาตรี สมาน กุนัน” วีรบุรุษถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้รับคัดเลือกรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2561 สาขาแม่ผู้เสียสละ

ในทุกๆ ปีจะมีการประกาศผลการคัดเลือก “แม่ดีเด่นแห่งชาติ” ซึ่งปีนี้ก็เช่นกันสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานมอบรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2561 ซึ่งปีนี้ได้มีการพิจารณารางวัลพิเศษ แม่ผู้เสียสละ มอบให้ “นางสำราญ กุนัน” มารดาของ “นาวาตรีสมาน กุนัน” วีรบุรุษถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการที่เสียชีวิตในระหว่างทำภารกิจช่วยเหลือ นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คน ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561

ความเสียสละของ “จ่าแซม”ถูกบ่มเพาะมาจากสถาบันครอบครัว “คุณแม่สำราญ” ปลูกฝั่งและเป็นบุคคลต้นแบบที่ดีให้กับวีรบุรุษคนนี้ คุณแม่ยังได้เล่าอีกด่วยว่า “จ่าแซมเป็นคนนิสัยดี เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่เคยทำให้ร้องไห้เสียใจเลย”

คุณแม่ของ “จ่าแซม” ยังได้ให้ข้อคิดดีๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์ทิ้งท้ายด้วยว่า “ทุกครอบครัวสามารถนำแบบอย่างของจ่าแซม มาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ และเชื่อเสมอว่าหากพ่อและแม่คอยพร่ำสอน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ลูกก็จะเป็นเด็กดีตามไปด้วย”

อย่างไรก็ตาม “คุณแม่สำราญ กุนัน” จะเข้ารับประทานรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2561 จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคมนี้

The post แม่ผู้เสียสละ แม่จ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ประมวลภาพความน่ารักและความประทับใจของ 5 แม่-ลูกคนดัง เนื่องในวันแม่แห่งชาติ กับโมเม้นต์หวานน่าเอ็นดู! 

นอกจากภาพกราบเท้าคุณแม่แล้ว อีกหนึ่งภาพที่ดูกี่ครั้งก็อบอุ่นหัวใจ ก็คือภาพของคุณลูกกอดหอมคุณแม่ ถึงแม้ลูกๆ หลายคนจะยังเขินกับการแสดงความรักแบบนี้เพราะไม่ค่อยได้ทำบ่อย แต่เชื่อเถอะหากได้ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง แถมดีไม่ดีอาจจะบอกว่ารู้แบบนี้ทำเสียตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ

สำหรับเทศกาลวันแม่แห่งชาติปีนี้ แพรวดอทคอม ก็มีโมเม้นต์หวานของคู่ แม่-ลูก คนดัง มาฝากกัน ซึ่งทุกคู่ก็แสดงความรักออกมาได้อย่างน่ารักและอบอุ่นมากๆ เอาเป็นว่าอย่ารอช้า มีคู่ไหนบ้างนั้นไปติดตามกันดีกว่าค่ะ

1.“ณเดชน์ คูกิมิยะ”

ในทุกๆ ปีของวันแม่แห่งชาตินอกจากการกราบคุณแม่ที่พระเอกคนนี้ต้องทำเป็นประจำแล้ว เขากับคุณแม่แก้วยังทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กับสังคมด้วยการแจกทุนการศึกษาให้กับน้องๆ อีกด้วย “ณเดชน์”ไม่ได้แสดงความรักที่มีต่อคุณแม่เฉพาะในวันสำคัญวันนี้เท่านั้น แต่ในทุกวันเขาจะแสดงความรักต่อคุณแม่ ด้วยการกอดและหอมเสมอ ซึ่งเป็นโมเม้นต์ที่น่ารักมากๆ เลย

2. “ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล”

สำหรับแม่ลูกคู่นี้ถึงจะเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ค่อยหวานกันมาก เพราะเขินที่จะบอกรักกัน แต่ทุกครั้งภาพที่เห็นก็คือทั้งสองมักจะจับมือและกอดกันเสมอ เรียกว่าไม่พูดมากดูที่การกระทำดีกว่า

3. “กาย-นวพล ลำพูน”

อีกหนึ่งคู่แม่ลูกที่ไม่ค่อยได้เห็นโมเม้นต์นี้บ่อยๆ ก็คือคู่ของ “กาย-นวพล ลำพูน” และ “มาช่า วัฒนพานิช” โดยวันแม่ปีนี้หนุ่ม “กาย” ทั้งไหว้และล้างเท้าให้คุณแม่ด้วย ซึ่งจากรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณแม่ “มาช่า”มีความสุขแค่ไหนดูเอาเองก็แล้วกันค่ะ

4. “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ”

เพราะคุณแม่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศเลยทำให้หนุ่ม “เวียร์” ไม่ค่อยได้มีโมเม้นต์หวานๆ กับคุณแม่สักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ภาพคุณแม่เมื่อครั้งเดินทางไปหาพร้อมกับแคปชั่นน่ารักๆ ว่า “รูปมีน้อย สงสัยต้องไปถ่ายเพิ่มแล้ว รักแม่นะครับ ส่งเงินค่าตั๋วมาให้ลูกชายด้วย” แหมๆ เกือบจะดีอยู่แล้วเชียวนะหนุ่ม “เวียร์”

5.”เบลล่า-ราณี แคมเปน”

ปิดท้ายที่แม่หญิงการะเกด “เบลล่า-ราณี แคมเปน” ถึงแม้ปีนี้จะไม่มีภาพกอดกับคุณแม่ แต่เธอสารภาพกับแพรวว่าในทุกๆ วันจะขาดอ้อมกอดจากคุณแม่ไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่สาว “เบลล่า”ทำเป็นกิจวัตรประจำวันเลยทีเดียว

The post กอดกันวันละนิดจิตแจ่มใส! รวม 5 โมเม้นต์หวานของคู่ แม่-ลูกคนดัง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

วันสำคัญกับคนสำคัญ ณเดชน์-ญาญ่า สร้างโมเม้นต์น่ารั กชวนกันกราบแม่ของกันและกัน Fc.ปูเสือรอ! หลังแม่แก้วชงเข้มด้วยการโพสต์แคปชั่น “ต้อนรับวันใหม่ที่จะมาถึง”

เวลายิ่งผ่านไปความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคู่พระเอก-นางเอกขวัญใจมหาชน ณเดชน์-ญาญ่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ทั้งสองแสดงละครด้วยกันครั้งแรกในซีรี่ส์ซีรี่ส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอน ดวงใจอัคนี ไม่ว่าจะในจอหรือนอกจอก็มักแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกันเสมอ รวมถึงในวันพิเศษไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายไหนก็มักจะให้กำลังใจและสนับสนุนกันตลอด จนทำให้มีแฟนคลับคู่จิ้นที่ชื่นชมทั้งคู่เป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะในวันแม่ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไม่ได้กราบแค่คุณแม่ของตัวเองเท่านั้นแต่มักจะไปกราบคุณแม่ของกันและกันอีกด้วย ซึ่งปีนี้ก็เช่นกันทั้งสองรวมตัวกันเป็นครอบครัวเดียว “ณเดชน์” นำพวงมาลัยไหว้แม่แก้วและแม่ปลา ขณะที่ “ญาญ่า”ก็นำพวงมาลัยสวยไหว้แม่ปลาและแม่แก้ว ซึ่งภาพที่ออกมาก็ทำแฟนคลับคู่จิ้น NY ประทับใจเป็นอย่างมากที่ความรักผลิบานแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปในสายตาของผู้ใหญ่ของทึ้งสองฝ่าย

โดยเมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา แฮชแท็ก #ณเดชน์-ญาญ่า ก็ติดอันดับต้นๆ ในทวิตเตอร์ โดยแฟนคลับได้เผยโมเม้นต์ความน่ารักของทั้งสอง ในวันแม่แห่งชาติมาเพียบ ที่เล่าย้อนไปถึงตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว จนวันนี้ทั้งคู่ก็ยังใส่ใจกันและเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากวันนั้นเลย 8 ปีไม่จืดจาฃงแต่กลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามข้อความของแม่แก้วในอินสตาแกรม ยิ่งทำแฟนคลับคู่จิ้นนอนไม่หลับ เมื่อแม่แก้วทิ้งท้ายแคปชั่นว่า “ต้อนรับวันใหม่ที่จะมาถึง” ชงจบแบบนี้แฟนคลับก็ฟินเข้าเส้นเลือด สิคะ

The post 8 ปี ! ณเดชน์-ญาญ่า ในวันแม่แห่งชาติ โมเม้นต์น่ารัก บาดตาแต่ไม่บาดใจ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ใครชอบเปิดไอจีดูอาหารหน้าตาสวยๆ  อาจคุ้นชื่อ  @paulpayasalad   หรือ ปลา-ธีรพัฒน์ เอกบัณฑ์ บล็อกเกอรชาวไทย วัย  23  ปี  ที่กำลงมาแรงในเมืองซิดนีย์  เขาเริ่มต้นจากความหลงใหลในการเฟ้นหา ร้านอาหารใหม่ๆ ก่อนจะเปิดเพจของตัวเอง  และเป็นช่างภาพเต็มตัวให้คาเฟชื่อดัง  The Grounds

หลังจากที่ ปลา-ธีรพัฒน์ เอกบัณฑ์ ตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาตรีด้านไอทีที่ University Of Technology Sydney (ปัจจุบันบันเรียนอยู่ปี 3) ปลาก็ยังคงไม่ทิ้งไลฟ์สไตล์การกินที่ตัวเองชอบ ด้วยการตระเวนหาร้านอาหารใหม่ ๆ อยู่เสมอ

แรงบันดาลใจจากการกิน

“ผมมีความสุขกับการกินครับ ว่างเมื่อไหร่จะตระเวนหาร้านใหม่ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่ออสเตรเลีย เมนูอาหารของเขาจะบอกแค่เพียง ส่วนประกอบของอาหาร ไม่มีรูปให้ดู พอเจอเมนูแปลก  ๆ  ที่ไม่เคยได้ยินก็จินตนาการหน้าตาต่าง  ๆ  ไม่ออก ต้องใช้วิธีเสิร์ชในกูเกิ้ลหรือในไอจีว่าเป็นอย่างไร  ผมจึงคิดว่าถ้าถ่ายรูปอาหารลงในไอจีพร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพน่าจะดี เผื่อใครสนใจจะไปกินตามบ้าง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการทำบล็อกของตัวเองครับ  ถ้ารู้ว่าร้านไหนเปิดใหม่จะต้องไปกินเป็นคนแรก ๆ  พร้อมทิ้ง  Add  Location  ของร้าน เพื่อที่คนอื่นจะได้เข้ามา เห็นโพสต์นั้นด้วย รวมทั้งขยันไปอีเว้นท์ เพื่อทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน และบล็อกเกอร์คนอื่น  ๆ  เพราะสำหรับที่นี่ คอนเน็กชั่นสำคัญมาก  เพราะราคาอาหารที่นั่นค่อนข้างแพง และถ้าจะถ่ายให้สวยก็ควรสั่งมาเต็มโต๊ะ แต่ละมื้อจึงหมดเงินราว  ๆ  3,000  บาท  แล้วผมตระเวนไปทุกสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายจึงสูง ต้องใช้วิธีชวนเพื่อนมาแจมด้วย จะได้ช่วยกันหาร พอทำไปสักพักก็เริ่มได้รับการติดต่อจากร้านอาหารให้ผมไปถ่ายรูปรีวิว ผมใช้เวลาเกือบ  2  ปี จึงได้เป็นบล็อกเกอร์เต็มตัว โดยทำอาชีพช่างภาพให้ร้าน  The Grounds ไปด้วย จุดเริ่มต้นคือผมชอบร้านนี้มาก อาหารอร่อย ตกแต่งน่ารัก เวลาเขาจัดอีเว้นต์ผมก็ไปทุกงานจนทางร้านจำได้ อนุญาตให้ผมฝึกงานเป็นช่างภาพของร้านเขา กระทั่งตอนนี้ได้เป็นช่างภาพประจำ ทำหน้าที่ถ่ายรูปอาหารและอีเว้นต์ต่าง ๆ”

“หลักการง่าย ๆ ที่ทำให้ไอจีน่าติดตามคือ หนึ่ง ต้องมีโทนของตัวเอง สำหรับผมรูปที่โพสต์จะให้กลิ่นอายของกล้องฟิล์ม คือภาพชัดเจน เน้นสีสด ผมใช้กล้องฟูจิ รุ่น  X-T10  และ  X-T2   และไม่ใช้แฟลชเลย เน้นแสงธรรมชาติ ส่วนบรรยากาศร้านไม่ต้องเซตมาก เพราะคนที่ตามไปกินจะได้รู้สึกว่าที่เราลงเป็นของจริง สองคือ ต้องโฟกัสเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ผมเป็นบล็อกเกอร์สายกินก็เน้นลงรูปกินเป็นหลัก เพราะคนที่ตามดูเราน่าจะเป็นสายกินเหมือนกัน ต้องอยากเห็นอาหารมากกว่าอย่างอื่น สุดท้ายคือ รู้จักวิธีการ  Tag และ Hashtag   เคยมีบล็อกเกอร์ คนหนึ่งบอกว่า การมีคอนเทนต์ที่ดีไม่สำคัญเท่ากับช่องทางการเข้าถึงต่อให้รูปสวยแค่ไหน ถ้าคนไม่เห็นก็ไม่มีค่า โดยส่วนตัวผมชอบใช้ #breakfastinsydney เพราะชอบเขาไปดูแฮชแท็กนี้อยู่แล้ว และเป็นแฮชแท็กที่คนใช้กันเยอะ”

“ที่ สำคัญอีกอย่างคือ  เวลาในการโพสต์ครับ  ผมลงรูปเวลา  6  โมงเย็น และ  3  ทุ่ม ซึ่งตรงกับมื้อเย็นของคนไทยและซิดนีย์  (3  ทุ่มของซิดนีย์คือ 6  โมงเย็นที่เมืองไทย) เป็นช่วงพีคไทม์ของทั้งสองประเทศ เมื่อก่อนผม เคยจำกัดว่าจะลงเพียงวันละรูป แต่พักหลังได้รับการเชิญไปหลายร้าน และทางร้านเองก็คาดหวังว่าเราจะลงรูปให้เขาทันที  เลยปรับเป็นลงวันละ 2  –  3  รูป  และพยายามลงรูปให้ตรงกับช่วงเทศกาลด้วย  ซึ่งผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก  เช่น  ช่วงที่ผ่านมาออสเตรเลียเป็นวันแม่ ก็จะเน้นร้านอาหารที่มีสเปเชียลเมนูสำหรับวันแม่ครับ”

“ผมว่าไอจีมีทั้งความจริงและเฟคในเวลาเดียวกัน ทุกครั้งก่อนจะไปเที่ยวที่ไหน ผมจะเสิร์ชเขาไปใน Location เพื่อดูว่าหน้าตาสถานที่ที่จะไปนั้นเป็นอย่างไร ก็จะมีทั้งคนที่โพสต์รูปบรรยากาศจริงกับคนที่ตกแต่งภาพ ย้อมสีให้สถานที่นั้น ซึ่งจะทำให้เราเห็นมุมมองภาพ ที่หลากหลายกว่ามุมเดียวครับ ความสนุกของการเล่นไอจีอยู่ตรงนี้เอง”

เรื่อง : ปาจรีย์

ภาพ : @paulpayasalad

จาก : นิตยสารแพรวฉบับ 933

The post เส้นทางสายกิน ปลา-ธีรพัฒน์ เอกบัณฑ์ บล็อกเกอร์ชาวไทยที่มาแรงในซิดนีย์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เรด เวลเวต (Red Velvet) เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮ็อตแห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กลับมาเพิ่มพลังให้ซัมเมอร์นี้อีกครั้ง พร้อมซัมเมอร์ มินิอัลบั้ม Summer Magic ที่มาโชว์เสน่ห์สีสันของเพลงสุดสดชื่นตามสไตล์ของ Red Velvet ให้ความร้อนในซัมเมอร์นี้ของทุกคนได้หายไป ด้วยเพลงเปิดตัวสุดสดใส และทรงพลังอย่าง Power Up

สำหรับอัลบั้มใหม่นี้ ประกอบไปด้วยเพลงใหม่ 6 เพลง บวกกับโบนัส แทร็คอีกหนึ่งเพลง รวมทั้งสิ้น 7 เพลงด้วยกัน โดยมีเพลงเปิดตัวชื่อว่า Power Up เพลงแนวป๊อป แดนซ์จังหวะเร็วหนักแน่นติดหู และท่อนฮุคที่น่ารักกับซาวด์เกมแบบ 8 บิต ส่วนเนื้อเพลงพูดถึงการที่เราจะสามารถทำงานได้อย่างน่าตื่นเต้น ถ้าหากเราได้เล่นอย่างสนุกสนานและได้รับพลัง ซึ่งในมิวสิควีดีโอเพลงนี้ ก็เต็มไปด้วยสีสันสดใส และบรรยากาศสุดสดชื่น บวกกับเสน่ห์ความสวยและน่ารักของสาวๆ ที่มาช่วยเพิ่มพลังให้ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนระอุเหมาะกับซัมเมอร์ได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากที่ปล่อยมิวสิควีดิโอออกมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็มียอดวิวทะลุหลัก 7 ล้านวิวบน Youtube เป็นที่เรียบร้อย

ด้านกระแสตอบรับของอัลบั้มชุดนี้ เรียกได้ว่า เพียงแค่เพลงเปิดตัว Power Up ถูกปล่อยออกมาก็ฮ็อตทะลุปรอท เพราะสามารถกวาดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงออนไลน์หลักของเกาหลีเรียบทุกชาร์ต ทั้ง Melon, Genie, Bugs Music, Olleh, Mnet, Naver Music และ Soribada รวมถึงการขึ้นแท่นเป็นอัลบั้มขายดีอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มเกาหลีอย่าง Yes24, Hottracks และ Kyobo Book Centre เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ ในต่างประเทศเองก็มาแรงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการคว้าอันดับที่ 1 ในชาร์ต iTunes ทั่วโลกกว่า 28 ประเทศ ทั้งสวีเดน, ฟินแลนด์, กรีซ, ตุรกี, โรมาเนีย, เบลีซ, สเปน, โปรตุเกส, บราซิล, อาร์เจนตินา, แม็กซิโก, ชิลี, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, อินโด, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, รัสเซีย, คาซัคสถาน, สิงคโปร์, ซาอุดีอาระเบีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, บรูไน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และประเทศไทย ไปจนถึงครองอันดับ 1 ในชาร์ตเพลง Xiami Music ของจีน และอัลบั้มเกาหลียอดนิยมอันดับ 1 ใน Apple Music เรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความร้อนแรงจากแฟนเพลงทั่วโลกของเกิร์ลกรุ๊ปยอดนิยม Red Velvet ได้เป็นอย่างดี

โดยในฤดูร้อนปีที่ผ่านมานั้น Red Velvet ได้กวาดชาร์ตเพลงต่าง ๆ เรียบด้วยเพลง ‘Red Flavor’ จนขึ้นแท่นเป็น ‘สุดยอดซัมเมอร์ควีน 2017’ อีกทั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สาว ๆ ก็เดินหน้าสร้างความฮิตได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ด้วยเพลงเปิดตัว ‘Bad Boy’ จากอัลบั้มรีแพ็คเกจชุดที่ 2 ทั้งการคว้าอันดับที่ 1 จากชาร์ตเพลงออนไลน์ และอัลบั้มในเกาหลี, อันดับที่ 1 จากชาร์ต iTunes 16 ประเทศทั่วโลก, อันดับที่ 1 บนชาร์ตของ Xiami Music ของประเทศจีน, อันดับที่ 1 บนชาร์ตเพลงเกาหลีของ KKBOX ในไต้หวัน, ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ Red Velvet ได้เปิดฉากคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่ 2 ‘REDMARE’ เมื่อวันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ OLYMPIC HANDBALL STADIUM ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมโชว์เพลงใหม่ ‘Power Up’ เป็นครั้งแรก โดยคอนเสิร์ตนี้ ถือเป็นการจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของสาว ๆ ในรอบ 1 ปีหลังจากคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ‘Red Room’ ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งบัตรของทั้ง 2 รอบก็ได้ถูกขายหมดเกลี้ยงทุกที่ โดยสาว ๆ ได้จัดเต็มโชว์เสน่ห์ และเวทีการแสดงอันงดงามราวกับความฝันผ่านเพลงสุดสดใสทำให้ผู้ชมทั้ง 2 วันกว่า 10,000 คนได้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่า ‘Red Velvet’ กำลังจะมาหาตามเสียงเรียกร้องของแฟนคลับชาวไทย พร้อมกับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย “Red Velvet 2nd Concert [REDMARE] in BANGKOK” (เรด เวลเวต​ เซเคินด์ คอนเสิร์ต เร้ดแมร์ อิน แบงค็อก) ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2561 เวลา 17.00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี สามารถติดตามข่าวสาร และรายละเอียดเพิ่มเติมของงานคอนเสิร์ต ได้ทาง SM True Facebook www.facebook.com/smtruethailand/

The post เรด เวลเวต 5 สาว ราชินีเพลงซัมเมอร์ของเพลงเคป็อป appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ทำเอาหนุ่มๆ หลายคนตาร้อนผ่าวเมื่อ ทิม ทีโบว์ อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง ออกมาเผยว่าเขากำลังคบหาดูใจกับ  เดมี ลีห์ เนล ปีเตอร์ส เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สปี 2017

งานนี้ก็ไม่รู้จะเรียกว่าหล่อเลือกได้หรือเปล่าสำหรับพ่อหนุ่ม ทิม ที่ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์กับ ESPN สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของอเมริกา ว่าเขากำลังปลูกต้นรักกับ สาว เดมี โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า

“She is a really special girl and I am very lucky and blessed for her coming into my life, “I am usually very private with these things but I am very thankful.”

เธอเป็นผู้หญิงที่พิเศษสุดๆ ผมรู้สึกโชคดีมาก และมีความสุข ที่เธอก้าวเข้ามาในชีวิตผม ปกติแล้วผมค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ยิ่งเรื่องพวกนี้ด้วยแล้ว แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณเธอมากๆ

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทิมได้เคยให้สัมภาษณ์กับ People Magazine ก่อนที่จะคบหาดูใจกับสาวเดมี ว่า

“I’m looking, but I just can’t seem to find anyone,”I don’t want to be single; I’m ready to settle down and start a family. I want to have kids. I have so many things I want. No one will be happier than me when I finally find the right person.”

ผมกำลังมองหา แต่ไม่สามารถมองหาใครได้เลย ผมไม่อยากเป็นโสด ผมพร้อมที่ปักหลักและสร้างครอบครัว ผมอยากมีลูก ผมมีหลายอย่างที่ต้องการ คงไม่มีใครมีความสุขมากกว่าผม เมื่อผมเจอคนที่ใช่

และยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งคู่มากยิ่งขึ้นเมื่อพี่สาวทิมได้โพสรูปเธอ พร้อมกับพี่และน้องชายทั้งสองลงอินสตาแกรม ซึ่งในภาพนั้นก็มีสาวเดมีร่วมเฟรมอยู่ด้วยนะเออ จะรวมสาวเดมีว่าเป็นสมาชิกของครอบครัวอีกคนด้วยหรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน

หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า เมื่อปี 2015 เขาเคยปลูกต้นรักกับ โอลิเวีย คัลโป มิสยูนิเวิร์ส์ปี 2012 แต่ต้องเลิกรากันไปด้วยข่าวลือ ที่เม้าท์กันให้แซดว่า โอลิเวียสะบั้นรักหนุ่มทิม เหตุเพราะเขาไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย !! เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ เราก็ไม่อาจทราบได้ แต่ก็มีเค้าอยู่ว่า เขาเป็นคนเคร่งในศาสนามาก และจะไม่ยอมมีเซ็กส์เด็ดขาดหากไม่ได้แต่งงานก่อน

ก็ไม่รู้ว่าหนุ่มทิม เขามีวาทะศิลป์อย่างไรถึงได้มัดใจสองสาวสวยระดับโลกได้อยู่หมัดแต่ก็น้อ โดนสาวคนแรกหักอกเพราะเรื่องอย่างว่าซะงั้น  งานนี้ทิมต้องใช้ความอดทน อดกลั้น มากแค่ไหน ที่จะไม่ทำกิจกรรมร่วมกับสาวโอลิเวีย ก็ดูสิคุณ หุ่นปั๊วะ หน้าเป๊ะขนาดนี้ แต่พ่อหนุ่มทิมของเราก็ตั้งอยู่ในศีล ในธรรม ถ้าเป็นหนุ่มๆ คนอื่นแล้วล่ะก็อย่าให้พูด

ส่วนสาวเดมี นั้นก็คงต้องรับรู้ถึงกฎข้อนี้เป็นอย่างดี แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น เพราะคนเรารักกันที่ใจ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงจ๊ะ ของแบบนี้มันรอกันได้….

ภาพและข้อมูล : https://people.com,  timtebow, demileighnp, oliviaculpo

The post ผู้แบบนี้ยังมีอยู่หรือ ? ทิม ทีโบว์ แฟนใหม่เดมี ผมยังปักตะไคร้ได้ครัช! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

โรแมนติก! ภัทร จึงกานต์กุล เซอร์ไพร้ส์ คุกเข่าขอ จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี แต่งงาน ฝ่ายหญิงซาบซึ้งน้ำตาเอ่อ “ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก”

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สองทายาทมหาเศรษฐี ภัทร จึงกานต์กุล ทายาทเจ้าสัว บริษัท เบน-เฮอร์ โปรดักส์ และนักแสดงสาว จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ทายาทหมื่นล้านเครือพิธานกรุ๊ป ได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาประกอบพิธีสมรสประทาน โดยทั้งสองมีแผนที่จะจัดงานฉลองสมรสประทานในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

แม้จะประกอบพิธีสมรสประทานไปแล้ว แต่นักแสดงสาวก็ยังไม่เคยถูกขอแต่งงาน ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่ผู้หญิงหลายคนอยากมี แม้ว่าจุ้มจิ้มไม่ได้เอ่ยปาก แต่ล่าสุดหนุ่มภัทรก็จัดให้ ซึ่งจัดขึ้นในงานฉลองวันเกิดครบรอบ 33 ปีของฝ่ายหญิง ภัทรเซอร์ไพร้สคุกเข่าขอแต่งงาน ท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทั้งเพื่อนในวงการและนอกวงการบันเทิง ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่ซาบซึ้งมากๆ หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมากว่า 7 ปี

ทั้งนี้นักแสดงสาวได้เผยความรู้สึกผ่านตัวอักษรว่า “ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี กับเซอร์ไพร้ส์ 4 ชั้น เมื่อคืนนี้มีความสุขมาก ซึ้งมากและจับโป๊ะไม่ได้เลยจริงๆ ขอบคุณเพื่อนรักทุกคนจากใจ วันเกิดปีนี้ ถ้าขอพรได้จริงก็มีแค่เรื่องเดียวที่อยากจะขอคือขอให้พวกเราเป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดไป และที่สำคัญที่สุดขอบคุณคู่ชีวิตที่แสนดี @patjungkankul ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีในทุกๆ วัน จากนี้จะทำให้ดีที่สุด เพื่อทำให้พี่มีความสุขที่สุดไปตลอดชีวิตเช่นกันค่ะ”

ขอบคุณคู่ชีวิตที่แสนดีที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีในทุกๆ วัน

และแม้อายุของทั้งคู่จะห่างกันถึง 5 ปี แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค โดยจุ้มจิ้มเคยให้สัมภาษณ์ถึงความรักครั้งนี้ว่า ฝ่ายชายดูแลเธอได้ดีมากๆ แม้จะไม่ค่อยมีเวลา เพราะทำงานหนักและต้องบินกลับบ้านไปมาระหว่างหาดใหญ่และกรุงเทพฯ อยู่ตลอด แต่ความสัมพันธ์ก็ยังดำเนินไปได้ด้วยดี ก่อนจบท้ายด้วยว่าความรักทำให้เธอมีความสุขขึ้นและรู้สึกโชคดีมากๆ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า 1 คำที่นักแสดงสาวหน้าหวานย้ำมาตลอดทุกๆ การสัมภาษณ์ นับตั้งแต่ที่คบหาดูใจกันจนถึงวันที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่กันก็คือ ภัทรสามารถดูแลเธอเป็นอย่างดีมากจริงๆ …แบบนี้เองที่สาวจุ้มจิ้มบอกว่า ขอบคุณที่ทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด

ภาพจาก : Jakawin Photography

The post So Sweet! ความรักดี คนรักดี “จุ้มจิ้ม-วรนันท์” กับความสุขของว่าที่เจ้าสาว appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ไม่ว่าคุณจะเคยอ่านเรื่องราวความรักของ JM เจนี่-มิกกี้ มาอย่างไร เราอยากให้คุณอ่านหลายๆ คำตอบในครั้งนี้ ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจชีวิตที่ผ่านมาและความคิดของเธอมากขึ้น

วางแผงเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ นิตยสารแพรว ฉบับล่าสุด 935 ซึ่งเล่มนี้ได้คู่รัก talk of the town JM เจนี่-มิกกี้ มาขึ้นปก ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์แนวสปอร์ต ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่บรรยากาศกลับหวานชื่นราวกับถ่ายพรีเวดดิ้ง แหม! ก็ใกล้วิวาห์แล้วก็ต้องมีสวีทๆ กันบ้าง งานนี้บอกเลยว่าไม่ต้องบิ้วท์ เพราะอินเนอร์และความหวานมาเต็มตั้งแต่ก้าวมาถึงสตูดิโอแล้วจ้า

นอกจากการถ่ายแบบที่แซ่บแล้ว บทสัมภาษณ์ก็แซ่บ และอธิบายอย่างชัดเจน จึงน่าจะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักตัวตนของพวกเขามากขึ้น ซึ่งวันนี้ขอนำบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งมาให้ได้อ่านกันค่ะ

“เจนี่” พูดถึงความรักที่ผ่านมาของเธอว่า “ก็คือความรักหมดแหละ ต้องบอกว่าด้วยสันดาน “เจนี่” มีแต่ความรักที่ให้อย่างเดียวมาตลอด ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเหมือนกัน เพราะเวลารักใคร “เจนี่” ไม่เคยไปแบบค่อยๆ แต่เป็นการกระโดด บางครั้งก็พลาด ซึ่งถ้าไม่นับว่าเราเป็น “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่ทำงานในวงการบันเทิง ใครบ้างที่ไม่เคยพลาด ไม่ว่าจะเรื่องความรัก , การทำงาน หรือชีวิตส่วนตัว แต่ทั้งนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้มีวันนี้ “เจนี่” ไม่เคยเสียใจกับอดีตสักวินาทีเดียว ไม่เคยเศร้ากับสิ่งที่ผ่านมา เจนี่ถือว่ามันเป็นบทเรียนของชีวิต”

“เจนี่” บอกว่าเธอเป็นคนที่รักใครรักแบบหมดใจ “เราใช้ความรู้สึกไง รักแล้วรักคนเดียวไม่เคยเผื่อใจให้ใคร แต่พอเกิดเรื่องก็ไม่เคยมีความรู้สึกเกลียดชังหรือคุยกันไม่ได้ “เจนี่” คุยกับคนที่เคยคบได้เราเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนกันได้ เพราะความรักเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่ารักไม่เป็น ดีกว่าไม่มีคนรักบนโลกใบนี้”

ในคำถามที่ว่า “ไม่คิดว่าวันนี้เจนี่จะเปิดใจเรื่องความรักครั้งใหม่ได้ขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยตอบเท่าไร” เธอยิ้มก่อนตั้งใจตอบจริงจังว่า “ไม่รู้เหมือนกัน (ยิ้ม) “เจนี่” อายุจะ 40 แล้ว ถ้าต้องไม่เป็นตัวของตัวเองหรือพยายามเป็นใคร แบบนั้นไม่ใช่ “เจนี่” เพราะในชีวิตเรามีหมดทุกอย่างแล้ว ถ้าพูดเรื่องสตางค์ “เจนี่” ทำงานมากว่า 20 ปี เก็บจนล้นแล้ว วันนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว มีครบมากๆ ทุกครั้งที่สวดมนต์จะขอบคุณเทวดาที่คุ้มครองเรา เวลาไหว้พระไม่เคยขออะไรเลย เพราะรู้สึกว่าเราพอแล้ว มันสุขจนล้นแล้ว ต้องแบ่งปันความสุขให้หลานๆ หรือคนที่ไม่มีโอกาสแบบเจนี่”

“ความจริงในการพูดเรื่องความรัก “เจนี่” มีกรอบของตัวเอง ไม่ใช่ไม่อยากพูด ใครบ้างที่มีความสุขแล้วไม่อยากตะโกนบอกฟ้า แต่ต้องดูด้วยว่าใครคนนั้นอยากรู้หรือเปล่า บางคนไม่สน บางคนแอนตี้มีอคติเขาอาจฟังแล้วรู้สึกแหวะ เจนี่คิดว่าการอยู่แบบคลานต่ำดีที่สุด ถ้าอยู่ในที่สูงหรือสว่างมากๆ ยิ่งต้องค้อมตัวเองลงมาให้ต่ำขนาบพื้น ไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในจุดเชิดเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นแบบนั้น”

“เจนี่” ยังบอกอีกว่า ที่หลายครั้งไม่ได้พูดเพราะด้วยความเป็น “เจนี่” มีทั้งคนที่คาดหวัง เหยียบซ้ำ รอสมน้ำหน้า “เจนี่” เลยไม่อยากพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นอะไรที่ออกจากปาก “เจนี่” จริงๆ อยากให้เป็นไปตามนั้น อัพเดทวันต่อวัน เดือนต่อเดือน ไม่อยากให้อะไรไปไกลกว่านั้น”

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ที่นิตยสารแพรว ฉบับ 935 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 935 (10 สิงหาคม 2561)  เรื่องโดย ปารัณ เจียมจิตต์ตรง ภาพโดย วสันต์ ทวีวรรธนะ

The post JM เจนี่-มิกกี้ “ใครบ้างมีความสุขแล้วไม่อยากตะโกนบอกฟ้า” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คู่รักคนดัง กรณ์-ริต้า แฮ็ปปี้ความรักแบบไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร รับคุยกันเรื่องงานแต่งงาน ไม่รีบร้อนรอจังหวะจังหวะเพอร์เฟกต์ ยืนยันรูปถ่ายที่ประเทศฝรั่งเศส ไม่ใช่ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างที่เป็นข่าว

หนุ่มนักธุรกิจและเซเลบริตี้คนดัง กรณ์ ณรงค์เดช

ถึงคู่รักคนดัง กรณ์-ริต้า จะไม่ได้มีภาพสวีทกันถี่ แต่พอหวานขึ้นมาก็ทำคนโสดอิจฉาตาร้อนกันทั้งเมืองเลย  โดยเมื่อไม่นานมานี้ “กรณ์ ณรงค์เดช” และ “ศรีริต้า เจนเซ่น” ตกเป็นข่าวครึกโครมเพราะภาพสุดโรแมนติกที่ประเทศฝรั่งเศสราวกับถ่ายพรีเวดดิ้ง จนมีคนเข้ามาแสดงความยินดีล่วงหน้ามากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้นางเอกคนสวย “ศรีริต้า” ได้ออกมาอธิบายแล้วว่าเป็นภาพถ่ายปกติไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดกันไปไกล ซึ่งเมื่อถามถึงเรื่องแต่งงานดาราสาวก็แอบตอบแบบมีลุ้น ซะอย่างนั้น!

ภาพสุดโรแมนติกที่ประเทศฝรั่งเศส

ราวกับถ่ายพรีเวดดิ้ง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา “กรณ์ ณรงค์เดช” ได้มาร่วมงาน “ตือสนิท ฉลองครบรอบ 1 ปี” และได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวดังกล่าวด้วย โดยเซเลบริตี้หนุ่มคนดังบอกว่า “จริงๆ ภาพนั้นไม่ได้เป็นการถ่ายพรีเวดดิ้ง เราถ่ายกันเล่นๆ คือเวลาเราไปเที่ยวเราก็จะถ่ายเซลฟี่กันตลอดเวลา ริต้าเขาบอกว่าถ้ามีรูปสวยๆ เมื่อไปถึงหน้างานผมก็เสิร์ชกูเกิ้ลพอดีมีช่างภาพของที่โน้น จ้างช่างภาพชั่วโมงเดียวไม่ได้แพงอะไรมากมายครับ ถามว่าให้อารมณ์เหมือนพรีเวดดิ้ง ก็เหมือนเวลาถ่ายกันทั่วไปแหละครับ แต่ริต้าเขาสวยไงมันก็เลยดูอลังการครับ”

นักแสดงสาว ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น

โดยหนุ่ม “กรณ์”ยังยอมรับว่าเรื่องอนาคตมีคุยกันไว้เหมือนกันแต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องรอจังหวะที่เหมาะสม “เอาเป็นว่าถ้าถึงวันนั้นเดี๋ยวจะรีบมาบอกแล้วกันครับ ยังไม่ได้แพลนใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้เราก็มีคุยกันบ้างนิดหน่อย ก็ไม่ได้ติดอะไรให้ทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไปครับ รอให้ทุกอย่างมันลงตัว ก็รอให้จังหวะทุกอย่างมันเพอร์เฟกต์แล้วกัน”

เมื่อถามว่าโอกาสจะในปีนี้พอจะเป็นไปได้หรือเปล่านั้น “คุณกรณ์” บอกว่า “เดี๋ยวถ้ารู้แล้วจะรีบมาบอกแล้วกันครับ สำหรับตอนนี้แฮ็ปปี้มากครับ เราอยู่กับเขาแล้วสบายใจ เราก็เป็นตัวของตัวเองเขาก็เหมือนกัน มันไม่ต้องพยายาม ปกติเวลาเราคบกับใคร ช่วงแรกก็เป็นช่วงโปรโมชั่นใช่ไหม เราก็จะฝืนตัวเองบางอย่างไม่อยากทำ แต่อันนี้คือชิลตั้งแต่แรกเลย ชัดเจนตั้งแต่แรก มันก็เลยเห็นความเป็นตัวตนของกันและกันมันก็เลยลงตัวครับ แต่ช่วงแรกก็มีเก็กๆ นิดหนึ่งนะ (หัวเราะ)”

ทั้งนี้เซเลบริตี้หนุ่มได้เผยให้ลุ้นเล็กๆ ด้วยว่า “จริงๆ ก็เขินทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้แหละครับ ไปเดินด้วยกันมีคนมองก็ยังเขินอยู่ครับไม่ชินครับ กับคนนี้ผมมั่นใจแล้วแต่ว่าเรื่องนี้ถ้าคุยก็คงคุยกันเองก่อนแล้วค่อยมาบอกแล้วกันเรื่องคุยกับผู้ใหญ่ก็ยังครับ ริต้าเขาดูแลดีครับ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันครับ เรื่องงานทำด้วยกันยังไม่มี ก็ให้คำแนะนำซึ่งกันและกันมากกว่าในเรื่องธุรกิจครับ”

อย่างไรก็ตามเร็วๆนี้ “ศรีริต้า” สลัดภาพนางเอกรับบทร้ายครั้งแรกในละครเรื่อง “เพลิงรักเพลิงแค้น” ซึ่งหนุ่ม “กรณ์”ก็ได้เผยว่า“ผมก็ยังแซวคาแรคเตอร์ที่เขาเล่นเรื่องใหม่ บทอันธิกา ละครเพลิงรักเพลิงแค้น เวลาเขาหงุดหงิด ผมก็แซวว่าอย่าเพิ่งเอาอันธิกามานะ  นานๆ ทีจะเจอเขาอารมณ์นี้ พอถ่ายบ่อยก็จะอินเนอะ ผมก็แกล้งแซวเล่น ไม่กลัวครับ เขาก็ติดมานิดหน่อย เป็นธรรมชาติของคนเราเวลาทำงานเหนื่อยๆ ก็มีนิดหน่อย ผมก็พยายามชวนคุยเรื่องตลกคลายเครียดครับ”

The post งานแต่งต้องมา! กรณ์-ริต้า รับคุยเรื่องวิวาห์ รอจังหวะเพอร์เฟกต์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ส่องไลฟ์สไตล์ อีหยาด แห่งละครเรื่องนางบาป ตัวจริงสวยหวานใช่เล่น! “ฝ้าย – นันทนัช โล่ห์สุวรรณ” นางเอกเลือดใหม่ของช่อง 3 ที่ไม่ได้มีดีแค่การแสดงเท่านั้น

นักแสดงจากละครเรื่อง “นางบาป” (จากซ้าย) ฝ้าย- นันทนัช โล่ห์สุวรรณ,โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล,นาวินต้าร์-นาวิน เยาวพลกุล  และ กวาง-วรรณปิยะ ออมสินนพกุล

ออกอากาศไป 3 ตอนแต่เนื้อเรื่องเดินไวแถมเข้มข้นตั้งแต่ตอนแรกเลยสำหรับละครพีเรียดเรื่อง “นางบาป” ที่นำกลับมารีเมคใหม่โดยค่าย “ดวงมาลีมณีจันทร์” ซึ่งอย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือเหล่านักแสดงของเรื่องที่ไม่จำเจ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่คัดเลือกมาลองขับเคี่ยวฝีมือกัน

ฝ้าย- นันทนัช รับบท หยาด

ซึ่งหนึ่งในนักแสดงที่ถูกจับตามองก็คือ “ฝ้าย- นันทนัช โล่ห์สุวรรณ” รับบท หยาด น้องสาวของ “หยด” รับบทโดยนักแสดงสาวเจ้าบทบาท “โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” โดยบทของ “ฝ้าย” ในเวอร์ชั่นเดิม 2548 แสดงโดย “เอ๊ะ- อิศริยา สายสนั่น” โดยทันทีที่มีภาพฟิตติ้งออกมาเธอก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะใบหน้าเธอมีความคล้ายกับ “โดนัท” อย่างไม่น่าเชื่อ สมกับที่แสดงเป็นพี่-น้องกันจริงๆ

นางบาป 2561

นางบาป 2548

สำหรับประวัติของ “ฝ้าย-นันทนัช” เธอเกิดวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นพิธีกรในรายการ สตรอเบอรี่ชีสเค้กรุ่นที่ 4 เป็นคนรักเสียงดนตรี รักอิสระ จบการศึกษาจากโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ปัจจุบันเป็นนักศึกษาที่คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และตอนนี้ฝ้ายก็ได้ผันตัวจากพิธีกรมาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัวแล้วกับผลงานละครเรื่องแรก “หัวใจใกล้รุ่ง” หนึ่งในซีรีส์ชุด “ลูกไม้ของพ่อ” จากนั้นมีผลงานตามออกมาอีกหลายเรื่อง เช่น ลูกไม้ลายรัก,ป๊ะป๋าจำเป็น, รักหลงโรง นางบาป และกลิ่นกาสะลอง

นอกจากความสามารถทางด้านการแสดงและพิธีกรแล้ว “ฝ้าย” ยังมีเสียงร้องที่ไพเราะอีกด้วย โดยในละครเรื่องป๊ะป๋าจำเป็น เธอยังได้ร้องเพลงประกอบที่ชื่อว่า “รักเธอไม่รู้ตัว” เรียกว่าเป็นนักแสดงสาวที่มีความสามารถทางด้านบันเทิงครบเครื่อง

สำหรับใครที่ชื่นชอบสาวคนนี้สามารถติดตามเธอได้ในละครเรื่อง “นางบาป” ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3

ภาพจาก : IG @nuntanutch_fai

The post สวย หวาน บาดใจ! ฝ้าย-นันทนัช สลัดลุคนางทาส อีหยาด เจ้าค่ะ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 “นางงาม” ได้กลายเป็นเรื่องราวที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือบนเวทีการประกวดใด ก็จะกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อยู่เสมอ ซึ่ง “นางสาวไทย” นับเป็นการประกวดนางงามเวทีเก่าแก่ หากไม่นับรวมการเปลี่ยนชื่อจาก “นางสาวสยาม” มาเป็น “นางสาวไทย” แล้วล่ะก็ จะเรียกว่าเป็นการประกวดนางงามเวทีแรกของประเทศไทยเลยก็ได้

สำหรับในปีนี้ที่กระแสนางงามยังคงมาแรงเว่อร์ แถมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ด้วย แพรวดอทคอมจึงอยากจะพาไปย้อนชมตำนานแห่งความงามของวงการนางงามกันสักหน่อย กับความสวยสง่าแบบเอ็กซ์คลูซีฟของเหล่านางสาวไทยในยุคบุกเบิก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรวมตัวกันเพื่อมาอวดโฉมบนหน้านิตยสารแพรวเท่านั้น

อาภัสรา หงสกุล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับนางสาวไทยคนที่ 14 หลังจากการหยุดการประกวดนางสาวไทยไปนานถึง 10 ปีเต็ม และถัดจากวันนั้นไปอีกเกือบปี น.ส. อาภัสรา หงสกุล ก็คว้าตำแหน่งสาวงามที่สุดในโลกมาให้คนไทยทั้งประเทศชื่นชม

จีรนันทน์ เศวตนันทน์

เล็ก-จีรนันทน์ เศวตนันทน์ เป็นนางสาวไทยปี 2508 โดยก่อนหน้าที่จะมาประกวด เธอเดินทางไปศึกษาต่อที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 20 ปี และอีก 4 ปีต่อมา พล.ต.ต.จรุง เศวตนันทน์ ซึ่งเป็นคุณพ่อได้เขียนจดหมายเรียกตัวลูกสาวกลับเมืองไทย เพื่อมาประกวดนางสาวไทยในนามของราชตฤณมัยสมาคม หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อพาเรือนร่างสูง 5 ฟุต 6 นิ้ว และสัดส่วน 36-24-36 ชนะใจกรรมการ ได้ตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง และบนเวทีนางงามจักรวาล เธอกลับเมืองไทยโดยพ่วงตำแหน่งรองอันดับ 2 ติดไม้ติดมือกลับมา

ประภัสสร เทียนสุวรรณ

เส้นทางการเป็นนางงามของเธอเริ่มจากไปแต่งหน้าให้ผู้เข้าประกวดนางงามบ้านหมี่ สุดท้ายปรากฏว่าเธอกลายเป็นนางงามบ้านหมี่เสียเอง จึงเป็นตัวแทนจังหวัดลพบุรีมาประกวดนางสาวไทย และได้เป็นนางสาวไทยประจำปี 2509 แต่ไม่ได้ไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส เพราะอายุยังไม่ถึง 18 ปี

สาวิณี ปัจฉิมสวัสดิ์

เอ๋-สาวิณี ปัจฉิมสวัสดิ์ นางสาวไทยปี 2527 อดีตธิดาโดม แอลเอ และนักกีฬาว่ายน้ำของ Temple City High School ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของการเข้าร่วมประกวด คือ คิดถึงเมืองไทย เธอจึงคิดว่ามาประกวดคราวนี้ได้หรือไม่ได้ก็ยังได้มาเที่ยวเมืองไทยกับคุณแม่ หลังประกวดนางงามจักรวาลซึ่งเธอผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีกเพียงปีกว่าก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกับ กัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ ซึ่งเข้ามาทำความรู้จักกันตั้งแต่เธอเป็นนางสาวไทยหมาดๆ

ทวีพร สิงหะคเชนทร์

เธอเป็นนางสาวไทยที่มีผิวเนียนผ่อง ร่างสูง ดูสวยสง่า แต่คงเป็นเพราะเธอถ่ายรูปไม่ขึ้น เมื่อได้รับตำแหน่งนางสาวไทยปี 2529 จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านร้านตลาดว่าทวีพรยิ้มไม่สวยบ้าง ทวีพรใส่ฟันปลอมบ้าง แต่แล้วเสียงต่างๆ ก็จางหายไปในที่สุด หลังการประกวดเธอนั่งประจำอยู่ที่ร้านเอสแอนด์พี (สาขาทองหล่อ) ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ส่งให้เธอได้ตำแหน่งครั้งนี้ ต่อมาไม่นานเธอก็ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของบริษัทการบินไทย อันเป็นอาชีพในฝันของหญิงสาวทั้งหลาย

ชุติมา นัยนา

ชุติมา นัยนา หรือชื่อจริงว่า อุมาพร นัยนานนท์ นางสาวไทยปี 2530 ที่แสนซน ฉลาด ปราดเปรียว และช่างพูดเป็นที่หนึ่ง ทำให้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนางสาวไทยอยู่นั้น เธอได้รับตำแหน่งประชาสัมพันธ์ชั่วคราวของบริษัทสบู่ปาล์มโอลีฟด้วย แทนที่จะเป็นแค่ตัวแทนแจกสบู่เหมือนสาวงามปีก่อนๆ

ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก

หลังจากสวมมงกุฎนางสาวไทยได้ไม่นาน ในปีเดียวกัน (พ.ศ. 2531) ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ก็ได้ครองตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทยควบคู่ไปด้วย ทำให้ยุคนั้นไม่ว่าจะเป็นลูกเล็กเด็กแดงหรือผู้ใหญ่ต่างก็คลั่งไคล้ “พี่ปุ๋ย” กันเหลือเกิน

ยลดา วจีไกรลาศ

ยลดา วจีไกรลาศ นางสาวไทยประจำปี 2532 เธอเข้าร่วมประกวดเพียงเพราะอยากใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์ด้วยการหาประสบการณ์ใหม่ๆ และไม่เคยคาดคิดเลยว่าตัวเองจะได้ตำแหน่งใดๆ แต่ในการประกวดครั้งนั้นเธอกลับได้ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพไปครองอีกด้วย

ภัสราภรณ์ ชัยมงคล

นางสาวไทยปี 2533 ในขณะที่กำลังจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เธอได้เข้าประกวดนางสาวไทยด้วยแรงเชียร์จากเพื่อนๆ และต้องการหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง ทำให้ปีนั้นกลายเป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งในชีวิตเธอ เพราะได้เป็นทั้งบัณฑิตและนางสาวไทย

จิระประภา เศวตนันทน์

เธอคว้าตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2534 เพราะความคมเข้มแบบไทยแท้ๆ เรียกว่าไม่เสียชื่อดีกรีหลานสาวรองนางงามจักรวาล ซึ่งหลังพ้นจากตำแหน่ง เธอแบ่งเวลาให้กับการทำงานประจำในช่วงกลางวันและสานต่อการเรียนในช่วงกลางคืน ก่อนจะเหินฟ้าไปศึกษาต่อที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา

อรอนงค์ ปัญญาวงศ์

เพราะความสามารถในเชิงนาฏศิลป์ที่ร่ำเรียนมาจากวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ อรอนงค์หรือที่เธอเรียกแทนตัวเองว่า “น้องอร” จึงสามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2535 มาได้ด้วยท่ารำสาวไหมอันลือชื่อ และเธอยังเป็นนางสาวไทยเพียงคนเดียวที่โชคดี มีโอกาสเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สในเมืองไทย เพราะปีนั้นกองประกวดเข้ามาจัดการประกวดที่บ้านเราพอดี

ฉัตรฑริกา อุบลศิริ

นางสาวไทยปี 2536 ที่มากับดวง ไม่ใช่ว่าเธอไม่สวย แต่เพราะตั้งแต่เริ่มสมัครเข้าประกวด ชื่อเล่นว่า “ปุ๊ก” ของเธอก็ไปพ้องกับ ปุ๊ก-อาภัสรา ทำให้ใครหลายคนอดหันมามองไม่ได้

อารียา สิริโสภา

หลังจากได้รับตำแหน่งผู้หญิงสวยที่สุดในประเทศไทยเมื่อปี 2537 แล้ว ป๊อป-อารียา ก็สวยวันสวยคืน เรียกว่าไม่เคยเห็นนิตยสารผู้หญิงเล่มไหนยังไม่มีเธอคนนี้ขึ้นปกเลย นอกจากงานสวยๆ งามๆ แล้ว เธอยังมีงานที่ต้องใช้สติปัญญาและความสามารถอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนหนังสือ งานพิธีกร หรือได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษ

ภาวดี วิเชียรรัตน์

“มะปราง” หรือ “ซูซานน่า” นางสาวไทยปี 2538 อดีตธิดาโดม แอลเอ ที่สามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และสเปน เพราะครอบครัวของเธอไปตั้งหลักปักฐานเปิดร้านอาหารไทยอยู่ในมหานครลอสแองเจลิส ตั้งแต่เธออายุได้ 4 ขวบ

ขอบอกเลยว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ แถมแต่ละคนก็ยังทั้งสวยและมีความสามารถไม่น้อยหน้าไปกว่านางงามรุ่นใหม่ๆ เลยทีเดียว

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 409 วันที่ 10 กันยายน 2539

The post ตำนานมงลง! ย้อนชม 14 นางสาวไทย งามอย่างมีคุณค่าบนหน้านิตยสารแพรว appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นักแสดงและทีมงานซีรี่ส์เกาหลี What’s Wrong With Secretary Kim ยกกองมาเมืองไทย ด้านนางเอก พัคมินยอง เผยลุคสุดคิวต์ทรงผมสไตล์ “พจมาน สว่างวงศ์” น่ารักแปลกตาที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ

“พัคมินยอง” รับบท เลขาคิม จากซีรี่ส์ What’s Wrong With Secretary Kim

นักแสดงและทีมงานซีรี่ส์เกาหลี What’s Wrong With Secretary Kim ยกกองมาเมืองไทย ด้านนางเอกพัคมินยอง เผยลุคสุดคิวต์ทรงผมสไตล์ “พจมาน สว่างวงศ์” น่ารักแปลกตาที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ

หลังจากก่อนหน้านี้สื่อเกาหลีใต้ได้มีการเปิดเผยว่าซีรี่ส์นักแสดงและทีมงาน What’s Wrong With Secretary Kim จะยกกองมาพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งกระแสและเรตติ้งสูง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้เดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งพระเอก “พัคซอจุน” และ นางเอก พัคมินยอง ได้พร้อมใจกันเบรคคิวทองมาร่วมปาร์ตี้กับเหล่าทีมงานด้วย

งานนี้ก็มีแฟนคลับบางส่วนเดินทางไปต้อนรับพวกเขาที่สนามบินภูเก็ต ซึ่งนางเอกก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แจกยิ้มทำแฟนคลับใจละลายไปตามๆ กัน และทั้งนี้เธอยังได้โพสต์อินสตาแกรมด้วยสีหน้ามีความสุขกับการมาพักผ่อนพร้อมกับแคปชั่นว่า “In Phuket”

สำหรับหลายๆ คนที่ชื่นชอบลุคนี้ของเธอ แพรวดอทคอม ก็ไปหามาให้แล้วจ้า โดยเดรสวันพีชมาจากแบรนด์ URAGO ราคา 98,000 วอน หรือประมาณ 2,905 บาทเท่านั้น ไม่ใช่เพียงแต่ชุดสวยแต่การทำผมก็ยังแปลกตาไปอีกด้วย เพราะครั้งนี้มาในสไตล์ “พจมาน สว่างวงศ์” ซึ่งปกติแล้วเธอไม่ค่อยทำสักเท่าไหร่ ทรงผมส่วนใหญ่ที่มักเห็นบ่อยๆ ของเธอคือปล่อยสลวยหรือไม่ก็มัดหางม้า เอาเป็นว่าลุคนี้ถึงจะแปลกตาแต่น่ารักสุดๆ ไปเลย

ภาพจาก : IG @rachel_mypark @keunminnn417

The post ลุคสุดคิวต์ของ พัคมินยอง อิน ภูเก็ต กับทรงผมน่ารักสไตล์ “พจมาน สว่างวงศ์” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

จากไปเหลือไว้เพียงแต่ความดี โคฟี่ อันนัน บุรุษที่ต่อสู้กับความยุติธรรมและสันติภาพของโลก

“อายุไม่ใช่สิ่งที่หยุดเราให้เปลี่ยนโลกได้ ทุกคนควรมีความรับผิดชอบต่อโลกของเรา” นี่คือคำกล่าวของ โคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เขาอุทิศเกือบทั้งชีวิตเพื่องานด้านมนุษยธรรม จนกระทั่งถึงแก่กรรมด้วยวัย 80 ปี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2561

สื่อต่างประเทศได้รายงานว่าเขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ภายหลังจากที่ป่วยได้ไม่นานนัก

ขณะที่แถลงการณ์ของมูลนิธิของเขาได้แสดงความอาลัยต่อการจากไประบุว่า “เขาคือบุรุษของโลกที่มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและสร้างสันติภาพให้โลกมีความสงบสุขมากขึ้น แม้ว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติก็ยังคงช่วยเหลือผู้คนบนโลกนี้”

“ ที่ไหนมีความทุกข์หรือต้องการความช่วยเหลือ เขาจะเข้าไปช่วยด้วยความเห็นอกเห็นใจเสมอ เขามักเสียสละให้กับคนอื่นเป็นอันดับแรก เป็นคนที่เผื่อแผ่ความเมตตาให้กับคนอื่นอย่างแท้จริง”

สำหรับ “โคฟี่ อันนัน” เป็นชาวแอฟริกันผิวดำคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 1938 ที่เมืองกุมาซี โดยได้เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติคนที่ 7

ทั้งนี้หลังจากที่ดำรงตำแหน่งเลขาอยู่ 2 สมัย เขาก็ก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2549 นอกจากนี้เขายังเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ จากการทำงานด้านมนุษยธรรม และได้ตั้งมูลนิธิ “โคฟี่ อันนัน” ในเวลาต่อมา แต่เขายังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างต่อเนื่องจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ข้อมูลและภาพ BBC NEWS

The post โคฟี่ อันนัน บุรุษที่ต่อสู้กับความยุติธรรมและสันติภาพของโลก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

สาวเปรี้ยวยุค 90’s  ติ๊ก มิสเตอร์ทีม เผยเรื่องราวของหัวใจทั้งทุกข์และสุข พร้อมเคล็ดลับสวยไม่สร่างกินเด็กเป็นอมตะ! กับประสบการณ์รักหนุ่มอายุน้อยกว่า 13 ปี!

แม้โลกนี้ไม่มียาอายุวัฒนะช่วยให้คงความหนุ่มสาวไปตลอดชีวิต แต่การหมั่นดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกิน, การบำรุง, การนอน และการออกกำลังกาย ก็สามารถช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีได้ ดังนั้นถึงจะไม่มียาอายุวัฒนะ แต่หนุ่ม-สาวหลายคนก็ยังสวยหล่อได้ในแบบที่เด็กกว่าวัยหรือเหมาะสมกับวัย เช่นเดียวกับศิลปินสาวคนนี้ที่ “แพรวดอทคอม” ได้มีโอกาสไปพบเธอมา “อรุณรัตน์ คำฤทธิ์” หรือ ติ๊ก มิสเตอร์ทีม นักร้องสาวที่โด่งดังในยุค 90’s แม้จากวันนั้นจนวันนี้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่เธอยังดูสดใสอยู่เสมอ ซึ่งจากการผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมายที่ให้เธอตกผลึกว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดก็คือการมีสุขภาพที่ดีนั่นเอง

โดย”ติ๊ก”เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้เธอสุขภาพเสีย จนต้องถึงกับหามส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอได้สติในเรื่องสุขภาพมากๆ “ก่อนหน้านี้พี่ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการเส้นเสียงอักเสบจนเลือดไหลแต่ตอนนี้ดีแล้ว เมื่อก่อนมีปัญหาเรื่องการใช้เสียง แต่ตอนนี้พอเริ่มได้ศึกษามันก็ค่อยๆ ดีขึ้น ด้วยเมื่อก่อนนี้เราร้องเพลงด้วยความไม่รู้เรื่องอะไร เลยใช้วิธีธรรมชาติร้องๆ ไปจนส่งผลต่อสุขภาพ แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนวิธีการร้องแล้ว แต่ความไพเราะไม่ได้น้อยลง เพียงแต่เราเลือกใช้ช่องเสียงให้เหมาะสม อย่างเช่นงานร้านเล็กก็ไม่ต้องร้องดังมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ว่าจะร้านเล็กหรือคอนเสิร์ตใหญ่จะใส่เต็มมาก ไปร้องเพลงวันจบเสียงก็จบไปด้วย แต่อันนี้คือสบายขึ้นกว่าเมื่อก่อน ใช้วิธีถนอมตัวเองมากขึ้น”

เมื่อถามถึงวิธีการดูแลรูปร่างในสไตล์ติ๊กมิสเตอร์ทีมเธอบอกว่า “พี่เป็นคนโชคดีรูปร่างไม่ค่อยเปลี่ยนมาก อาจจะมีบ้างที่รู้สึกอวบขึ้นนิดหนึ่งแต่พอกลับไปดูรูปเก่าก็รู้ว่าฉันก็อวบมาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนเคยอ้วนสุดก็ 60 กิโลกรัม ตอนนี้ประมาณ 50  กิโลกรัม แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นพี่คิดว่าน้ำหนักไม่สำคัญ พออายุเพิ่มขึ้นพี่ว่าสุขภาพสำคัญกว่าน้ำหนักและรูปร่าง รวมถึงสุขภาพจิตด้วยนะ”

“พี่ติ๊ก”เผยว่าเห็นรูปร่างแบบนี้จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เธอเป็นคนชอบทานบุฟเฟ่มาก แต่ว่าทุกครั้งที่กินเข้าไปก็รู้สึกทรมาน หลังๆ เลยเลือกทานอะไรที่พอดีๆ “สำหรับการกินตอนนี้พี่จะงดกินเนื้อสัตว์เฉพาะวันพระรู้สึกว่าได้บุญได้กุศลและพักร่างกายด้วย ซึ่งจุดเปลี่ยนมันมีอยู่ช่วงหนึ่งชอบไปกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างนี่แหละ กินแล้วรู้สึกทรมาน รู้สึกว่าฉันไม่เอาอีกแล้ว เพราะทุกครั้งที่รับประทานก็จะไม่สบาย อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย รู้สึกเข็ดเลยจึงคิดว่าคนเราทำไมต้องกินอะไรมากมายขนาดนั้น คือมันไปกินแล้วมันสนุกไงค่ะ กินเรื่อยๆ และยุคนี้สมัยนี้อาหารน่ากินทั้งนั้น ไหนจะต้องกินให้คุ้มอีก พอกลับบ้านมันกลับเสียสตางค์มากกว่า สุขภาพเราก็เสียไปด้วยเลยคิดว่าทำอะไรแต่พอดีดีกว่า บางทีมันก็มีนะคะอยากกินชีสหรือเค้ก ก็ทานนิดหน่อยพอให้หายอยาก”

สำหรับเรื่องความรักนั้นเธอบอกด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า “กินเด็กเป็นอมตะ” แรกเริ่มเหมือนจะตลกแต่เรื่องกลับเศร้ามากกว่านั้น โดย”พี่ติ๊ก”เผยว่า “ปัจจุบันได้คบหาดูใจกับหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า 13 ปี สำหรับความรักอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไม่รู้จะซ้ายหรือขวาดี เพราะพออายุมันห่างกันมากหลายอย่างก็เลยไม่ตรงกัน เลยคิดว่าถ้ายังคิดอะไรไม่ออกก็ปล่อยมันไปก่อนดีกว่า มันมีอย่างอื่นให้เราต้องคิดและทำเยอะ แต่ว่าถ้าในฐานะศิลปินนะ ตั้งแต่ทำงานถ้าแฟนเราดี คนรักเราดี ทุกอย่างมันก็จะดีหมด ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันไหม ถ้าแฟนดีกับเราไม่ทะเลาะกับเราทุกๆ อย่างมันก็จะราบรื่น เราจะมีกำลังใจในการทำงานในการจัดการทุกอย่างในชีวิต แต่ถ้าวันไหนทะเลาะกันทุกอย่างจะมืดมน คนที่อยู่ใกล้ๆ เราเป็นคนแบบอ่อนไหวง่าย ตอนนี้ก็เลยยังไม่สามารถระบุุสถานะได้”

เรื่องความรักไปต่อไม่ได้ “พี่ติ๊ก”จึงพูดถึงเรื่องงานแทน โดยในวันที่ 8-9 กันยายนนี้ เธอจะขึ้นโชว์ในคอนเสิร์ต GREEN CONCERT#21 DANCE FEVER “สำหรับงานนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะมีนักร้องในยุคเดียวกันหลายคนมาร่วมโชว์บนเวที สำหรับมิสเตอร์ทีมเป็นวงที่เปิดตัวในช่วงปี 1999 แล้ว ถือว่าเป็นน้องเล็กหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ” (หัวเราะ)

อย่างไรก็ตามปัจจุบันนอกจากการเป็นนักร้องแล้ว เธอยังทำขนมขาย เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ รวมถึงเป็นคุณครูสอนร้องเพลงอีกด้วย ซึ่งเธอสอนนักเรียนมาหลายรุ่นแล้วก็มีคนที่อยากเป็นนักร้องเยอะ แต่อาชีพนี้ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน ดังนั้นไม่อยากให้ลูกศิษย์รีบร้อนที่จะประสบความสำเร็จ “พี่ติ๊ก”แนะนำว่า “หากเราอาจจะต้องการความสำเร็จอะไรสักอย่างก็ไม่ต้องรีบขนาดนั้น  มันก็กดดันตัวเองเกินไป แต่สิ่งที่เราต้องมีก็คือความพยายาม เราต้องทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างเราต้องอย่าหยุดเดิน อย่าหยุดที่จะทำมันต่อไป”

The post กินเด็กเป็นอมตะ! ติ๊ก มิสเตอร์ทีม รักไม่เกี่ยงอายุคบหนุ่มวัยต่างกัน 13 ปี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.