ถึงอายุจะห่างไกล แต่หัวใจไม่ห่างกัน ส่องความรักครั้งล่าสุดของ 6 พ่อใหญ่ คนดัง “บิ๊กจิ๋ว”, “พ.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์”, “เจ้าสัวบุญชัย”, “อาหลอง” ฯลฯ

ความรักต่างวัยไม่ใช่เรื่องผิด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคู่รักที่ฝ่ายชายอายุมากกว่าฝ่ายหญิง หรือฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย มักจะถูกครหาด้วยข้อความที่ว่า “กินเด็ก” อยู่วันยังค่ำ ทว่าสุดท้ายแล้วความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน

ถึงอายุห่างไกลหัวใจไม่ห่างกัน เป็นความแตกต่างที่ลงตัว โดยงานวิจัยหลายชิ้นบอกว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ดึงดูดซึ่งกันและกัน พ่อใหญ่ ชายสูงวัยมักชอบสาวที่อายุน้อยกว่ามากๆ เพราะความสวยงามและความสดใสแล้วยังทำให้รู้สึกว่าได้กลับไปสู่วัยหนุ่มอีกครั้ง ขณะที่สาววัยอ่อนกว่าต้องการความมั่นคงในความสัมพันธ์ ซึ่งหนุ่มรุ่นใหญ่ก็พร้อมในจุดนี้

6 พ่อใหญ่ ความรักครั้งใหม่พิสูจน์อายุห่างไกลหัวใจไม่ห่างกัน

อันที่จริงแล้วบางส่วนของคนดังทั้งในเมืองนอกและเมืองไทยก็มีคู่ชีวิตที่อายุน้อยกว่า คู่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวป้ายแดงที่ต้องพูดถึงให้ได้เลยก็คือ “บิ๊กจิ๋ว-พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ” วัย 86 ปี กับเจ้าสาววัย 53 ปี ที่เพิ่งเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงการเมืองและแวดวงสังคมเมืองต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ความห่างของอายุทั้งคู่มีมากถึง 33 ปี โดย “บิ๊กจิ๋ว” ยังเปิดเผยด้วยว่าเจ้าสาวของเขาดูแลเขามาเป็น 10 ปีแล้ว

คู่ต่อมาคือคู่ของ “พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์” กับ “ยุวเรต ศรุตานนท์” ทั้งคู่มีอายุแตกต่างกัน 41 ปี โดยการพบสองพบกันเมื่อครั้งอดีตผบ.ตร.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดสงขลา ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างผลวิจัยว่าจริงๆ เพราะ พล.ต.อ.สันต์ ได้เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวกระชากวัย สอดคล้องกับ “ยุวเรต”ด้วย

อีกหนึ่งคู่รักต่างวัยที่ตอนนี้มีโซ่ทองคล้องหัวใจแล้วก็คือ “เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล” วัย 64 ปี กับอดีตนางเอกชื่อดังวัย 33 ปี “ตั๊ก-บงกช คงมาลัย” อายุของทั้งคู่ห่างกันถึง 31 ปี แต่ก็มีความสุขมากๆ โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตคู่อยู่กินกันมา 5 ปี “ตั๊ก” ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยคิดอยากเลิก เพราะความต่างของทั้งอายุและการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนกัน แต่เพราะความรักและความเอาใจใส่ที่มีอย่างเสมอต้นเสมอปลายของ “พี่ใหญ่” ทำให้ชีวิตคู่ยังดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข

จากวงการการเมือง วงการนักธุรกิจ มาถึงวงการบันเทิงกันบ้าง ซึ่งคู่ที่เป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เลยก็คือคู่ของผู้กำกับดังเจ้าของสโลแกนระเบิดภูเขา เผากระท่อม “ฉลอง ภักดีวิจิตร” วัย 87 ปี กับสาวนอกวงการ “เล็ก-พิมพ์สุภัค อินทรี” ที่มีวัยต่างกันถึง 45 ปี โดยผู้กำกับรุ่นเก๋าบอกว่าครั้งแรกที่เจอกับภรรยาเขามองไม่วางตาและรู้สึกว่าอาจจะเป็นเนื้อคู่กันตั้งแต่ชาติปางก่อน

ข้ามไปแดนมังกรกันบ้าง เมื่อเร็วๆ นี้ในระยะเวลาไล่ๆ กับที่ “บิ๊กจิ๋ว” เปิดตัว “อู๋จื้อเฉิง” วัย 66 ปี ซีอีโอคาสิโน ลิสบัว มาเก๊า ก็ได้จดทะเบียนสมรสกับ “แคทเธอรีน เหอ” ดีกรีสาวงามรองอันดับ 2 เวทีมิสฮ่องกง 2014 แบบสายฟ้าแลบ โดยซีอีโอคาสิโนเผยว่า เธอคือรักแรกพบของเขา เขาตกหลุมรักเธอในทันทีเมื่อปี 2014 โดยในตอนนั้นเขาได้มอบสร้อยคอเพชรให้กับเธอด้วย นอกจากนี้เมื่อปี 2016 “แคทเธอรีน เหอ”ยังได้รับที่พักหรูในย่าน Harbourside ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 76 ล้านบาท โดย“อู๋จื้อเฉิง”มอบให้กับเธอเพื่อแสดงออกถึงความรักด้วย

ปิดท้ายที่วงการบันเทิงฮอลลีวู้ด ก็มีคู่รักต่างวัยหลายคู่เช่นกัน แต่ที่คนไทยน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีก็คือคู่ของ พระเอกรุ่นใหญ่วัย 57 ปี “จอร์จ คลูนีย์” กับภรรยาคนสวย “ อามาล คลูนี่ย์” ทนายความนักสิทธิมนุษยชน ทั้งคู่มีอายุห่างกัน 17 ปี อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้พระเอกคนดังเคยพูดไว้ว่า ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก “อามาล” ก็ได้เปลี่ยนความคิดของเขา ตอนนี้เขามีความสุขสุดๆ กับการได้เป็นคุณพ่อลูกแฝดอีกด้วย

เรื่อง : sanowblack_แพรวดอทคอม

The post 6 พ่อใหญ่ ความรักครั้งใหม่พิสูจน์อายุห่างไกลหัวใจไม่ห่างกัน appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก อีลอน มัสก์ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่มีบทบาทในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำ จากแนวคิดการสร้างเรือดำน้ำขนาดจิ๋ว เพื่อนำเด็กๆ และโค้ชออกมาอย่างปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้แค่พูด แต่ยังสร้างมันขึ้นมาจริงๆ แม้ถึงที่มุดแล้วจะไม่ได้ถูกนำมาใช้จริงก็ตาม

อย่างที่รู้กันว่าประวัติของเขาไม่ธรรมดา อีลอน มักส์ เป็นทั้งนักลงทุน นักธุรกิจ วิศวกรและนักประดิษฐ์ และยังเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ฯลฯ เห็นแบบนี้หลายคนก็คงคิดว่าชีวิตเขาต้องเพอร์เฟคแน่นอนใช่ไหม ? แต่คุณๆ คงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “Lucky in Game Unlucky in Love” แน่ๆ

ใช่เลยค่ะ อีลอน ผู้ที่ประสบความสำเร็จเรื่องงานที่ทำแทบจะทุกเรื่องจนได้ฉายาว่าเป็น Iron man แต่ ! ชีวิตคู่นี่น่ะสิ กลับตรงกันข้ามซะอย่างนั้น

ประวัติความรักของ อีลอน มักส์ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาพอๆ กับชีวิตด้านอื่นๆ เศรษฐีหนุ่มพันล้านที่ดูเพอร์เฟคจนไม่คิดว่าจะมีสาวคนไหนกล้าหักอก แต่คุณรู้ไหมคะว่า ผู้ชายคนนี้ถูกผู้หญิงหักอกมาเกินครั้ง แถมเฮิร์ทหนัก จนต้องซดกระทิงแดง !!

“If  I’m not in love, if I’m not with a long-term companion, I cannot be happy,” (หากผมไม่มีความรัก ไม่มีชีวิตคู่ที่ยาวนาน ผมคงไม่มีความสุข)

คำพูดของอีลอน มักส์ ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์ rollingstone และเขายังได้บอกอีกว่า

“ผมกำลังมองหาความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ผมต้องการคู่แท้ เพราะผมคงไม่มีความสุขหากปราศจากคนที่รัก และการนอนคนเดียวเหมือนกับการฆ่าผมทั้งเป็น มันคงไม่ดีแน่ๆ

“ผมก็ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกนั้นจะเป็นอย่างไร บ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า ทุกๆ ก้าวที่ย่างเดินไป แต่ไม่มีใครเดินเป็นเพื่อน หมอนที่อยู่ข้างๆ ไร้คนนอนด้วย เป็นคุณจะทำตัวอย่างไรให้มีความสุข กับสถานการณ์แบบนี้”

อีลอนพบรักกับภรรยาคนแรก Justine Wilson ที่มหาวิทยาลัย Queen เมือง Ontario ประเทศแคนาดา เรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับความรักของทั้งคู่ เกิดจากการที่อีลอนไปดักพบจัสติน ขณะที่เธอกำลังเดินออกจากหอ วันนั้นเขาพูดกับเธอว่า

“ผมอยากพบคุณ หวังว่าเราจะได้พบกันที่งานปาร์ตี้นะ”

แต่จัสตินก็ไม่ได้ไปงานนั้น หนึ่งปีให้หลัง เขายังคงไม่ลดละความพยายาม ยังคงไปพบจัสติน โดยครั้งนี้เขาชวนเธอออกไปซื้อไอศกรีม เธอตอบตกลงว่าจะไปด้วย แต่หลังจากนั้น เธอก็ทิ้งเขาไว้พร้อมเขียนโน็ตแปะไว้ที่หน้าประตู (อยากรู้จริงๆ ว่าเขียนว่าอะไร ฮ่าๆ)

หลายชั่วโมงต่อมาขณะที่จัสตินกำลังง่วนอยู่กับภาษาสเปนในศูนย์นักศึกษา เธอได้ยินเสียงกระแอมอยู่ด้านหลัง เมื่อเธอหันไปก็พบว่า อีลอนกำลังยืนยิ้มแบบเก้ๆ กังๆ ในมือเขาถือไอศกรีมช็อกโกแลตชิพสองโคนที่กำลังละลาย และหยดลงบนมือเขา แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้จัสตินใจอ่อนยวบขึ้นมาทันที

ทั้งคู่คบหากันเรื่อยมา และถึงแม้หลังจากเรียนจบ ต่างคนจะต่างทำงาน แต่อีลอนก็ยังคงส่งดอกไม้ไปให้จัสตินเสมอ (น่ารักอ่ะ) และยังใช้เครดิตการ์ดซื้อหนังสือที่จัสตินอยากได้ทุกเล่ม (จัสตินเป็นนักประพันธ์) เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนกระทั่งปี 2000 ทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน

ในวันแต่งงาน ขณะที่อีลอนและจัสตินกำลังเต้นรำด้วยกันนั้น เขากระซิบข้างหูเธอว่า “I am the alpha in this relationship” ผมจะเป็นผู้นำในชีวิตคู่ให้คุณเอง แหม… คำนี้ฟังดูเผินๆ แล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติที่สามีจะเป็นผู้นำให้กับครอบครัวใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วคำนี้มีความหมายแฝงค่ะคุณ

หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็ชวนกันย้ายบ้านไปที่เมืองลอสแองเจลิส จัสตินตั้งท้องและมีลูกชายชื่อ เนวาดา แต่เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อลูกชายมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) ในขณะที่มีอายุได้เพียงสิบสัปดาห์เท่านั้น สร้างความเสียใจให้กับจัสตินเป็นอย่างมาก

แต่อีลอนกับตรงกันข้าม เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องฟูมฟายหนักขนาดนี้ เพราะความเศร้าสำหรับเขาก็คือการไม่พูด ไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกเลย

ภายหลังถึงแม้ว่าเขาและเธอจะมีลูกด้วยกันห้าคน แต่ความสัมพันธ์ก็ดูจะไม่หวานชื่นสักเท่าไหร่ เหตุผลมาจากผู้ชายคนนี้เป็นคนบ้างานมาก ทุกๆ เรื่องในหัวเขาแทบจะมีแต่เรื่องงานตลอดเวลา อีลอนมักจะติจัสตินเสมอ เขาเคยบอกว่าเธอไม่มีคุณสมบัติที่จะทำอะไรได้เลย จนเธอต้องบอกเขาว่า “ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ ไม่ใช่พนักงาน” แต่เขาก็สวนกลับเธอทันทีว่า ถ้าเธอเป็นพนักงาน เขาคงไล่เธอออกทันที

ฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตคู่จบลงด้วยการหย่าร้างในปี 2008 จัสตินไม่อาจทนอยู่กับสามีที่วันๆ คิดแต่เรื่องงาน โดยไม่ให้เวลาครอบครัวเลย เธอกล่าวว่า

“ฉันอยากได้วันเวลาเก่าๆ คืนมา เราสองคนเคยคุยกันด้วยความเข้าใจ แต่ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าตัวเขาจะอยู่บ้าน แต่ความคิดเขากลับคิดแต่เรื่องงานเพียงอย่างเดียว เวลาที่ทะเลาะกัน ฉันไม่มีความหมายกับเขาเลย ฉันต้องการความรักจากเขา ไม่ได้ต้องการเงิน”

หลังจากนั้นเพียง 6 สัปดาห์ เขาได้ส่งข้อความไปหาจัสตินว่า เขาได้หมั้นกับนักแสดงสาวชาวอังกฤษ Talulah Riley แล้ว และทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานในปี 2010 ถัดมาสองปีก็มีข่าวว่าทั้งคู่เลิกรากันไป อีลอนได้ทวิตข้อความว่า “สี่ปีที่ผ่านมามันสุดยอดมาก ผมจะรักคุณตลอดไป คุณทำให้ใครบางคนมีความสุขในทุกๆ วัน”

แต่หลังจากนั้นแค่ปีครึ่ง ทั้งคู่ก็กลับมาแต่งงานกันใหม่ในปี 2013  (พ่อคุณ แม่คุณเอ้ยย รักๆ เลิกๆ กันน้อ) แต่ชีวิตสมรสครั้งนี้ก็ไปไม่รอดอีกเช่นเคย ปี 2016 อีลอนและไรลีย์ ก็ได้หย่าร้างกันเป็นรอบที่สอง แต่ครั้งนี้เลิกจริงจังค่า โนรีเทิรน์ !! เหมือนเช่นครั้งก่อน

ในปีเดียวกันนั้น อีลอนก็ปลูกต้นรักครั้งใหม่กับ แอมเบอร์ เฮิร์ด นักแสดงชาวอเมริกัน อดีตภรรยา จอห์นนี เดปป์ ความรักของทั้งคู่ดูหวานมาก จนไม่คิดว่าจู่ๆ แอมเบอร์จะบอกเลิก และตัดความสัมพันธ์กับอีลอน โดยทั้งคู่คบกันได้เพียงแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น

หลังเลิกกับดาราสาวสวย อีลอนได้ไปแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของแอมเบอร์ว่า “still friends, remain close and love one another” and added “who knows what the future holds.” (ยังคงเป็นเพื่อน ยังคงอยูใกล้ชิด ยังคงมีความรักให้เสมอ และ ไม่รู้จะหาใครที่จะจับมือสร้างอนาคตร่วมกัน)

คาดว่ารักกับแอมเบอร์คงจะฝังจิตฝังใจเขามากทีเดียว เพราะหลังจากนั้นเขาก็ทวิตพิราบรำพันว่า “I was really in love, and it hurt bad.” (ผมจริงจังกับความรักครั้งนี้จริงๆ และมันทำให้ผมเจ็บมาก) โธ่พ่อคุณ พอจะจริงจัง ก็โดนสาวคอนเวิร์สใส่ซะงั้น

ความสัมพันธ์นี้ดูจะสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวไม่น้อยให้กับอีลอน เขาเฮิร์ทหนักอยู่เป็นอาทิตย์ และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำงาน ต้องทำตัวเองให้ดูเหมือนคนไม่เศร้า เขาปลอบใจตัวเองด้วยการซดกระทิงแดงรวดเดียว 3 กระป๋อง อีกทั้งยังใช้เวลาอยู่กับคนที่มองโลกในแง่บวก อีลอนพยายามบอกตัวเองว่า “คนพวกนี้พึ่งเราอยู่นะ เอาล่ะ ผมต้องทำให้ได้”

ถึงจะเจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาดใจตายเพียงใด แต่ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยขาดรัก สาวคนใหม่ที่อีลอนเพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ เธอคือ Grimes หรือ Claire Boucher นักร้องแนวป็อบที่มีสไตล์จัดจ้านเป็นของตนเอง ทั้งสองคนเริ่มสานสัมพันธ์กันแบบเงียบๆ ไม่ได้เงียบธรรมดา แต่เงียบมาก

กระทั่งล่าสุดทั้งคู่ก็ควงกันออกงาน Met Gala 2018 งานนี้ทำเอาคนในงานอึ้งไปตามๆ กัน จะไม่ให้งงได้งัย เพราะหากดูสเป็คเรื่องผู้หญิงของอีลอนแต่ละคนที่เขาคบ ต้องบอกเลยว่าคนนี้แหวกแนว และฉีกไปจากบรรดาสาวๆ ที่เคยคบมามากที่สุด

ก็ไม่รู้ว่ากับสาวคนนี้ อีลอนจะควงเธอไปอีกนานแค่ไหน แต่เราก็เอาใจช่วย ยูนะ อีลอน มัสก์ เพราะไม่อยากให้เฮิรท์จนต้องกลับไปซดกระทิงแดงอีก ก็แหม… ในฉลากเขาบอก ห้ามเดิมเกินวันละ 2 ขวด แต่พี่อีลอนเล่นไป 3 แพรวห่วงสุขภาพยูนะ

“ผมติดอยู่กับความเหงามาตั้งแต่เด็ก และนี่คือสาเหตุที่ผมไม่อยากจะอยู่คนเดียว” !! นี่คือคำสารภาพของมหาเศรษฐีนักคิด นักประดิษฐ์ คนเก่ง ผู้เอาชนะอุปสรรคได้ทั้งปวง

แต่กลับไม่สามารถเอาชนะความเหงาได้ เฮ้อ… อยากจะโถไปให้ถึงดาวอังคารที่พี่แพลนจะพามวลมนุษยชาติไปอยู่ซะจริงๆ 

ที่มา : www.rollingstone.com

The post งานรุ่ง รักร่วง ! อีลอน มัสก์ ถูกสาวหักอก จนต้องซดกระทิงแดงย้อมใจ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

Hum Fleming (วัย 28 ปี) เหลนคนสวยของนักเขียนชื่อดัง เอียน เฟลมมิ่ง เจ้าของบทประพันธ์ เจมส์ บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007 ตระกูลเฟลมมิ่งเป็นนักการเงิน การธนาคารที่ร่ำรวยมหาศาล มีทรัพย์สินนับพันล้านปอนด์ พ่อของฮัมคือ ร็อดดี เฟลมมิ่ง ผู้บริหารธนาคาร Fleming Family & Partners ให้บริการบริหารการลงทุนส่วนบุคคล รับเฉพาะลูกค้าระดับซูเปอร์ริชเท่านั้น คือต้องมีสินทรัพย์อย่างน้อย 10 ล้านปอนด์ในการลงทุน ข่าวว่าปัจจุบันธนาคารตระกูลเฟลมมิ่งบริหารเงินทุน ทั้งสิ้น 4.8 พันล้านปอนด์ ฮัมมีพี่สาวฝาแฝด หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ ชื่อโคลเอ้ ทั้งคู่ชอบหลอกคนว่ามีโทรจิตถึงกัน โดยนัดกันว่าให้ ตอบ 44 ทุกครั้งเวลามีใครลองใจให้ฝาแฝดสุ่มพูดตัวเลขออกมาพร้อมกันดังๆ

หลังจากได้ปริญญาด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ ฮัมก็หันมาลุยงานพีอาร์ในวงการแฟชั่น ซึ่งเป็นงานที่เธอถนัด นอกเหนือเวลางานสาวเปรี้ยว คนนี้จะล่าสัตว์ พักผ่อนกับเพื่อนๆ บนเรือยอช์ต เล่นสกี ไปดูแข่งโปโล นั่งริมรันเวย์ ดูแฟชั่นโชว์กับเพื่อนๆ ปาร์ตี้ในลอนดอน หรือไปงานเทศกาลต่างๆ ในชุดแคตสูท (Catsuit เสื้อกางเกงติดกันรัดรูป) ผ้าเลื่อมเงาวิบวับ ซึ่งเธอโปรดปรานมาก และไม่แคร์สายตาผู้คนที่มองมาอย่างตกตะลึง เห็นสวย รวย เปรี้ยว เซ็กซี่ และซ่าสุดๆ หัวใจก็ยังว่างด้วยนะเออ

และนอกเหนือจากงานพีอาร์ฮัมยังทำงานการกุศลด้านการกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคลมชัก เพราะเธอเป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุ 15 ปี เอาล่ะ รู้จักประวัติคร่าวๆ ของเธอแล้ว เลื่อนไปด้านล่างนี้ แพรวดอทคอม นำภาพของเธอมาให้ชมกันด้วยว่าสาวฮัมนั้น สวย รวย เปรี้ยว เซ็กซี่ ขนาดไหนกันเชียว

รู้จัก Hum Fleming เหลนคนสวยของนักเขียนชื่อดังเรื่อง เจมส์ บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007

เรื่อง : นิตยสารแพรว ฉบับ925 คอลัมน์ HOT FAB หน้า 116
ภาพ IG : humfleming

The post Hum Fleming เหลนคนสวยของนักเขียนชื่อดังเรื่อง เจมส์ บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เป็นซุป’ตาร์ฝรั่งใช่ว่าจะทำแค่ประกันชีวิต บ้าน และรถยนต์เท่านั้น เพราะหลายรายถือว่ารูปร่างหน้าตาของตนเป็นสินทรัพย์อันมีค่าที่จะต้องดูแลเช่นกัน จึงมีการทำประกันสินทรัพย์บนเรือนกายเหล่านี้ในวงเงินก้อนโตมิใช่น้อย

ไม่เชื่อลองดู 5 สินทรัพย์บนเรือนกายของบรรดาเซเลบเวิลด์คลาสที่มีรูปเป็นทรัพย์ เธอๆ เหล่านี้ขึ้นชื่อว่าหวงและห่วงจนถึงขั้นต้องทำประกันอวัยวะในเม็ดเงินชวนว้าวแบบคาดไม่ถึงเลยล่ะ

5 สินทรัพย์บนเรือนร่างของเซเลบเวิลด์คลาส สวยจนถึงขั้นทำประกันอวัยวะในเม็ดเงินก้อนโตมากกกกก

1. หน้าอก

อันที่จริงหน้าอกหน้าใจของมาดอนน่า ป็อปสตาร์ ตัวแม่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก นอกเสียจากว่าช่วงหนึ่งที่เธอขึ้นแสดงคอนเสิร์ตด้วยชุดบาร์ทรงกรวยที่ทำเอาผู้คนฮือฮาพอสมควร ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงคิดว่าหน้าอกของตัวเองเป็นเงินเป็นทองและไม่ใช่เงินทองกองเล็กเสียด้วย เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยบอกอดีตแฟนเก่าที่เป็นดารารุ่นใหญ่ คือ วอร์เรน เบตตี้ ว่า เธอตั้งใจจะประกันหน้าอกของตัวเอง และคิดว่าน่าจะมีมูลค่าข้างละ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมสองข้างแล้วเท่ากับ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 360 ล้านบาท ซึ่งเขาก็พยักหน้าเออออ อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันคงไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก ด้วยว่าสุดท้ายราคาประกันหน้าอกสองข้างของเธอจบลงที่ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 60 กว่าล้านบาท ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยอยู่ดี

นอกจากนี้ยังมี ฮอลลี่ เมดิสัน อีกหนึ่งนางที่ทำประกันเต้าตูมของตนเอง ซึ่งเธอคนนี้คืออดีตนางกระต่าย ของเพลย์บอย แต่มาโด่งดังกับการเป็นดาราเรียลิตี้โชว์ทางทีวี ทั้งรายการที่ชื่อว่า The Girls Next Door และ Holly’s World อีกทั้งเธอยังมีงานแสดงโชว์วาบหวิวที่เมืองลาสเวกัส ชื่อว่า Peepshow แน่นอนว่าเธอต้องเปลือยอกต่อหน้าธารกำนัล นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้นำหน้าอก ของตนไปทำประกันไว้ โดยเธอชี้แจงว่าต้องใช้หน้าอกทำมาหากิน ซึ่งถ้าสองเต้าของเธอเป็นอะไรขึ้นมา นั่นหมายถึงว่ารายได้จะหดหายแน่ๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงจำเป็นต้องทำประกันเต้าตูม อันมีค่าของตนเองไว้ด้วยวงเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30 กว่าล้านบาท

2. บั้นท้าย

หุ่นแบบเนื้อนมไข่ของ คิม คาร์ดาเชียน เซเลบผู้โด่งดังมาจากเซ็กซ์เทปอันอื้อฉาวและเรียลิตี้โชว์ทางทีวีนั้น กระแทกตาสาธารณชนเป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะบั้นท้ายดินระเบิดของเธอที่เคยมีเสียงร่ำลือหนาหูว่าน่าจะผ่านการศัลยกรรมด้วยการฉีดซิลิโคน ต่อมาคิมได้พิสูจน์ให้เห็นจะจะด้วยฟิล์มเอกซเรย์ว่าที่เห็นใหญ่โตระเบิดระเบ้อนั้น เป็นก้นที่คุณแม่ให้มาล้วนๆ ในเมื่อเป็นบั้นท้ายที่ใครก็สนใจ หรือกล่าวง่ายๆ ว่ามีราคา จึงมีข่าวว่าเธอนำก้นงามงอนไปทำประกัน โดยตีราคาประกันไว้สูงถึง 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 630 ล้านบาท

ส่วนอีกรายหนึ่งแม้ว่าจะไม่ใหญ่โตอะไร แต่ทว่าบั้นท้ายของไคลี มิน็อก นักร้องซุป’ตาร์ชาวออสเตรเลียก็มีดีให้โชว์เหมือนกัน ไม่เชื่อดูได้จากมิวสิค วิดีโอเพลง Spinning Around ที่เธอสวมใส่กางเกงขาสั้นสีทองเผยให้เห็นสะโพกอันกลมกลึงน่าดูชม ที่ผ่านมาเธอรู้แก่ใจว่าก้นกลมของตัวเองเป็นหนึ่งในจุดดึงดูดสายตาของผู้คน จึงมีเหตุผลที่เธอจะทำประกันก้นงามของเธอไว้เป็นวงเงินถึง 5 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 160 ล้านบาท

3. เรียวขา

นางแบบนั้นต้องใช้เรือนร่างทำมาหากิน ซึ่งคงไม่แปลกที่ ไฮดี้ คลุม ซูเปอร์โมเดลแถวหน้าชาวเยอรมนี จะเคยทำประกันเรียวขาสองข้างของเธอไว้สูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 60 ล้านบาท กระนั้นไฮดี้สารภาพว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำประกันเองหรอก แต่ลูกค้าของเธอ ซึ่งก็คือ Braun บริษัท ผู้ผลิตเครื่องถอนขนไฟฟ้าเป็นผู้ทำให้ โดยที่ขาข้างซ้ายของเธอ ซึ่งมีแผลเป็นจากการถูกกระจกบาดจะมีมูลค่าต่ำกว่าขาข้างขวาอยู่ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ

และอีกนางหนึ่งที่ถือว่าเรียวขาของตนเองเป็นทรัพย์สินอันมีค่าคือ ริฮานน่า นักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอลุ่มหลงในเรียวขาของตัวเองเป็นอย่างมาก หลังจากเธอคว้ารางวัล Venus Breeze Celebrity Legs of a Goddess ของยิลเลตต์ บริษัท ผู้ผลิตใบมีดโกน เธอได้ทำประกันเรียวขางามๆ ของตัวเองในวงเงินมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราวกว่า 30 ล้านบาท

4. รอยยิ้ม

จัดว่าเป็นคนเด่นคนดังที่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจติดอันดับต้น ๆ คนหนึ่ง สำหรับจูเลีย โรเบิร์ตส์ ดาราฮอลลีวู้ด รุ่นใหญ่ระดับรางวัลออสการ์คงเห็นกันว่าเธอเป็นสาวปากกว้าง ฉีกยิ้มแต่ละครั้งเห็นแผงฟันสีขาวเป็นประกาย ถือเป็นจุดเด่นของรอยยิ้มอันมีเสน่ห์นั่นเอง ซึ่งหากฟันสวยของเธอเป็นอะไรไปละก็ รอยยิ้มสวยๆ คงจืดจางไปเยอะ ด้วยเหตุนี้เธอจึงทำประกันฟันของเธอ โดยตีมูลค่าไว้สูงถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบพันล้านบาท

เช่นเดียวกันกับอเมริกา เฟอร์เรรา นักแสดงสาว มะกันผู้โด่งดังจากซีรี่ส์ทางทีวีเรื่อง Ugly Betty ก็มีรอยยิ้มที่สวยเตะตาผู้คนไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้ Aquafresh White Trays เจ้าของผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวจึงเลือกเธอมาช่วยโปรโมทงานการกุศลในชื่อโครงการว่า Smiles for Success พร้อมกันนี้บริษัทสารฟอกฟันขาวแห่งนี้ยังใจป้ำ ควักเงินทำประกันรอยยิ้มของเธอให้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็คือฟันและเหงือก โดยตีมูลค่าไว้ที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 300 กว่าล้านบาท

5. ลิ้น

ไมลี่ย์ ไซรัส ป็อปสตาร์รุ่นเล็กกับการแลบลิ้นหน้ากล้องกลายเป็นภาพชินตาไปเสียแล้ว ทั้งที่แรกเริ่มแต่เดิมนั้นมีสาเหตุจากว่ายามเมื่ออยู่หน้ากล้องเธอจะรู้สึกประหม่า แถมช่างภาพยังชอบบอกให้ทำท่าโน้นท่านี้ที่เธอไม่อยากทำ อย่างเช่น ท่าส่งจูบเมื่อไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้าตายังไงต่อหน้ากล้อง สุดท้ายเธอก็แลบลิ้นเสียเลย และกลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอไปจนได้ ไปๆ มาๆ เธอตระหนักว่าลิ้นของเธอนั้นมันโดดเด่น เป็นที่สนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจทำประกันลิ้นของตัวเองเสียเลย โดยตีมูลค่าเป็นตัวเงินถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30 กว่าล้านบาท

เห็นทั้ง 5 อวัยวะที่ต้องทำประกันไว้ของเหล่าเซเลบแบบนี้ เขาเรียกว่ามีสังขารเป็นทรัพย์หลายล้านจริงๆ

เรื่อง : นิตยสารแพรว ฉบับ 925 คอลัมน์ SPECIAL STORIES หน้า 134 – 136

The post หวงมาก! 5 สินทรัพย์บนเรือนร่างที่บรรดาเซเลบเวิลด์คลาสทำประกันอวัยวะก้อนโตไว้ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

พระเอกมาดเซอร์ อนันดา เอเวอริ่งแฮม เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างตรงไปตรงมา “ผมมักบอกเลิกกับผู้หญิงก่อน”

อนันดา เอเวอริ่งแฮม พระเอกหน้าหล่อสุดเซอร์ เป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่เข้าถึงได้ทุกบทบาท ทั้งแอ็คชั่น ดราม่า และอีโรติก โดยเฉพาะบทเลิฟซีน ที่ดูแล้ว ทั้งสาวแท้ สาวเทียมต้องใจสั่นระรัวกันทั้งประเทศ  ด้วยสไตล์การใช้ชีวิตติสท์สุดขั้วทำให้หนุ่มหล่อคนนี้เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว ล่าสุดเขาได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องความรักครั้งล่าสุดผ่านทางรายการ “คุยแซ่บShow”

เห็นว่าเคยมีประสบการณ์เฉียดตายมาหลายรอบ ?

“ก็มีทั้งเสี่ยงตายและอุบัติเหตุ ผมมอเตอร์ไซค์คว่ำมา 2 รอบ ไม่รู้เป็นไรเอาหน้าลง 2 รอบเลย รอบแรกเย็บประมาณ 40-50 เข็ม รอบสองหนักสุด มันคือความสะเพร่าของเราเอง แผลตามตัวเยอะหน้าผมก็ศัลยกรรมมา 2 รอบ จมูกหัก ปากฉีก ตอนที่มอเตอร์ไซค์คว่ำครั้งแรกคือผมถูกมอไซด์อีก 2 คันชนแล้วผมก็ไปชนกับเสาไฟฟ้าแล้วก็กระเด็นไปโดนกำแพงอีกทีแล้วก็สลบ ทุกวันนี้ก็มีปัญหากับเท้านะ เดี๋ยวต้องไปผ่า พอผมสลบเข้าโรงพยาบาล เค้าก็เอามือถือมาเสิร์ชหาเบอร์เจอเบอร์คุณพ่อ พ่อเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นประมาณตีสอง เขาก็บอกว่าอนันดามอเตอร์ไซค์คว่ำ พ่อก็ถามอย่างเดียวว่ารอดไหม อีกฝั่งนึงก็ตอบว่าไม่แน่ใจ พ่อบอกว่าเป็นเวลา 4 ชั่วโมงที่ทรมานที่สุด ส่วนเท้าที่มีปัญหาเป็นเพราะอุบัติเหตุตอนมอเตอร์ไซค์คว่ำคือเหมือนมีอะไรทะลุเท้าผ่านรองเท้าบูทไปอีกฝั่งของรองเท้าเลย มองทะลุเป็นรูเลย ทำให้กระดูกระเบิดเป็นชิ้นๆ หมอบอกว่าซ่อมไม่ได้ต้องรีบปิดแผล ก่อนปิดแผลเค้าให้เซ็นใบยินยอมที่จะต้องตัดนิ้วเท้าสามนิ้ว แต่โชคดีที่ไม่ต้องตัด ส่วนเข่าเลือดคลั่งก็ต้องผ่าเข่าเอาเลือดออก ตอนสลบที่แขนก็ไปพาดอยู่กับท่อไอเสีย มันไหม้เป็นรู หนังมันตาย เลยต้องเอาหนังที่ก้นมาแปะ”

มีคนบอกว่าเป็นคนติสท์จริงหรือเปล่า ?

“ติสท์หรือเปล่าไม่อยากจำกัดความว่าคนเราเป็นได้อย่างเดียว ถ้าถามว่าชอบอยู่คนเดียวหรือเปล่าก็จริง”

เวลาที่มีแฟนเป็นอย่างไร ?

“ก็คุยกับเขานะว่าเราเป็นอย่างงี้ ทำอะไรคนเดียว ไม่ได้ตั้งใจหายไป มันไม่ใช่ความตั้งใจที่จะหนีคุณ มันเป็นนิสัยเราเท่านั้นเอง”

เลยต้องเปลี่ยนแฟนบ่อยเพื่อหาคนเข้าใจเราจริงๆ ยาก ?

“เราก็ไม่ได้ตั้งใจเปลี่ยนบ่อยหรอก ถ้ามีซักคนที่อยู่กับผมได้ยาวเลยก็ดี ชีวิตรักผมไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนจบคือต่างคนเดินทางคนละเส้น ไม่ได้ทะเลาะ ส่วนมากเลิกดีทุกคน แฟนที่คบนานที่สุดก็ 4 ปี”

ส่วนใหญ่ใครเป็นคนบอกเลิก ?

“ผมครับ ผมไม่ใช่จะตื่นมาแล้วบอกเลิกเลย การเลิกไม่ใช่สิ่งง่าย การคบใครผมไม่เคยมีกรอบตั้งแต่ต้น ว่าปีแรกเราจะเป็นอย่างงี้ ปีต่อไปเราจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน สนิทกันมากกว่านี้ เราไม่เคยมองเชิงนั้น ทุกคนที่เราเจอเค้าต่างกัน แล้วผมรู้สึกว่าเสน่ห์ของคนมันอยู่ตรงที่มันมีความเป็นตัวเค้า ความรักที่เกิดขึ้นใหม่ทุกครั้งสำหรับผม”

ครั้งไหนเสียใจที่สุด ?
“คนที่เพิ่งเลิกกันล่าสุด มันมีผลต่อผมมากๆ เพราะผมก็โตขึ้นมากแล้วไม่ได้อยู่ในวัยช่วงวัยรุ่นที่ค้นหาตัวเอง เราควรทำอะไรนึกถึงคนอื่นมากขึ้น คนก่อนหน้านี้ตอนที่เราเลิกกันเขาอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับผม ผมก็คิดว่าผมไปทำให้เค้าเสียเวลาหรือเปล่า ซึ่งผมไม่แฮ็ปปี้กับตัวเองเลย ถ้าผมจะคบกับใครในอนาคตต้องชัวร์กว่านี้ เข้าใจเขามากกว่านี้ เพราะไม่ใช่เด็กแล้ว”

มองถึงเรื่องแต่งงานเลยไหม ?

“ไม่ได้มองถึงเรื่องแต่งงาน ไม่ได้รู้สึกว่ามันจำเป็น กระดาษชิ้นนึงที่เราเซ็นด้วยกันไม่ได้พิสูจน์ว่าเรารักกัน ส่วนเรื่องลูกถ้าถามระหว่างแต่งงานกับครอบครัว ผมคิดว่าครอบครัว คือแต่งงานก็ได้ถ้าทางครอบครัวเขาต้องการ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นแค่นั้นเอง”

ตอนนี้ไม่โสดแล้ว ทำไมไม่ได้ยินข่าวเลย ?

“ก็ไม่ได้แอบอะไร เพียงแต่ไม่ได้ออกตัวในสื่อ เป็นคนนอกวงการ คือโสดมาพักใหญ่ได้ 2 ปีแล้ว หลังจากเลิกจากคนก่อนแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี เลยอยากใช้เวลากับตัวเองเลยไม่ได้ให้ใครเข้ามา ตอนแรกเราก็ตั้งกำแพงไว้สูงเหมือนกัน เราก็คิดว่าเขาก็มีแต่สิ่งดีๆให้เรา ทำไมเรางี่เง่าไม่รู้จักรับสิ่งที่เค้าให้ ถามว่าสวยไหม ในสายตาผมสวยอยู่แล้ว”

The post พูดตรงไม่อ้อมค้อม อนันดา ยอมรับ “ผมมักบอกเลิกกับผู้หญิงก่อน” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

กระแสการเชียร์ฟุตบอลไม่เคยห่างหายไปจากประเทศไทยเลยสักครั้ง มีแต่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากการเชียร์ฟุตบอลโลก 2018 ในครั้งนี้ คนไทยร่วมลุ้นร่วมเชียร์กันมากมาย บรรยากาศไม่ได้แพ้ต่างประเทศเลยค่ะ  ผู้หญิงก็หันมาดูนักบอล เอ้ย! ดูฟุตบอลกันเยอะขึ้น จุ๊เลยคิดว่าสิ่งที่นำมาเล่า คนไทยน่าจะเริ่มคุ้นชินกันดีกับ “Facebook Live”

ปกติเราดูถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอลผ่านโทรทัศน์ใช่ไหมคะ ต่อไปนี้ไม่ต้องเฝ้าติดจอทีวีเพื่อรอดูอย่างเดียวแล้วค่ะ สามารถดูผ่านโทรศัพท์หรือแท็บเลตที่ไหนก็ได้ เพราะ Facebook ทุ่มเงินมหาศาล ประมาณ 8,800 ล้านบาท เพื่อประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากอังกฤษ มาให้ชาวไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ได้ชมพร้อมกันผ่าน Facebook Live เท่านั้น! เริ่มตั้งแต่ปี 2019-2021 ที่กำลังจะมาถึงค่ะ

ซึ่งจุ๊กำลังหมายความว่าคอบอลจะไม่ได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากอังกฤษผ่านโทรทัศน์นาน 3 ปีเลยค่ะ นับว่าเป็นข่าวใหญ่มากพอสมควร สำหรับการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดกีฬาจากโทรทัศน์สู่โลกออนไลน์ เพราะปกติเราจะได้ชมกันแค่รายการโทรทัศน์ต่างๆ เช่น รายการประกวด ข่าว เท่านั้นค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะดูกีฬาฟุตบอลผ่านทีวีอีกไม่ได้ ถ้าทีวีที่บ้านเป็นรุ่นที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ยังไงก็ดูได้เหมือนเดิมค่ะ อรรถรสของความสนุก ความมัน ยังเหมือนเดิมแน่นอน

ผู้ชมกีฬาฟุตบอลในอาเซียนเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อ Facebook เลือกจะถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากอังกฤษมาให้ ไทย ลาว พม่าและเวียดนาม ได้ดูนั้นเป็นเพราะว่าทั้ง 4 ประเทศคือฐานแฟนบอลที่สำคัญของอังกฤษ ฉะนั้นคงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องจำนวนคนดูว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน

แต่สิ่งที่ต้องรอดูต่อไปคือ Facebook จะคิดรายได้จากแฟนบอลไทยเฉพาะกลุ่มนี้ได้ยังไงจากจำนวนค่าลิขสิทธิ์ที่จ่ายไปมหาศาล หรือจะให้ดูฟรีกันไปเลย หรือมีการปรับฟีเจอร์ Video เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มแฟนบอลโดยเฉพาะ ซึ่งหากการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากอังกฤษครั้งนี้ของ Facebook ประสบความสำเร็จจริงๆ คงไม่ต้องแปลกใจกันนะคะ เพราะเราเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัวแล้วจริงๆค่ะ การันตีจากเมื่อต้นปีที่ Facebook ประสบความสำเร็จมากจากการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งเบสบอล MLB ลีกที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกามาแล้วค่ะ

The post จุดเปลี่ยนครั้งใหม่ที่ควรรู้ของ Facebook และ แฟนบอลไทย! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เปิดกรุ ของสะสมสุดแปลก ของนักแสดงดังฮอลลีวู้ด นิโคลัส เคจ ย้ำ! แต่ละอย่างชวนขนหัวลุกทั้งนั้น

อาชีพดารา-นักแสดงจะเป็นอาชีพที่ได้ค่าตอบแทนงาม ยิ่งกับเหล่าคนดังในแวดวงฮอลลีวู้ดแล้วไม่ต้องพูดถึง เพราะพวกเขาได้รายได้มหาศาล ซึ่งหลายคนก็เลือกลงทุนในธุรกิจสังหาริมทรัพย์-อสังหาริมทรัพย์ เพื่อต่อยอดจากทรัพย์สินที่มีอยู่ให้งอกเงย แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากทรัพย์สินที่ธรรมดาๆ แล้ว นักแสดงฮอลลีวู้ดหลายคนก็มีทรัพย์สินแปลกที่เก็บสะสมด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นที่มี ของสะสมสุดแปลก สุดๆเลยก็คือพระเอกรุ่นใหญ่ นิโคลัส เคจ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าแต่ละชิ้นเห็นแล้วก็ชวนขนหัวลุกจริงๆ

หัวมนุษย์ย่อส่วน 

ของสะสมชิ้นแรกไม่ใช่เล่นๆ เลย เพราะมีบุคคลใกล้ชิดของเขาเปิดเผยว่า เขาเป็นคนที่นิยมชมชอบการเก็บของสะสมมากๆ เขามีของสะสมหลายอย่างแต่ที่ต้องทำให้ต้องอึ้งก็คือหัวมนุษย์ย่อส่วน  อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบว่าพวกหัวมนุษย์ที่เขาสะสมผิดกฎหมายหรือเปล่า

กะโหลกไดโนเสาร์

ไม่ใช่แค่หัวมนุษย์ย่อส่วนเท่านั้น แต่เขายังหลงใหลกะโหลกไดโนเสาร์จากมองโกเลียด้วย มีรายงานว่าในปี 2007 การประมูลของเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในแมนฮัตตัน เขาประมูลชนะ “ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ”ในการประมูลกะโหลกไทแรนโนซอรัส บาทาร์ ในราคา 9.66 ล้านบาท ทว่ามันเป็นของที่ถูกขโมยมาจากมองโกเลียเขาจึงยอมส่งคืนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมอบให้เป็นมรดกประจำชาติ

หลุมฝังศพ

ในนิว ออร์ลีนส์ เจอสิ่งก่อสร้างที่สุดแสนประหลาดคล้ายพีระมิดที่มีความสูงถึง 9 ฟุต  (ราว 2.7 เมตร) ก็คือหลุมศพ พร้อมกับมีคำจารึกว่า “Omni Ab Uno” ที่สลักเอาไว้ด้านหน้า นี่เป็นภาษาละตินที่แปลว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากหนึ่งเดียว โดยเขาซื้อหลุมศพแบบนี้ให้กับตัวเองเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 50 ปีเมื่อปี 2010 และมีแผนจะนำไปใช้ฝังศพตัวเอง

แมนชั่นผี

ปี 2007 เขาจ่ายเงินจำนวน 136.5 ล้านบาท เพื่อซื้อแมนชั่นในนิว ออร์ลีนส์ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาเรื่องความหลอน โดยเจ้าของคนก่อนได้แก่มาดามลาลอรี่ ซึ่งโด่งดังมากๆ กับการเป็นคนวิปริตด้วยการทรมานและฆ่าทาสของเธอ นักแสดงรุ่นใหญ่หวังว่าจะเขียนนวนิยายสยองขวัญที่นั่น เขากลับเจอเรื่องสยองจนต้องออกจากที่นั่นและขายทิ้งไปในที่สุด

รถมือสองของกษัตริย์อิหร่าน

เฟอร์รารี่, ลัมโบร์กินี่ เป็นรถในฝันของใครหลายคน และมีคนแค่จำนวนหนึ่งที่สานฝันให้กับตัวเองได้ ขณะที่นิโคลัส เคจ มองข้ามไปอีกช็อต เขาลงทุนซื้อ ลัมโบร์กินี่ รุ่น มิวร่า เอสวีเจ ด้วยเงิน 15.7 ล้านบาท เพราะรถคันนี้เคยเป็นของกษัตริย์แห่งอิหร่านมาก่อน จริงๆ แล้วเงินจำนวนนี้เขาสามารถซื้อซูเปอร์คาร์เจ๋งๆ ได้เลย แต่ที่มากที่ไม่ธรรมดานี้ก็สามารถทำให้เขาควักเงินในกระเป๋าออกมาครอบครองได้

การ์ตูนซูเปอร์แมนเล่มแรก

เขาเป็นนักสะสมหนังสือการ์ตูนตัวยงคนหนึ่ง และทุ่มเงินเป็นจำนวนมากในการซื้อ Action Comics เล่ม 1 ซึ่งเป็นเล่มที่ ซูเปอร์แมน ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก และ Detective Comics ที่โรบินโผล่เป็นครั้งแรก แม้บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องบ้าแต่ในปี 2014 เขาสามารถขายมันได้ในราคา 66 ล้านบาท เลยทีเดียว

 สัตว์เลี้ยงนำโชค

น้องหมา, น้องแมว, น้องกระต่าย คือสัตว์ที่นิยมเลี้ยงเป็นปกติ แต่สัตว์เลี้ยงของ นิโคลัส เคจ คือปลาหมึกยักษ์ และความไม่ธรรมดาของปลาหมึกตัวนี้คือตั้งแต่เลี้ยงเจ้าสัตว์ทะเลตัวนี้ มันทำให้เขาโชคดีขึ้นนั่นเอง

ปราสาท

อีกหนึ่งของสะสมที่ทำเงินให้เขาอย่างมหาศาลเลยก็คือการสะสมสังหาริมทรัพย์ เขาเริ่มต้นจากการขายบ้านบางส่วนของตัวเองสู่ตลาด ก่อนจะเริ่มหันมาสนใจปราสาทยุโรปและซื้อมันเก็บไว้โดยมีทั้งในอังกฤษและเยอรมันเลยทีเดียว

เครื่องบินเจ็ท

ในปี 2008 เขาถูกกรมสรรพากรของประเทศสหรัฐอเมริกาสั่งให้จ่ายเงินภาษีส่วนบุคคลจำนวน 115.5 ล้านบาทโดยหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่มากมายมหาศาลมาจากของสะสมฟุ่มเฟื่อย นั่นก็คือเครื่องบินเจ็ท รุ่นกัลฟสตรีม 1159 A เทอร์โบเจ็ทนั่นเอง

งูเห่า

นักแสดงดังฮอลลีวู้ดซื้อเจ้างูเห่าเผือกมาสองตัว ว่ากันว่าเขามีสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ เอาไว้ในบ้าน โดยมีพวกสัตว์ต่างประเทศมากมาย และยังมีสัตว์ที่อันตราย รวมทั้งสุนัขสายพันธุ์แท้ๆ โดย เคจ ยังมีเซรุ่มแก้พิษเอาไว้ด้วย เกิดกรณีที่ใครโดนงูพิษที่เขาเลี้ยงเอาไว้ฉก รอบครอบจริงๆ

ข้อมูลจาก : www.thrillist.com

The post เห็นแล้วอยากกรี๊ดดด! 10 ของสะสมสุดแปลก ของนักแสดงดังฮอลลีวู้ด นิโคลัส เคจ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“มอส-น้ำอ้อย ชนะพาล” มิสแกรนด์ภูเก็ต เปิดใจครั้งแรกหลังพิชิตมงกุฎ Miss Grand Thailand 2018 และได้ไปประกวดต่อระดับนานาชาติในเวที Miss Grand 2018 ที่พม่า

เมื่อค่ำวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ (ไบเทค) บางนา กองการประกวด “Miss Grand Thailand 2018” ได้จัดการประกวดรอบตัดสิน รอบสุดท้ายมีสาวงามตัวแทน 77 จังหวัดประชันความงามเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีหนิง-ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์ และแมทธิว ดีน เป็นพิธีกร บรรยากาศการประกวดบนเวทีเต็มไปด้วยสีสันสดใส

โดยสาวงามมิสแกรนด์ 77 จังหวัด เปิดตัวโชว์ด้วยการเต้นประกอบเพลง พร้อมกล่าวแนะนำตัวทีละคน ต่อด้วยการแสดงโชว์ในชุดว่ายน้ำ ก่อนปิดท้ายด้วยชุดราตรียาว ซึ่งผลการตัดสินปรากฏว่า “มอส -น้ำอ้อย ชนะพาล” อายุ 24 ปี มิสแกรนด์ภูเก็ต เอาชนะใจกรรมการคว้าตำแหน่ง Miss Grand Thailand 2018 ไปครองและได้รับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ประกอบด้วย มงกุฎเพชร มูลค่า 1,200,000 บาท เงินรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท บ้านทาวน์โฮม 1 หลัง จาก บริษัท เอเบสท์เอสเตท จำกัด รถยนต์เอ็มจี รุ่นเอ็มจี 3 1คัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2018 ที่ประเทศเมียนมาร์ ในเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้ “มอส-น้ำอ้อย ชนะพาล” มิสแกรนด์ภูเก็ต ไม่ใช่สาวภูเก็ตโดยกำเนิด แต่เธอเดินทางมาจาก จังหวัดชัยภูมิ ก่อนจะคว้ามงกุฎมิสแกรนด์ภูเก็ตสำเร็จ เธอบอกว่าแม้ไม่ใช่คนท้องถิ่นแต่พยายามซึมซับขนบธรรมเนียมเพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตออกมาให้ได้อย่างงดงามที่สุด ขณะที่รองอันดับหนึ่งตกเป็นของ มิสแกรนด์นครปฐม “จุ๊กจิ๊ก-จิรัชยา สุขอินต๊ะ” สาวสวยจาก จังหวัดพะเยา รองอันดับ 2  มิสแกรนด์สกลนคร “อิ๊ง-อิงชนก ประสาตร์” มีภูมิลำเนาจาก จังหวัดฉะเชิงเทรา รองอันดับ 3 มิสแกรนด์บุรีรัมย์ “บิว-นันทภัค ไกรหา” จาก จังหวัดสุพรรณบุรี และสุดท้ายรองอันดับ 4 มิสแกรนด์สระแก้ว “ตังเม-เมธาวี ธีรลีกุล” ภูมิลำเนา จังหวัดอุบลราชธานี

*สำหรับผู้ประกวดมิสแกรนด์ใน 77 จังหวัดสามารถมาจากภูมิลำเนาอื่นๆ ได้ ซึ่งผู้ที่ได้ตำแหน่งจะทำหน้าที่ “Brand Ambassador” ด้านการท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ส่วนรายชื่อรางวัลอื่นๆ มีดังต่อไปนี้ รางวัลมิสแกรนด์ไรซิ่งสตาร์ ได้แก่ “ตังเม-เมธาวี ธีรลีกุล” มิสแกรนด์สระแก้ว, รางวัลขวัญใจภูเก็ต ได้แก่ “จุ๊กจิ๊ก-จิรัชยา สุขอินต๊ะ” มิสแกรนด์นครปฐม, รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ได้แก่ “ตังเม-เมธาวี ธีรลีกุล” มิสแกรนด์สระแก้ว, รางวัลนางงามมิตรภาพ ได้แก่ “นลิน นลินทิพย์” จาก มิสแกรนด์ระนอง รางวัลแต่งกายชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ได้แก่ “ใบปอ- ปิยพร โชพุดชา” มิสแกรนด์กำแพงเพชร รางวัลนางงามเสียงดี ได้แก่ “แอนนา -ชลิดา คอร์วีโน” มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา รางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ “ตังเม-เมธาวี ธีรลีกุล” มิสแกรนด์สระแก้ว รางวัลนางงามยิ้มสวย ได้แก่ “มอส-น้ำอ้อย ชนะพาล” มิสแกรนด์ภูเก็ต รางวัลรักแร้งาม ได้แก่ “อิ๊ง-อิงชนก ประสาตร์” มิสแกรนด์สกลนคร รางวัลแนะนำตัวยอดเยี่ยม ได้แก่ “นิ้น-ศศินา กลิ่นมาลัย” จาก มิสแกรนด์นราธิวาส และ รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ “แตงโม-ทัศนา แมนโซ” มิสแกรนด์นครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด “มอส-น้ำอ้อย ชนะพาล” ได้เปิดใจถึงความรู้สึกกับสื่อมวลชนโดยเธอบอกว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากๆ ตอนประกาศชื่อว่าได้เข้ามายืน 5 คนสุดท้าย ก็รู้สึกว่าดีแล้วและพอประกาศว่าเป็นเราที่ได้ตำแหน่งยิ่งรู้สึกดีใจมาก สำหรับกำลังใจดีๆ ก็ได้จากคุณพ่อคุณแม่ ท่านทำให้เราสู้ สิ่งที่ทำให้ได้ตำแหน่งคิดว่ามาจากความตั้งใจ หากเราตั้งใจอะไรแล้วทำออกมาให้ดีที่สุดก็จะประสบความสำเร็จ

เมื่อถามถึงความมั่นใจในการพิชิตมงกุฎ Miss Grand 2018 ที่พม่า เจ้าตัวบอกว่า “เราต้องมั่นใจในตัวเองว่ามีศักยภาพไม่น้อยกว่าคนอื่น เราทุกคนอยู่ด้วยกันมา ช่วยกันทำโชว์ให้ออกมาดี ได้รับโอกาสดีๆ เราเป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาที่ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณมากๆ การได้รับตำแหน่งนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตของมอสจากหน้ามือเป็นหลังมือ นับจากนี้มอสจะมีทุกอย่างที่มั่นคงขึ้นให้พ่อกับแม่ค่ะ”

The post พิชิตมงกุฎ Miss Grand Thailand 2018 เปิดใจ “มอส” มิสแกรนด์ภูเก็ต ที่เป็นคนชัยภูมิ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ทิฟฟานี่ ทรัมป์ (Tiffany Trump) วัย 24 ปี จากที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะดูเหมือนพี่สาวจะเป็นดาวเด่นอยู่คนเดียว ตอนนี้โลกรู้จักทิฟฟานี่ ทรัมป์ แล้วว่าเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จากเด็กตัวป้อมๆ ใส่เหล็กดัดฟัน ยิ้มตาหยี ตอนนี้พัฒนามาไกลกว่าเดิม ถึงแม้ว่าจะไม่สวยสูงยาวเข่าดีเท่าพี่สาว อิวานก้า แต่ความเซ็กซี่ก็ไม่น้อยหน้าใคร อย่างน้อยก็ได้ผมสีบลอนด์สวย ผิวขาวกระจ่างใส และใบหน้าหวานๆ มาจากแม่มาร์ลา เมเปิ้ลส์ ภรรยาคนที่ 2 ของทรัมป์ ดาราดังในยุค 90

ทิฟฟานี่จบปริญญาตรีด้านสังคมวิทยา และการจัดการเมืองจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania) ปัจจุบันกำลังเรียนกฎหมายอยู่ที่จอร์จทาวน์ ลอว์สกูล (Georgetown Law School) ในวอชิงตัน ดี.ซี. เธอเคยออกซิงเกิ้ลเพลง เคยฝึกงานที่นิตยสารดัง และเคยเป็นนางแบบเดินรันเวย์ให้แฟชั่นโชว์ของแอนดูรว์ วอร์เรน (Andrew Warren) ในนิวยอร์กแฟชั่นวีค

อินสตาแกรมของทิฟฟานี่มีคนติดตามเกือบล้านคนแล้ว ซึ่งมีรูปกลุ่มเพื่อนซี้ของเธอ ซึ่งเป็นลูกคนดัง เช่น ไคร่า เคนเนดี้ หลานสาว สุดฮ็อตของโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้, ไกอา แจ็กเก็ต-มาติส เหลนของศิลปินชื่อดัง อ็องรี มาติส และเอเจ จอห์นสัน ลูกชายของเมจิก จอห์นสัน จนถูกสื่อตั้งฉายาให้ว่าเป็น Rich Kids of Instagram ส่วนความรักทิฟฟานี่คบหาอยู่กับรอส เมคานิก วิศวกรข้อมูล ลูกชายของ จอน เมคานิก ทนายความด้านอสังหาริมทรัพย์ที่โด่งดังและร่ำรวยมหาศาลในแมนแฮตตัน

เรื่อง : นิตยสารแพรว ฉบับ925 คอลัมน์ HOT FAB หน้า 120
ภาพ IG : tiffanytrump

The post สวยหวานได้แม่! ทิฟฟานี่ ทรัมป์ ลูกสาวอีกคนหนึ่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ริค สแตนตัน หนึ่งในฮีโร่ ปฎิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า ใครจะรู้ว่านอกจากเขาจะเป็นนักดำน้ำที่มุ่งมั่นเรื่องงานอย่างเต็มที่แล้ว เรื่องความรัก เขาก็ยังมีมุมน่ารักๆ ไม่แพ้กัน

ทำเอาเราเซอร์ไพรส์เมื่อริค สแตนตัน นักดำน้ำชาวอังกฤษ ฮีโร่คนเก่งของภารกิจช่วยทีมหมูป่า มีข่าวว่ากำลังคบหาดูใจกับสาวไทยง คุณแอมป์ ศิริพร บุกเงิน พยาบาลสาวชาวเชียงราย

แต่เดี่ยวก่อนทั้งคู่ไม่ได้พบรักกันในถ้ำนะจ๊ะ

ความรักของทั้งสองนั้นเหมือนพรหมลิขิตที่ถูกพาให้มาพบกัน คุณแอมป์ทำงานเป็นนางพยาบาลอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงพักร้อน เธอได้เดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษ และที่นั่นทั้งสองก็ได้พบรักกัน

สำหรับภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่านั้น หลังจากที่คุณแอมป์เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดเชียงรายได้ไม่นาน ริคได้ถูกขอความช่วยเหลือเพื่อมาช่วยเด็กๆ และโค้ช แน่นอนว่าคุณแอมป์ก็ยังมาเป็นผู้ช่วยแปลภาษาให้กับเขาและทีมนักดำน้ำ รวมถึงอาสาสมัครนานาชาติ เพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ไทยในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าอีกด้วย

ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุห่างกันถึง 20ปี แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับความรักของพวกเขา ทั้งคู่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วยกัน สนิทสนมกันมาก ดูแล้วไม่เหมือนกับคู่รักที่เพิ่งคบหาดูใจกันไม่กี่เดือน และไม่แปลกใจเลยหากทั้งคู่จะแต่งงานกัน เพราะริคนั้นทั้งรักและหลงใหลคุณแอมป์มากเหลือเกิน

ความรักในอาชีพของริคและคุณแอมป์นั้น ทำให้ทั้งคู่ทำภารกิจนี้จนเสร็จสมบูรณ์ ทั้งสองผ่านทั้งความสุขและประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นความเห็นอก เห็นใจซึ่งกันและกัน เวลาเพียงไม่นาน แต่ความรักนั้นกลับสมบูรณ์แบบ เหมือนบุพเพสันนิวาส อย่างไง อย่างงั้น

The post สุดประทับใจ ริค สแตนตัน ฮีโร่ภารกิจช่วยทีมหมูป่า พบรักพยาบาลสาวชาวเชียงราย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ฟอร์บสเปิดโผ 60 อันดับผู้หญิงสหรัฐอเมริกาที่ทำรายได้มากที่สุดด้วยตัวเอง โดย “ไคลีย์ เจนเนอร์“ วัย 20 ปี แซงหน้ารุ่นพี่ติดอันดับ ผู้หญิงรวย ที่อายุน้อยที่สุด

กลายเป็นดาวเด่นของครอบครัวแซงหน้าพี่ๆ ไปแล้วสำหรับ น้องสาวคนเล็กของตระกูลคาร์ดาเชี่ยน – เจนเนอร์ “ไคลีย์ เจนเนอร์ ” ดารา-นางแบบสาววัย 20 ปี โดยล่าสุดนิตยสารฟอร์บสได้ประกาศว่าเธออยู่ในลำดับที่ 27 ในหัวข้อผู้หญิงสหรัฐอเมริกาที่ทำรายได้มากที่สุดด้วยตัวเอง ซึ่งจากทั้งหมด 60 คน เธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด

มีการประเมินว่า “ไคลีย์ เจนเนอร์” มีทรัพย์สินมหาศาล ประมาณ 900 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 31,500 ล้านบาท ซึ่งความรวยนี้ไม่ได้มาจากมรดกของครอบครัว แต่เธอประสบความสำเร็จจากธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ “ไคลีย์ คอสเมติกส์” (Kylie Cosmetics) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2016 ซึ่งเธอถือหุ้นในบริษัทนี้เอง 100% ล้ม “มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” ที่กลายเป็นเศรษฐีตอนอายุ 23 ปี

“ไคลีย์ เจนเนอร์” เผยกับนิตยสารดังว่า มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ ที่ผู้คนจดจำฉันและยังเกี่ยวกับสิ่งที่เธอหลงใหลด้วย เธอมีความสุขกับการได้แต่งหน้า พยายามทำงานหนักเพื่อที่จะเป็นที่ 1 ในตลาดลิปสติก เธอหวังว่านี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ได้เดินตามความฝันต่อไป

ทั้งนี้นอกจาก“ไคลีย์ เจนเนอร์”แล้วพี่สาวต่างบิดา “คิม คาร์ดาเชี่ยน” ก็ยังติดอันดับที่ 54 มีทรัพย์สินจำนวน 350 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 12,250 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามรายชื่อ 60 อันดับผู้หญิงสหรัฐอเมริกาที่รวยด้วยตัวเอง (America’s Richest Self-Made Women) มีดังต่อไปนี้

1.”Diane Hendricks” วัย 71 ปี มีสินทรัพย์ 4.9 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ดอกไม้เหล็กแห่งวงการก่อสร้าง เริ่มต้นทำธุรกิจเมื่อปี 1982 ภายใต้ชื่อ ABC Supply ก่อเข้าฮุบกิจการ L&W Supply และขยายกิจการจนตอนนี้มีมากกว่า 700 สาขาแล้ว

2. “Marian Ilitch” วัย 85 ปี  เจ้าของธุรกิจพิซซ่า ลิตเติล ซีซาร์ (Little Caesars) ที่มีสินทรัพย์จำนวน 4.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐจากร้านพิซซ่าสไตล์บ้านๆ กลายเป็นบริษัทขายพิซซ่าขนาดใหญ่ที่ทำกำไรมหาศาล เริ่มหันตัวเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ รวมถึง คาสิโนโมเตอร์ซิตี้ (MotorCity Casino) ที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ด้วย

3. “Judy Faulkner” วัย 74 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ทางการแพทย์ (Epic Systems)เธอมีสินทรัพย์ประมาณ 3.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ แม่จะมากมายแต่เธอกลับใช้ชีวิตเรียบง่าย จูดี มีรถแค่ 2 คันเท่านั้น นอกจากนี้ยังอาศัยอยู่กับสามีในบ้านแถบชานเมืองที่วิสคอนซินเกือบ 3 ทศวรรษแล้ว และเธอยังได้บริจาคเงินครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินเธอให้กับผู้ขาดแคลน ให้พวกเขาได้รับอาหาร, เสื้อผ้า, ที่อยู่อาศัย, สุขภาพดี และการศึกษา

4.Meg Whitman”สาวเก่งจากแคลิฟอร์เนีย วัย 61 ปี  CEO ของเว็บไซต์ออนไลน์ชื่อดัง eBay โดยเธอมีสินทรัพย์ราว 3.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ

5. “Johnelle Hunt วัย 86 ปี  เจ้าของบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุด เธอมีทรัพย์สินประมาณ 3.2  พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ แม้เธอจะสละเก้าอี้ใน J.B. Hunt Transport Services ไปแล้วแต่ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่

6.Oprah Winfrey 7.Judy Love 8.Doris Fisher 9.Elaine Wynn 10.Lynda Resnick 11.Thai Lee 12.Sheryl Sandberg 13.Jin Sook Chang , Kathy Fields ,Katie Rodan 16.Peggy Cherng 17.Gail Miller 18.Jayshree Ullal 19. Eren Ozmen ,Alice Schwartz

21.Sara Blakely,Carolyn Rafaelian,Neerja Sethi,Anastasia Soare 25. Christel DeHaan 26.Weili Dai 27.Kylie Jenner 28.Kit Crawford 29. Tory Burch 30.Sheila Johnson

31.Nancy Zimmerman 32.Safra Catz 33. Anne Dinning 34.Vera Wang 35.Marissa Mayer 36.Madonna 37. Huda Kattan 38. Mary West,Victoria Zoellner 40.Theresia Gouw,Kendra Scott

42.Susan Wojcicki 43.Donna Karan 44.Jamie Kern Lima,Anne Wojcicki 46. Celine Dion,Adi Tatarko 48.Judy Sheindlin,Barbra Streisand 50.Nora Roberts

51.Kathy Lehne, Therese Tucker 53.Beyoncé Knowles 54.Janice Bryant Howroyd ,Kim Kardashian West,Danielle Steel 57. Martine Rothblatt 58.Liz Elting,Jessica Iclisoy 60.Taylor Swift

The post เปิดโผ 60 ผู้หญิงรวย “ไคลีย์ เจนเนอร์” ติดอันดับเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุด! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ถอดบทเรียน 5 คู่ซี้ดารา เสียเพื่อน เพราะทำการธุรกิจแล้วไม่ลงรอยกัน มิตรภาพยาวนานถูกทำลายเพราะเงิน

การทำธุรกิจว่ายากแล้วแต่การหาหุ้นส่วนที่ดีนั้นยากยิ่งกว่า เพราะเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทองแล้ว เราก็ต้องหาคนที่ไว้ใจได้ หลายครั้งจึงเห็นว่ามีการดึงญาติสนิทหรือเพื่อนสนิทมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ แต่ก็มักเกิดคำถามว่าดีแล้วแน่หรือ? จะเสียเพื่อนไหม? เนื่องจากหลายครั้งก็มีบทเรียนออกมาให้เห็นว่า นอกจากเสียธุรกิจ เสียเงินแล้วยัง เสียเพื่อน ไปอีกด้วย วันนี้ “แพรวดอทคอม” เลยขอถือโอกาสรวบรวมบทเรียนของเหล่าคนดังมาให้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อฉุกคิดก่อนที่จะทำธุรกิจกันค่ะ

“ซีแนม – ดิว”

สำหรับคู่นี้เพิ่งจะขึ้นศาลมาแบบสดๆ ร้อนๆ เลยสำหรับ 2 สาวแซ่บ “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” และ “ซีแนม สุนทร” หรือ “ซีแนม AF” ที่ตัดสินใจร่วมกันทำธุรกิจร้านทำเล็บด้วยกัน แต่ปรากฏว่าหลังจากที่มีการลงเงินไปกลับมีปัญหาในเรื่องสัญญาเช่า จนต่อมาทาง “ซีแนม” ได้ขอเรียกเงินลงทุนคืน ซึ่งทาง “ดิว” ได้มีการชี้แจงไปว่ามันมีค่าใช้จ่ายอะไรหลายๆ และการทำธุรกิจด้วยกันแต่จะให้รับผิดชอบทุกอย่างคนเดียวได้อย่างไร เรื่องราวบานปลายกลายเป็นมีปากเสียกัน และต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในที่สุด ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ “ดิว”บอกว่านี่เป็นที่สำคัญสำหรับเธอ ซึ่งในอนาคตหากจะทำธุรกิจอีกก็จะดูดีๆ และไม่เซ็นชื่อรับรองทุกอย่างคนเดียว

“บุ๋ม-เจนี่”

อีกหนึ่งคู่ที่กลายเป็นมหากาพย์เลยก็คือ เรื่องราวของ “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” กับนักแสดงรุ่นน้อง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” ที่แตกหักกันโดยมีจุดเริ่มต้นมาจากที่จอดรถสำหรับลูกค้าไม่เพียงพอ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีการดำเนินธุรกิจและในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งจากปัญหานี้ได้ลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ และมีการเปิดเผยข้อมูลของแต่ละฝ่ายออกมาทีละนิด กระทั่งมีการผิดสัญญาในบางข้อจนเป็นเหตุให้ยกเลิกสัญญาในที่สุด อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จบลงที่ฝ่ายเจนี่ยอมจ่ายเงินซื้ออาคารต่อเติมของ “พี่บุ๋ม”ในราคา 3 ล้านบาท ขณะที่ “พี่บุ๋ม”ย้ายออกไปเปิดธุรกิจในพื้นที่อื่นแทน เป็นการจบเรื่องด้วยดี แต่คงยากที่ทั้งสองจะหันหน้าเข้าหากันอีกครั้ง

“บี-โย”

เป็นเพื่อนซี้ที่คบกันมายาวนาน แต่มิตรภาพได้ถูกทำลายลงภายหลังจากที่ “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ” และ “โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร”ลงขันกันทำธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งเดิมทีทั้งคู่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องหยุมหยิมแต่สุดท้ายก็ยอมเปิดปากว่ามีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และได้ไปเคลียร์กันที่ศาล ซึ่งคดีจบไปแบบความเป็นเพื่อนก็จบลงไปด้วยเมื่อ “บี”ประกาศชัดว่า “งานไหนมีโยงานนั้นไม่มีบี”

“แพท-แมนการิน”

เริ่มต้นเข้าวงการมาพร้อมๆ กัน แต่เกิดปัญหาจนต้องแตกหักกันในที่สุดสำหรับ “แพท-ณปภา ตันตระกูล” กับ “แมน-การิน ศตายุ” ที่รวมเงินกันเปิดธุรกิจคลีนิกความงาม ทว่าไม่นานก็เกิดปัญหาเพราะกิจการไม่ดี ทำให้ดาราหนุ่มอยากจะปิดในขณะที่ “แพท” อยากทำต่อซึ่งก็ได้มีการเรียกขอเงินทุนคืน และนี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหา ซึ่งท้ายสุดแพทได้ยอมคืนเงินในที่สุด แต่ก็ยังมีการกระทบกระทั่งกัน และจบด้วยการที่ต้องเสียเพื่อนกันไป

“อ๋อม-ตุ๊กตา”

อีกหนึ่งคู่ที่ประกาศตัดขาดกันอย่างถาวรก็คือ “อ๋อม-สกาวใจ” และ “ตุ๊กตา-อินทิรา” คู่เพื่อนซี้ที่เปิดร้านขายเครื่องสำอางกระเป๋าชื่อว่า ลามะลิลา ในซอยทองหล่อ แต่ไม่นานก็เกิดอาการระหองระแหง จนตัดสัมพันธ์เพื่อนในที่สุด ขณะที่อ๋อมบอกว่าจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีคนเตือนแล้วว่าหากทำธุรกิจอย่าทำกับเพื่อน ซึ่งเธอไม่ได้ใส่ใจจนเกิดปัญหาในที่สุด ทั้งนี้อ๋อมได้บอกว่าจะไม่หุ้นทำธุรกิจกับใครอีกแล้ว

The post มิตรภาพถูกทำลาย 5 คู่ซี้คนดัง เสียเพื่อน เพราะธุรกิจการเงินไม่ลงรอย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ไอดอลตัวพ่อของวงการเพลงเค-ป็อป  ยุนโฮ TVXQ เผยเขาไม่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งแตกต่างจากคนดังคนอื่นๆ แต่เลือกที่จะเก็บ เพื่อสานฝันในการเปิดโรงเรียนให้กับเด็กๆ

จากประสบการณ์ของดารารุ่นเก่าทำให้เห็นว่าชื่อเสียงของของคนดังไม่ได้อยู่ยงคงกระพันเลย บางช่วงมีมาก บางช่วงมีน้อย บางช่วงแทบจะไม่มีเลย ทำให้ดารายุคใหม่หลังจากเข้าวงการและมีเงินเก็บแล้วก็มักมองหาไอเดียในการลงทุน เพื่อต่อยอดเงินที่เก็บไว้ให้งอกเงยขึ้นมา ซึ่งตัวเลือกที่นิยมมากก็คือการลงทุนเกี่ยวกับที่ดินและที่พักอาศัย ยกตัวอย่างเช่น “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” เธอเป็นเจ้าของที่ดินในย่านสายไหมกว่าหลายร้อยไร่ ขณะที่ “นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี” ก็โดดลงมาจับธุรกิจขายคอนโดมิเนียมหรู นอกจากนี้ยังมี “แอน ทองประสม” ที่เปิดอพาร์ทเมนท์ให้เช่าโครงการ anne’s place อีกด้วย

ด้านดาราเกาหลีใต้ก็ไม่น้อยหน้า เป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดาคนดังระดับเอลิสต์กว่า 90% ลงทุนซื้อตึกเพื่อให้เช่าไม่ว่าจะเป็น “แดซอง” วง BIGBANG ที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ขณะที่พระเอก “ควอนซังวู” 1,030 ล้านบาท รวมถึงนางเอกซูเปอร์สตาร์ยัยตัวร้าย “จอนจีฮยอน” มีมากสุดถึง 2,320 บาท

ทว่ามีอีกมุมหนึ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ เมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ ยุนโฮ ลีดเดอร์หนุ่มแห่ง TVXQ (ทงบังชินกิ) ไอดอลหนุ่มระดับตำนานของวงการเพลงเค-ป็อป ได้เปิดเผยถึงเรื่องการเงินของเขาผ่านรายการ “Dunia” อย่างน่าสนใจ เขาทำงานอย่างหนักและไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อเปิดโรงเรียนให้เด็กๆ

นักร้องหนุ่มคนดังยอมรับว่าความคิดซื้อตึกเหมือนกับดาราคนอื่นๆ ผุดขึ้นมาในหัวของเขาเหมือนกัน เพราะดูแล้วมันต้องดีแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ซื้อมันและเลือกที่จะออมเงินไว้เพราะอยากสานฝันของตัวเองให้เป็นจริงโดยฝันที่ว่าของเขาคือการเปิดโรงเรียนศิลปะและอยากใช้ความรู้ของตัวเองเกี่ยวกับดนตรีในการเปิดโรงเรียนนี้ถ่ายทอดวัฒนธรรมเกาหลีให้เข้มแข็ง

ทั้งนี้ปัจจุบัน ลีดเดอร์หนุ่มได้ค่อยๆ ทำตามฝันของเขา หลายปีที่ผ่านมาได้ให้เงินสนับสนุนนักเรียนจากโรงเรียน Kwangil High School โรงเรียนในวัยเด็กของเขา นอกจากนี้เขายังก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ Yunho Education Center ไว้ให้กับเด็กในประเทศกานาด้วย

อย่างไรก็ตามวัยเด็กของนักร้องหนุ่มแห่ง TVXQ ค่อนข้างมีชีวิตที่ยากลำบากเมื่อครอบครัวล้มละลายทำให้เขาถูกไล่ออกจากบ้านตัวเอง เขาเคยหลับแม้กระทั่งข้างถนน ซึ่งการได้เข้าวงการทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป

สำหรับ TVXQ เป็นวงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนได้ฉายาว่า เทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก โดยสมัยที่ทั้ง 5 สมาชิกยังอยู่ด้วยกัน พวกเขาคือรายได้หลักให้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ ว่ากันว่ารายได้ของค่ายนี้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์มาจากวง TVXQ แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยถึงความรวยของศิลปินหนุ่ม แต่มีการคาดเดาว่าเขาน่าจะเป็นคนรวยในวงการอันดับต้นๆ คนหนึ่ง โดยจากรายงานท้องถิ่นพบว่าผู้บริหารระดับสูงอย่าง “อีซูมาน” ต้นสังกัดของเขากลายเป็นคนดังที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในเกาหลี มีมูลค่าประมาณ 3,300 ล้านบาทเลยทีเดียว

The post หล่อคมความคิด ยุนโฮ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออมเงิน เพื่อเปิดโรงเรียนให้เด็กๆ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

7 ข้อรู้จัก “ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ” หรือ บอสวศิน แห่งละครเรื่อง เมีย 2018 ถึงปากร้ายไปหน่อย  แต่น่ารักทิ่มใจ

1. ข้อมูล

“บอสวศิน” มีชื่อจริงว่า “ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ” เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2536 ปัจจุบันมีอายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสระบุรี สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และได้คว้าเกียรตินิยม อันดับ 2 โดยหลังเรียนจบ “ฟิล์ม” ได้เข้าทำงานเป็น สจ๊วต ในสายการบิน Lion Air

2. เข้าวงการบันเทิง

“ฟิล์ม” เริ่มต้นเส้นทางสายบันเทิงของเขาจากการประกวด “DUTCHIE BOY & GIRL 2013” เข้าวงการจากโครงการ รักฝุ่นตลบ Casting Project เพื่อค้นหานักแสดงหน้าใหม่ที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ และร่วมแสดงในซีรีส์ “รักฝุ่นตลบ” เป็นละครเรื่องแรก แต่ที่ทำให้ประชาชนรู้จักเขาก็จากบท “หมออินทัช” ในละครเรื่อง “เสน่หา Diary ตอน กับดักเสน่หา” และรับบทเป็น “เพชร” ใน “เรือนเบญจพิษ”

3. มีความมุ่งมั่นในความฝัน

อย่างที่บอกไปแล้วว่าก่อนที่ “ฟิล์ม” จะมาเป็นดาราอย่างทุกวันนี้เขาเคยเป็นสจ๊วตมาก่อน โดยตอนแรกเขาได้ทำงานทั้งสองอย่างควบคู่กันไป แต่เพราะเวลาที่ไม่พอดีกันทำให้เขาต้องเลือกเส้นทางของตัวเองในทางใดทางหนึ่ง ซึ่ง “ฟิล์ม” บอกว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสก็อยากทำให้เต็มที่ ทั้งยังไม่อยากทิ้งโอกาสเพราะกลัวว่าในอนาคตจะเสียใจภายหลัง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะเรียนการแสดงเพื่อที่จะทำออกมาให้ได้เต็มที่

4. “โทนี่ สตาร์ค” คือต้นแบบของ “วศิน”

“ฟิล์ม” บอกว่าถึงแม้จะรับละครมาหลายเรื่องแล้ว แต่สำหรับบท “วศิน” ใน “เมีย 2018” นั้นค่อนข้างมีความยากตรงที่ว่าจะแสดงออกตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ ต้องเป็นผู้ชายในสไตล์สุขุมนุ่มลึกและยังต้องมีชั้นเชิง ดังนั้น “ฟิล์ม” จึงครีเอทตัวละคร “วศิน” ให้คล้ายกับ”โทนี่ สตาร์ค” ฮีโร่คนดังด้วย

5. สิ่งที่ตรงข้ามกับในละคร

ถึงในละครจะปากร้าย แต่ตัวตนจริงของเขาเป็นคนที่พูดจาน่าฟังมาก น้ำเสียงนุ่มที่เปล่งออกมาทำเอาสาวๆ หลงใหล โดยในรายการ คุยแซ่บ Show พิธีกรสาว “ชมพู่-ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์” กล่าวชมเสียงของ “ฟิล์ม” ว่าเสียงนุ่มทำให้รู้สึกสดใสจริงๆ

6.ยิ้มทีมีละลาย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกที่เห็นจากรอยยิ้มที่สดใส ไม่ใช่แค่ “อรุณา” (รับบทโดย บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เท่านั้นที่รู้สึกว่ารอยยิ้มของหนุ่มคนนี้ทำให้โลกของเธอสดใสขึ้น เพราะในตอนนี้ภาพรอยยิ้มของ “ฟิล์ม” ปรากฏอย่างแพร่หลายในโซเชียล พร้อมกับแฮชแท็ก #ทีมวศิน

7. เสมอต้นเสมอปลาย

หนึ่งในบุคคลใกล้ชิดของหนุ่ม “ฟิล์ม” เปิดเผยว่านักแสดงหนุ่มคนนี้เข้าวงการมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่แรกที่เห็นคือเขาเป็นเด็กนิสัยดี อ่อนน้อมและถ่อมตนมาก แม้ตอนนี้จะมีชื่อเสียงมากขึ้นแต่ก็ยังดีเสมอต้นเสมอปลาย เป็นต้นแบบคนนักแสดงรุ่นใหม่ที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ

The post 7 ข้อรู้จัก บอสวศิน หล่อ เท่ ปากร้าย ใจดี มีความกรุบ!!! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“พี่ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ไซมอน นาคหิรัญกนก” พาลูกสาว-ลูกชาย “โซฟี ไซมอน” และ “ฌอน ไซมอน” แจกทุนการศึกษา ประจำปี 2018 พร้อมเผยความภูมิใจในต่างแดนเป็นที่เชิดหน้าชูตาก็คือ น้ำใจของคนไทย ที่ทำให้คนทั้งโลกได้เห็น

ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปไวขนาดนี้ “พี่ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ไซมอน นาคหิรัญกนก”ครองมงกุฎนางงามเป็นปีที่ 30 แล้ว ล่าสุดเธอได้เดินทางมาเยือนเมืองไทยพร้อมกับลูกสาว-ลูกชาย “โซฟี ไซมอน” และ “ฌอน ไซมอน” เพื่อมอบทุนการศึกษาประจำปี 2018 ในโครงการ Angels Wings Foundation International ให้แก่เด็กชนบททั่วทุกภาคของประเทศไทยจำนวน 30 คน มุ่งหมายให้เด็กได้เล่าเรียนและเพื่อสร้างอาจารย์กลับไปสอนในถิ่นฐานบ้านเกิดตนเอง และในปีนี้จะมีการมอบทุนการศึกษาใน 24 มหาวิทยาลัยทั่วไทยด้วย

ซึ่ง พี่ปุ๋ย บอกว่า “การได้มอบรางวัลการศึกษาให้กับเด็กๆ เป็นอะไรที่ปลื้มใจและประทับใจ เพราะได้สร้างความฝันของเธอให้กลายเป็นความจริง ขณะที่วันนี้น้อง (นักข่าว) ก็ได้ช่วยพี่โดยการมาสนับสนุนในวันนี้ เพราะน้องทำข่าวเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ เขาก็ได้รับข่าว ก็ขอบคุณทุกคนที่ช่วยพี่ ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย เพราะว่าเราเป็นพี่น้องกันเราต้องหาวิธีช่วยกัน ไม่ว่าเราจะช่วยยังไงมากหรือว่าน้อย เราก็ต้องพยายาม “ปุ๋ย” ถือว่าหน้าที่ที่จะช่วยกันเป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ใช่พี่คนเดียว เราต้องคอยดูแลกัน ชีวิตเราบางทีก็ลำบากแต่ถ้าเราช่วยกันในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกันทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่ง “ปุ๋ย” คิดว่าทุกๆ ปีก็จะมอบรางวัลเพิ่มขึ้นทุกปี”

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับปีที่ 30 เจ้าของมงกุฎนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทยกล่าวว่า “รู้สึกว่าแก่ขึ้น แต่ก็ภูมิใจเหมือนเดิมทุกครั้งที่มาเมืองไทย มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับน้องๆ ก็รู้สึกปลื้มใจและได้พูดกับลูกตลอดว่าปู๋ย “โชคดีมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย”
ทั้งนี้พี่ปุ๋ยยังได้พูดถึงการจัดประกวด Miss Universe 2018 ที่มีแนวโน้มว่าจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยว่าทางกองประกวดอยากมาอยู่แล้ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของทีมที่ประเทศไทย ส่วนตัวก็เชียร์อยากให้มาประเทศไทยเหมือนกัน อยากให้คนต่างชาติได้เห็นความเป็นไทย ซึ่งพี่ปุ๋ยได้กล่าวเสริมว่า “ทุกครั้งที่เพื่อนๆ มาเมืองไทยและกลับไปต่างประเทศพวกเขาจะพูดกับเธอเสมอถึงความมีน้ำใจของคนไทย ซึ่งมันทำให้พี่รู้สึกปลื้มใจและภาคภูมิใจมากๆ”

อย่างไรก็ตามเธอยังได้กล่าวถึงน้องเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีด้วยว่า “ตอนที่เห็นข่าวรู้สึกเป็นห่วงเขามากเลย ซึ่งดีใจมากตอนที่น้องได้ออกมาอย่างปลอดภัย ปุ๋ยภูมิใจข่าวที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ทุกคนเอ็นดูประเทศเรา นั่นทำให้พี่ปุ๋ยภูมิใจมากค่ะ”

The post น้ำใจของคนไทยคือความภาคภูมิใจของ พี่ปุ๋ย ครบรอบ 30 ปี นางงามใจดวงใจ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นางเอก มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน รับแล้ว! ศึกษาดูใจหนุ่ม ไฮโซเซนต์ -ธราภุช คูหาเปรมกิจ อดีตแฟนหนุ่มของ คริส หอวัง เผยทั้งคู่เลิกรากันมา 1 ปีแล้วยืนยันไม่ใช่มือที่ 3

หลังจากเป็นโสดมาสักพักใหญ่ล่าสุดนางเอกคนสวย มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน ก็หัวใจกลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “7 Days เรารักกันจันทร์ถึงอาทิตย์” ชั้น 5 โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน ซึ่งขณะที่นางเอกสาวกำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้นก็มีคนมาส่งดอกไม้ช่อโตให้กับเธอ ซึ่งเธอได้บอกว่า

“สำหรับดอกไม้มิวก็ไม่รู้ว่าของใคร (ยิ้ม) ก็ตกใจค่ะ ที่มากลางวงสัมภาษณ์ (หัวเราะ) จริงๆ อันนี้อาจจะของเพื่อนก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)”

ดอกไม้เป็นของใครไม่รู้แต่ตอนนี้หัวใจของสาวมิวอาจจะมีเจ้าของแล้ว เพราะมีข่าวว่าเธอกำลังคบหาดูใจกับไฮโซเซนต์ -ธราภุช คูหาเปรมกิจ ซึ่งเธอก็ได้ยอมรับว่ากำลังศึกษากันอยู่แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นยังไม่อยากใช้คำว่าแฟน

“ก็ดูๆ ไปค่ะ เขาเป็นพี่ที่น่ารัก (ยิ้ม) สำหรับตอนนี้ก็คุยกับเขาคนเดียวและพิเศษกว่าคนอื่น ส่วนสถานะยังไม่ขอระบุ (หัวเราะ) เพราะโอกาสพัฒนาก็ ต้องใช้เวลาค่ะ”

เมื่อถามถึงข่าวมือที่ 3 เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายชายคบหาดูใจอย่างเปิดเผยกับ “คริส หอวัง” อยู่ ในเรื่องนี้นักแสดงสาวชี้แจงว่า “ว้าย ไม่ใช่มือที่สามค่ะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ซ้อนเลย เว้นช่วงเป็นปีเลยค่ะ คือเราจะศึกษาใครเราต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนค่ะ”

อย่างไรก็ตามมิวได้พูดถึงหนุ่มเซนต์ว่า “เขาก็เป็นคนดีค่ะ นิสัยดี แต่ก็ยังไม่ได้คาดหวัง ยังไม่อยากจะคาดหวังอะไรมากมาย แค่คิดว่าเราก็ยึดความสัมพันธ์ตอนที่มันดีตอนนี้ และในอนาคตจะเป็นยังไงก็ให้มันเป็นไปตามนั้นค่ะ”

The post รักผลิบาน มิว-นิษฐา รับศึกษา ไฮโซเซนต์ ไม่ใช่มือที่ 3 คริส คบใครเช็คดีแล้ว appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

โป๊ป – ธรวรรธน์ วรรธนะภูติ เปิดใจถึงเรตติ้งละครเรื่อง ข้ามสีทันดร ที่ไม่ได้เป็นไปตามที่หลายคนหวัง โดยเจ้าตัวบอกว่าผมทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนตัวไม่เสียใจ เป็นธรรมชาติไม่มีใครอยู่จุดสูงสุดไปตลอด

ต้องบอกว่าเป็นปีทองของหนุ่ม โป๊ป -ธรวรรธน์ วรรธนะภูติ เพราะหลังจากที่โด่งดังสุดๆ จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ก็มีงานเข้ามาไม่เว้นวัน แถมงานหลายชิ้นก็ยังสร้าง ปรากฏการณ์ใหม่ๆ อย่างล่าสุดก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์ผู้ชายคนแรกของเครื่องสำอาง บีเอสซี คอสเมโทรโลจี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ผู้หญิงของโป๊ปใช้ BSC” โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2561 ได้มีการจัดงานเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไฮไลท์สำคัญคือผู้ที่มียอดซื้อสูงสุดจะได้ร่วมดินเนอร์กับ โป๊ป กลางศูนย์การค้าสยามพารากอน ทำเอาสาวๆ ที่ไม่มีสิทธิ์อิจฉาตาร้อนผ่าวเป็นแถว

ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นงานบนเวที พระเอกหนุ่มก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลงานละครชิ้นล่าสุด ข้ามสีทันดร ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเรื่องนี้เรตติ้งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเกิดการเปรียบเทียบ ซึ่งโป๊ปได้ตอบคำถามถึงกรณีนี้ได้เป็นอย่างดีและเป็นเหตุเป็นผลมากๆ

กระแสตอบรับจากละครข้ามสีทันดรเป็นอย่างไรบ้าง?

“ก็เฉยๆ นะครับ กลางๆ คนที่ดูก็ดู แต่เรตติ้งก็ไม่ได้สูงมาก ผมไม่ได้สนใจหรอก มันก็เป็นไปตามนั้น ช่องหรืออะไรจะได้รู้ว่าละครควรจะทำแนวไหนถึงจะออกมาแล้วประสบความสำเร็จก็จะได้พัฒนาต่อๆ ไป”

เสียความมั่นใจไหมเพราะเรื่องก่อนหน้านี้เรตติ้งทะลุเป้ามาก?

“ก็นี่แหละ ทุกอย่างมันเป็นไปได้หมด เรื่องบุพเพฯ นี่เรตติ้งสูงมากถล่มทลาย เรื่องนี้ก็ต่ำมากถล่มทลาย (หัวเราะ) มันก็เป็นธรรมชาตินะ มันก็ทำให้เราเห็นว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครหรอกจะอยู่สูงตลอด มันก็ต้องมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา”

มีฟีดแบคจากทางช่องมั้ยเกี่ยวกับเรตติ้งของละครเรื่อง ข้ามสีทันดร?

“ไม่มีนะครับ เพราะมันมีหลายอย่าง มีฟุตบอลโลกด้วย มีเด็กติดถ้ำอีก ทุกอย่างมันก็ชนๆ กันหมด ถัวๆ กันไปมั้ง”

ส่วนตัวโป๊ปเสียใจหรือเปล่า?

“ไม่เสียใจเลยครับ เพราะว่าผมก็ทำงานไปแล้ว ก็อยู่ที่ว่าคนดูจะดูไหม ชอบไหม อันนั้นเป็นหน้าที่ของคนดูแล้วล่ะ ผมก็ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว”

หลายคนมองว่าที่ไม่ปังอาจจะเพราะนางเอก (ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์) ?

“จริงๆ แล้วผมว่าอย่างเรื่องบุพเพสันนิวาส มันลงตัวนะครับ ไม่น่าเกี่ยวกับนางเอกคนไหนหรอก มันโดยรวม ถ้าเรื่องมันสนุก บทสนุก นักแสดงทุกอย่างลงตัวมันก็เกิดเป็นอย่างบุพเพสันนิวาสเป็นอย่างกระแสที่เกิดขึ้นในสังคมไทย”

แฟนคลับว่าอย่างไรบ้างกับผลงานในเรื่องนี้?

“เขามักจะพูดถึงว่าชอบเราแสดงแบบนี้ เปลี่ยนไปดีนะ ไม่เหมือนพี่หมื่นเลย เขาไม่ได้พูดประมาณว่าละครเป็นยังไง ดีหรือไม่ดี ส่วนใหญ่จะมองที่ตัวผมมากกว่า”

เดี๋ยวนี้ฐานแฟนคลับเยอะขึ้นมากๆ เลย?

“เยอะขึ้นครับ ผมก็ไม่เคยเห็นแฟนคลับเยอะขนาดนี้ (ยิ้ม) เมื่อก่อนก็พอมีนะ แต่ตอนนี้ก็เยอะขึ้น หลายกลุ่มขึ้น เด็กหรือวัยทำงานก็เยอะครับ อย่างวันนี้ก็มีมีคนจีนบินมาด้วย ก็มาหลายครั้งแล้วนะครับ แต่วันนี้เหมือนมาเยอะกว่าเดิม”

ถ้าอย่างนั้นจะมีโอกาสจัดงานแฟนมีตติ้งที่จีนบ้างไหม?

“อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะจีนก็คงจะยุ่งยากหน่อยในการเข้าไป ก็ถ้ามีโอกาสก็อยากไปครับ ส่วนในบ้านเรายังไม่ได้คิดนะครับ แต่ก็คงทำบุญเหมือนทุกปี ก็อาจจะเลือกแฟนคลับผู้โชคดีมาจำนวนหนึ่งไปร่วมทำบุญกัน”

อย่างไรก็ตามเมื่อซักถามเกี่ยวกับผลงานเรื่องใหม่ที่แอบได้ยินมาว่านางเอกจะเป็น “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” ซึ่งโป๊ปบอกว่า “กับแต้วเหรอครับ ผมยังไม่รู้นะ แต่มีละครติดต่อเข้ามา แต่ยังไม่ได้บอกนางเอกว่าเป็นใครครับ”

The post ข้ามสีทันดร เรตติ้งแป้ก โป๊ป ตอบดี! ไม่มีใครอยู่จุดสูงสุดไปตลอด appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เวลานี้ชื่อเสียงของบุรุษผู้เปลี่ยนโลก “อิลอน มัสก์” คงไม่มีใครไม่รู้จักในฐานะนักธุรกิจมหาเศรษฐีระดับโลก เขาเติบโตมาอย่างไร และทำไมถึงมีแนวคิดในการทำงานและสร้างสิ่งประดิษฐ์อันเหลือเชื่อจนประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้ นี่อาจจะเป็นคำตอบที่ทำให้เรารู้จักตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุด

เขาคือผู้ก่อตั้งบริษัท Paypal ระบบการโอนเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาคือผู้ที่คิดค้นยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในนาม Tesla และเขายังเป็นเจ้าของธุรกิจการขนส่งทางอวกาศอย่าง SpaceX เพื่อการสำรวจและอาจนำไปสู่การสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่บนดวงดาวอื่น นี่คือผลงานที่ทำให้ทั่วโลกต่างตกตะลึงจนบอกว่า “อิลอน มัสก์” ไม่ต่างอะไรจาก โทนี่ สตาร์ค แห่ง The Avengers

ความอัจริยะของเขาหากย้อนกลับไปเมื่อวัยเด็กก็เริ่มฉายแววตั้งแต่อายุ 12 ที่สามารถเขียนโปรแกรมเองได้ จวบจนกระทั่งเขากลายเป็นนักธุรกิจผู้เปลี่ยนโลกในวันนี้ ซึ่งแนวคิดในการประดิษฐ์สิ่งต่างๆของเขาล้วนโฟกัสที่การใช้พลังงานสะอาด และนำนวัตกรรมใหม่ๆมาแก้ปัญหา

ล่าสุดกับการเสนอตัวเพื่อเข้ามาช่วยเหลือทีมนักฟุตบอล หมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง เขาใช้เวลาเพียง 3 วันในการออกแบบ ประกอบ และจัดส่งเรือดำน้ำจิ๋วเพื่อใช้ในการช่วยเหลือ แม้ว่าจะมีเสียงจากนักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษอย่าง “เวิร์น อันสเวิร์ธ” กับการที่อิลอน มัสก์ มาเยือนไทยเพื่อช่วยเหลือในปฏิบัติการครั้งนี้ ว่าเขาแค่ต้องการมาพีอาร์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าบุรุษผู้นี้ไม่มีอะไรที่เขาคิดแล้วไม่ทำ หรือทำแล้วจะเป็นไปไม่ได้

อะไรที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็น “อิลอน มัสก์” อย่างทุกวันนี้ ไปค้นหาตัวตนของเขาได้แบบเต็มๆ ใน หนังสือ “อิลอน มัสก์” จากสำนักพิมพ์ Shortcut เขียนโดย แอชลีย์ แวนซ์ แปลโดย จินดารัตน์ ราคา 315 บาท ได้แล้ววันนี้

The post อายุ 12 เขียนโปรแกรมเอง! เจาะชีวิตบุรุษผู้เปลี่ยนโลก ‘อิลอน มัสก์’ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ดี แอนน์ เคนติช โรเจอร์ สาวผิวสี วัย 25 ปี คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน 2018 เธอได้ลบประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีหญิงผิวสีได้ครองตำแหน่งนี้เลย เป็นเวลาถึง 66 ปี

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการนางงามของ เกรทบริเตน เกาะทางเหนือของสหราชอาณาจักร หลังจากที่จัดการประกวดมาตั้งแต่ปี 1952 ล่วงมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง 66ปีแล้ว ซึ่งในปีนี้ผู้ชนะที่คว้ามงกุฎเป็นนางงามผิวสีคนแรกของเวทีนี้เลยก็ว่าได้ ดี แอนน์ เคนติช โรเจอร์ เธอทำลายประวัติศาสตร์ และสร้างขึ้นมาใหม่พร้อมกัน

สาวผิวสีคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ความสามารถของเธอนั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ ดี แอนน์ เคนติช โรเจอร์ จะครองตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน 2018 แต่เธอมีดีอย่างไร และเพราะอะไรเธอถึงได้คว้ามงกุฎประวัติศาสตร์นี้ไปได้ เราจะพาไปทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้น

ดี แอนน์ เคนติช โรเจอร์ วัย 25ปี เธอมาจาก แองกวิลลา อาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียน ดี แอน์จบการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ก่อนที่เธอจะเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน ปี 2018 นั้นเธอเคยได้รับตำแหน่ง มิสแองกวิลลา ในปี2017 ที่ผ่านมานี้ด้วย

นอกจากนี้เธอยังเป็นนักกีฬาที่ได้เข้าร่วมแข่งกีฬากรีฑาใน Commonwealth Games การแข่งขันกีฬาของเครือจักรภพ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 4ปี ในปี2010 และ 2014 และเธอยังได้เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาจากทั้งสองปีนี้ด้วย

โดยเธอได้พูดถึงความสำเร็จนี้ว่า “จะประสบความสำเร็จได้ ต้องสอนตัวเองให้ตื่นขึ้นมาฝึกฝนทุกเช้า ควบคุมอาหารและทานของที่มีประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบเรื่องเรียนด้วย รวมถึงดูแลสภาพจิตใจในขณะที่เข้าร่วมแข่งขันและทุกๆ การแข่งขันต้องมีประสิทธิภาพ”

ในวัยเด็ก ดี แอนน์มักคลุกคลีกับการเล่นกีฬาเสมอ โดยเฉพาะฟุตบอล วอลเลย์บอล แต่หลังจากที่เธอมีปัญหาจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าเธอ เมื่อครั้งที่เข้าแข่งขันกีฬา Commonwealth Games เมื่อปี 2014 เธอจึงได้ถอนตัว และได้ลองเข้าประกวดนางงามแทน

หลังจากที่เธอได้รับตำแหน่ง ดี แอนน์ได้ออกมาขอบคุณแฟนๆ นางงามที่คอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนเธอ เธอยังกล่าวอีกว่า “เธอจะใช้ตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตนที่เธอได้รับเป็นสื่อกลางที่จะบอกผู้หญิงทุกคนว่า จงเชื่อมั่นในตัวเองและจงทำตามความฝัน ในสิ่งที่ตัวเองได้ตั้งไว้ จงมุ่งไปข้างหน้า สหราชอาณาจักรมีสังคมที่หลากหลาย และ ฉันจะเป็นแบบอย่างที่ดีของความอดทน ความหลากหลาย ความสวยงาม และสิทธิของผู้หญิง”

ดี แอนน์ หนึ่งในสาวงามจากทั้งหมด 32 คนที่ได้เข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน ปี2018 เธอได้รับเลือกจากคณะกรรมการ ที่ลงความเห็นว่าเธอสมควรที่จะเป็นตัวแทนเพื่อเข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 ในปลายปีที่จะถึงนี้ เพราะไม่ใช่แค่เพียงความสวยจากภายนอก แต่ทัศนคติของเธอนั้นก็ยังดีมากอีกด้วย

งานนี้ Paula Abbandonato ตำแหน่ง National Director ของมิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน ได้ออกมาพูดว่า เขาไม่สามารถนำเสนอความเป็นเธอ และทั้งหมดที่เธอเป็น แต่ ดี แอนน์ เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม เธอเป็นบุคคลตัวอย่างของผู้หญิงทุกผิวสี และเธอได้รวมคุณภาพตามอุดมคติของ มิสยูนิเวิร์ส ไว้หมดแล้ว

ต้องบอกเลยว่า เธอเป็นอีกคนหนึ่งของผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส ปี 2018 ที่ทั้งสวยและมีทัศนคติที่ดีมากๆ อีกทั้งยังเป็นนางงามผิวสีคนแรกของ เกรทบริเตน อีกด้วย ใครจะรู้เธออาจจะเป็นตัวเก็งและม้ามืดของการประกวดสาวงามที่สวยที่สุดในจักรวาลนี้ก็เป็นได้

ภาพและที่มา : http://www.dailymail.co.uk, IG : astoldby_dee

The post ลบประวัติศาสตร์ 66 ปี ‘ดี แอนน์ เคนติช โรเจอร์’ สาวผิวสีคว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สเกรทบริเตน 2018 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

อีก 4 เดือน พุฒ-จุ๋ย เตรียมเข้าประตูวิวาห์ ฝ่ายชายทำงานหนักเพราะมีแผนซื้อบ้านเพิ่มเพื่อขยายเรือนหอ ด้าน จุ๋ย เผย พุฒ ซ้อมให้เงินใช้วันละ 1 พันบาท

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นที่คู่รักคู่หวาน พุฒ-จุ๋ย จะเข้าประตูวิวาห์ด้วยกันที่ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ  ซึ่งก่อนที่จะถึงงานมงคลที่ทุกคนรอคอย เมื่อวันที่ 17 กรกรฏาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์อัพเดทถึงความคืบหน้างานแต่งงาน ซึ่ง จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา บอกว่าเรื่องชุดเจ้าสาวตอนนี้ก็ได้วัดตัวไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนจะอลังการอย่างที่หลายคนคาดเดาหรือเปล่านั้น เธอรีบปฏิเสธพร้อมชี้แจงว่าเธอเป็นคนเรียบๆ คงไม่ได้อลังการหรือสั่งตัดมาจากเมืองนอก เอาที่ใส่แล้วมั่นใจและสง่างามในแบบของเราดีกว่า

“ชุดเจ้าสาวก็มีคุยไว้แล้ว วัดตัวไว้แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างค่ะ ต้องรอสั่งของค่ะ ถามว่าจะอลังการไหม ก็ไม่คงไม่ค่ะ จุ๋ยเป็นคนเรียบๆ  ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว จุ๋ยมองว่าเรื่องชุดเอาที่เราใส่แล้วมั่นใจ เราสง่าในแบบของเราดีกว่า จุ๋ยว่าทุกฝ่ายพร้อมช่วยให้มันทันอยู่แล้ว ตอนนี้ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเสร็จไปแล้วนะ ร้านที่รับทำเตรียมอย่างดีเลย เหลือแค่ของพวกเราที่รอสั่งผ้าเข้ามา ถามว่าเขาตามใจไหม แต่พอสุดท้ายพาเขาไป เขาก็จะบอกว่าอันนี้ดี เขาเป็นคนเลือกอยู่ดี”

นอกจากนี้ว่าที่เจ้าบ่าว พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน ได้เผยว่าช่วงนี้ทำงานหนักเพราะกำลังวางแผนซื้อบ้านข้างๆ เพื่อขยายเรือนหอ โดยดาราหนุ่มเล่าวว่าอยากทุบรั้วให้ติดกันเป็นพื้นที่ใหญ่สมัยนี้จะหาพื้นที่หลายตารางวาในหมู่บ้านมันยากและแพงด้วย

จากนั้นเมื่อถามถึงความรู้สึก จุ๋ยบอกว่า “ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรนะคะ มีคนบอกว่าใกล้วันจะรู้สึกอีกที ตอนนี้สบายๆ เราอยู่กับงานแบบนี้มาเยอะ แต่ใกล้วันคงมีความรู้สึกอะไรบางอย่างเกิดขึ้น”

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งอย่างที่น่าอัพเดทสำหรับคู่นี้คือ มีข่าวบอกมาว่าตอนนี้หนุ่มพุฒซ้อมให้เงินว่าที่ภรรยาแล้ว โดยจุ๋ยบอกว่าในแต่ละวันเขาจะให้เธอเป็นเงิน 1 พันบาท แหม่ๆ มีความซ้อมเป็นสามีซะด้วย “พุฒใจดี คือจุ๋ยไม่กดเงิน แล้วไม่ค่อยมีเงินสด แล้วเขาก็ถามเราว่ามีเงินกินข้าวไหม ก็เอามาให้เราวันละพัน ก็เอ็นดู (หัวเราะ)” ขณะที่พุฒบอกว่า “ตอนนี้ผมให้เขา แต่ต่อไปเขาให้ผมวันละเท่าไหร่ไม่รู้” (ยิ้ม)

ภาพจาก : IG  @polyplus_jad_hai,push_lover

The post นับถอยหลัง 4 เดือน พุฒ-จุ๋ย วิวาห์ นางเอกเผยว่าที่เจ้าบ่าวซ้อมให้เงินใช้วันละ 1 พันบาท appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.