2 พระเอกเกาหลี ขวัญใจสาวๆ กงยู และ อีดงอุค จากซีรีส์ “Goblin” จะหวนกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบหลายปี ในรายการ “Lee Dong Wook Wants to Talk” ช่อง SBS

“Goblin” เป็นหนึ่งในซีรีส์ท็อปของช่องเคเบิ้ล tvn ที่ได้รับ กระแส การพูด และการขายลิขสิทธิ์ เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสามของซีรีส์ช่องเล็กที่สร้างประวัติศาสตร์เขย่าวงการโทรทัศน์ด้วยการโกยฐานผู้ชมไปจากช่องใหญ่ โดยในอีก 2 เดือนนี้จะครบรอบ 3 ปี ของซีรีส์ “Goblin” แต่ความประทับใจมากๆ ต่อเรื่องนี้ทำให้รู้สึกว่าความสนุกเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่านั้น เช่นเดียวกับ 2 พระเอกเกาหลี ขวัญใจของสาวๆทั่วเอเชีย กงยู และ อีดงอุค ที่ยังถูกพูดถึงในแง่ของเคมี “Bromance” (ฺbrother+romance มิตรภาพระหว่างลูกผู้ชาย แทนความสัมพันธ์แบบเพื่อนรัก เพื่อนสนิท) ที่ทำให้สาวๆได้ฟินกันตลอดเรื่อง

การโคจรมาพบกันของ 2 พระเอกเอลิสต์ในเรื่อง “Goblin” ว่ายากแล้ว แต่การที่ทั้งคู่จะกลับมาพบกันอีกครั้งนั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า เพราะนอกจากเวลางานแล้ว ทั้งคู่ก็ค่อนข้างเก็บตัว รวมถึงพรีเซนเตอร์สินค้าหลายชิ้นก็เป็นคู่แข่งกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทั้งคู่จะมีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้ง

ล่าสุดถือเป็นข่าวดีของแฟนคลับลุงยักษ์-ลุงยม เมื่อสื่อเกาหลีใต้ได้เปิดเผยว่า 2 หนุ่มได้กลับมาพบกัน โดยต้นสังกัดของพระเอกกงยูได้ยืนยันว่าพระเอกดัง เจ้าของฉายาลมหายใจของภาคพื้นเอเชีย จะมารายการ “Lee Dong Wook Wants to Talk” ซึ่งหนุ่มดงอุคเป็นพิธีกร โดยผู้ชมจะมีโอกาสได้เห็นทั้งคู่ร่วมเฟรมกัน นับเป็นข่าวดีที่ทำให้แฟนคลับตั้งตารอคอยกันมากๆ

อย่างไรก็ตามรายการ “Lee Dong Wook Wants to Talk” จะถ่ายทำในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ และออกอากาศให้ได้ชมกันทางช่อง SBS ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562

ภาพจาก : soop , tvn

ข้อมูล : https://www.allkpop.com/

The post ทีมเมียตาติดจอ พระเอกเกาหลี กงยู – อีดงอุค จะกลับมาพบกันอีกครั้ง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ชีวิตจริงไม่เหมือนในละคร ( รองเท้านารี ) โฟกัส จีระกุล แต้มบุญสูง เผยเข้ากันได้ดีกับ แม่เจมส์  หมดปัญหาหม่าม้าแฟนหนุ่มไม่ปลื้ม

จาก “น้อยหน่า” เด็กสาววัยซุกซนในภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” ปัจจุบันเธอโตเป็นผู้ใหญ่แถมยังผ่านวัยเบญจเพสแล้วด้วยสำหรับ โฟกัส จีระกุล นั่นทำให้การรับงานแสดงของเธอแตกต่างไปจากเดิมมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะบท “น้ำหนาว” ที่เธอได้รับในละครเรื่อง รองเท้านารี ของช่อง อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 นอกจากบทที่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังต้องปะทะฝีมือกับนักแสดงรุ่นเก๋า “เดือนเต็ม สาลิตุล” ที่มารับบทเป็นคุณแม่สามีที่ขัดแย้งกับเธอตลอดทั้งเรื่อง และถึงแม้ในตอนของ 3 สาวคนอื่น “โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร” , “แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล”, “ยิปโซ-อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์” จะน่าสนใจ แต่ปมความขัดแย้งระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้กลับดึงดูดใจผู้ชมมากกว่า เนื่องจากมีความใกล้ตัวเลยทำให้ผู้ชมอินมากๆ ซึ่งโฟกัสได้เปิดเผยกับ “แพรวดอทคอม” ถึงเรื่องนี้ว่า

“ในเรื่องนี้รับบทเป็นคุณหมอชื่อ “น้ำหนาว” เป็นตัวแทนของสาวรองเท้าบูท มีความคิดเป็นของตัวเอง มั่นใจในตัวเองสูง ไม่ชอบการถูกตีกรอบ แต่ไปแต่งงานกับ “หมอชัย” (ซัน ประชากร) ลูกชายคนเดียวของครอบครัว เลยถูกมีสามีแผลงฤทธิ์ใส่เพราะหวงลูกชาย ถ้าดูจากบทมันค่อนข้างไกลตัวเรามากแต่ก็สนุกตรงที่ได้ท้าทายตัวเอง เพราะในชีวิตจริงเรายังไม่ได้แต่งงาน แต่ถ้าพูดถึงนิสัยก็คงเหมือนกันตรงที่เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง โดยสิ่งที่ประทับใจในตัวละครตัวนี้ก็คือเขามีความเป็นผู้ใหญ่ อดทนอดกลั้น แต่ก็ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่”

ในละคร “น้ำหนาว”ต้องทะเลาะกับแม่สามีบ่อยมาก แต่สำหรับในชีวิตจริงๆ นั้น ถึงโฟกัสจะดูเป็นคนที่พูดตรงๆแรงๆ แต่กลับเข้ากันดีกับแม่ของแฟนหนุ่มได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อบางครั้งก็มากจนไม่ต้องมีแฟนหนุ่มมาอยู่ร่วมวงสนทนาก็ได้

“จริงๆแล้วกัสเป็นคนที่เข้ากับผู้ใหญ่และเด็กได้ง่าย แต่กับรุ่นเดียวเข้ากันไม่ได้เลย กัสสนุกกับการที่ได้นั่งคุยกับผู้ใหญ่ ท่านชอบนั่งเล่าอดีตให้ฟัง เพราะมีประสบการณ์ชีวิตเยอะ แต่สำหรับกับคนรุ่นเดียวกันจะเข้ากันไม่ค่อยได้ สำหรับความสัมพันธ์กับแม่พี่เจมส์นั้นก็คุยได้ค่ะ คุณแม่พี่เจมส์เป็นคนที่น่ารักอยู่แล้ว ถ้าท่านอยากคุยอะไรให้เราฟัง เราก็สามารถคุยกับเขาได้  ท่านจะชอบเล่าเรื่องของแต่ก่อนเป็นอย่างไร ตอนอยู่อังกฤษเป็นอย่างไร สิ่งที่กัสกับคุณแม่ชอบเหมือนกันก็คือการร้องคาราโอเกะ ส่วนพี่เจมส์ไม่ชอบร้อง บางครั้งกัสกับคุณแม่พี่เจมส์เลยร้องด้วยกันที่บ้าน แม้ไม่มีพี่เจมส์อยู่ก็ตาม”

สามารถติดตามชมละครรองเท้านารีได้ทุกคืนวนเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รองเท้านารี ละครที่ว่าด้วยเรื่องการตามหารักที่ใช่ในแบบของตัวเอง

การเดินทางของความรัก “แก้ว-จริญญา” ทุกย่างก้าวคือการเรียนรู้

แก้ว จริญญา – โฟร์ ศกลรัตน์ 2 สาวตัวแทนความรักฉบับ รองเท้านารี

The post ไร้ปัญหาแม่แฟนเขม่น โฟกัส ยิ้ม!เข้ากับ แม่เจมส์ ได้ดี ไม่เหมือนใน รองเท้านารี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ทำเอาทะเลร้อนไปเลยจ้า สำหรับ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ในชุดทูพีซจากแบรนด์ Sirivannavari Bangkok งานนี้เจ้าลิซเซ็กซี่ไม่มาก แต่ดาเมจแรงสุด ทำเอาบลิ๊งค์ตายไปเลย

เมื่อไม่นานมานี้ ลิซ่า BLACKPINK พร้อมครอบครัวบินลัดฟ้ากลับไทยมาพักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากทำงานหนักมาทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นไปตะลุยหากินของอร่อยย่านเยาวราชแบบชิลล์ๆ กับแก๊งค์เพื่อน รวมถึงไปพักกายเอนใจที่จังหวัดภูเก็ต ทะเลใต้ของไทย งานนี้แฟนคลับเลยได้เห็นลิซ่าลงรูปรัวๆ แน่นอนว่ายอดไลค์แต่ละรูปพุ่งทะลุไปหลายล้าน

สมกับเป็นไอคอนด้านแฟชั่น เพราะถึงแม้ลิซ่าจะแต่งตัวชิลล์ๆ แต่ก็ได้รับความสนใจมากเหมือนเช่นเคย ซึ่งก่อนหน้านี้แพรวดอทคอมได้ทำการ ซูมแฟชั่นหลักร้อยของ ลิซ่า BLACKPINK สวยเซ็กซี่รับลมทะเลภูเก็ต มาให้แฟนๆ ได้ดูกันแล้ว มารอบนี้เจ้าลิซทำไอจีแตก ยอดไลค์ถล่มถลายอีกครั้งหลังลงรูปที่ใส่บิกินี่ ทูพีซ คลุมด้วยเสื้อเสื้อสีดำแขนยาว เผยให้เห็นชุดบิกินี่สีมินท์เบาๆ ถึงจะไม่ได้ดูเซ็กซี่มาก แต่ดาเมจเจ้าลิซในชุดนี้แรงสุดๆ

สำหรับชุดทูพีซชิ้นนี้มาจากแบรนด์ Sirivannavari Bangkok มีสีเดียวคือ สี PALE GREEN ราคา $187.76 ดอลลาห์ หรือประมาณ 6 พันบาท ออกแบบโดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

ภาพ : lalalalisa_m, www.sirivannavari.com/

เผยภาพสเก็ตช์ฝีพระหัตถ์ “โชกเกอร์ลิซ่า” พระปรีชาสามารถ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ

ชิ้นเล็ก ราคาไม่เล็ก! เปิดกรุเครื่องประดับ นาฬิกาหรู “ลิซ่า BLACKPINK”

ตามรอยไอเท็ม! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋าโท้ทจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

 เปิดคลังแสง กล้องถ่ายรูป “LISA BLACKPINK” พร้อมฝีมือการถ่ายรูปที่ไม่ธรรมดา

เปย์นี้เพื่อลลิษา! Blink ชาวจีนซื้อของหรูระดับไฮเอนด์ ให้กับลิซ่า BLACKPINK

แบบเดียวในโลก! In Ear “ลิซ่า และสมาชิกวง BLACKPINK” ดูดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

มากกว่าสวยคือความทุ่มเท “ลิซ่า BLACKPINK” มีวันนี้ได้เพราะความสามารถ

ลิซ่าสายเปย์! ซื้อของขวัญแบรนด์เนมให้เพื่อนร่วมงาน ในทริปฝรั่งเศส

The post เซ็กซี่ไม่มากแต่ดาเมจแรงสุด ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ในชุดทูพีซจากแบรนด์ Sirivannavari appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

สวยเหมือนหยุดเวลาไว้! เปิดภาพล่าสุดของ นางเอกเกาหลี วัย 46 ปี “คิมซอนอา” นักแสดงดังจากซีรีส์ “My name is Kim Sam Soon ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน”

ถึงละครรักโรแมนติกของเกาหลีใต้จะมีเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง แต่ “My name is Kim Sam Soon ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน” คือหนึ่งในซีรีส์ที่สร้างความประทับใจให้กับหลายคน และแม้ว่าเวลาจะผ่านมาถึง 15-16 ปีแล้ว แต่แฟนๆ ก็ยังจดจำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่แค่เนื้อหาการดำเนินเรื่องที่สนุกเท่านั้น แต่มันยังสร้างชื่อให้กับนักแสดงหลายคน ไม่ว่าจะเป็นพระเอกขวัญใจสาวๆ “ฮยอนบิน”, “แดเนียล เฮนนีย์”, “จองรยอวอน” ที่ตอนนี้กลายเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงแดนกิมจิ

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือนางเอกของเรื่องนี้ “คิมซอนอา” นักแสดงสาววัย 30 ปีในตอนนั้น รับบทเป็น “คิมซัมซุน” ด้วยบทบาทที่เธอได้รับในตอนนั้น (ปล่อยตัวทั้งหน้าตาและรูปร่าง) ภาพลักษณ์ของเธอจึงค่อนข้างแตกต่างกับนางเอกคนอื่นๆ ท่ามกลางเสียงซุบซิบขนานใหญ่ ถึงจะเป็นงานนั้นแต่การแสดงของเธอกลับมัดใจคนดูอยู่หมัดและทำให้ผู้คนตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง ไม่ช้าเธอกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในเกาหลีใต้

หลังจากผลงานเรื่องคิมซัมซุนนักแสดงสาว “คิมซอนอา” ก็มีผลงานทั้งภาพยนตร์และละครต่อมาอีกหลายๆ เรื่อง โดยผลงานชิ้นล่าสุดของเธอที่กำลังจะลาจอก็คือละครแนวเมโลดราม่าเรื่อง “Secret Boutique” ออกอากาศทางสถานี SBS โดยนอกเหนือจากการแสดงแล้ว ทรงผมบ็อบสั้นที่ดูเก๋ไก๋ของเธอก็เป็นที่พูดถึง รวมถึงได้รับความสนใจจากสาวเกาหลีไม่น้อย

ถึงในละครจะมีสไตล์ที่เต็มไปด้วยบุคลิกมั่นใจออกแนวเฟี๊ยตๆ เปรี้ยวๆ แต่ชีวิตจริง “คิมซอนอา” ก็ยังเป็นคนเดิม โดยภาพล่าสุด (31 ต.ค.2562) ของดาราสาวที่สนามบินขณะกำลังเดินทางไปบาหลีทำให้ผู้คนได้เห็นความสดใสของนักแสดงสาวคนนี้แม้วัยจะมาถึงหลักสี่แล้วก็ตาม

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทีมเมียตาติดจอ พระเอกเกาหลี กงยู – อีดงอุค จะกลับมาพบกันอีกครั้ง

เปิดตำนานคู่จิ้น 2 ยุค เจอร์รี F4 ประกบคู่ เสิ่นเยว่ เคมีความหวานข้ามรุ่น

สวย-หล่อจัดจ้าน กงยู นำทีมท็อปสตาร์ ร่วมบิ๊กอีเว้นท์ LOUIS VUITTON

น่ารักไปอีกแบบ ผมประบ่า สไตล์ Jennie BLACKPINK โดนใจสาวหน้ากลม

ซุปตาร์สาวชาวจีน ขุ่นแม่ ” แองเจล่า เบบี้ ” กลายเป็นผู้ติดตามในไอจีของ ลิซ่า

5 เรื่องไม่ธรรมดาของ สกาย วงศ์รวี นักแสดงหนุ่มที่มาพร้อมกับเสน่ห์เกินคาดเดา

ชี้แจงกรณี  ซงฮเยคโย ไม่ได้ออกมาปรากฎตัวต่อสื่อมวลชน

ปราสาทผีสิง! สถานที่ฉลองวิวาห์ไม่ธรรมดาของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์

ซอลลี่ เสียชีวิต! โซเชียลตื่นตัวยุติความเกลียดชังบนโลกออนไลน์

 การเสียชีวิตของ ซอลลี่ ดาราเกาหลีหญิง ผลักดันกฎหมายเอาผิด Cyberbullying

 ลงดาบชาย 2 ราย กุข่าวสาเหตุการหย่าร้างของ นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย

พบแล้วคนหาย! “ซงฮเยคโย” มูฟออนออกจากความเศร้า ซุ่มเรียนศิลปะในนิวยอร์ก

4 ซีรีส์เกาหลี ที่อวลกลิ่นความหอมของความรัก ผสมความแฟนตาซี

ลุ้นคืนจอในรอบ 5 ปี! นางฟ้าเกาหลี คิมแแทฮี จ่อกลับมารับงานอีกครั้ง

หนังสือพิมพ์อังกฤษยก Lisa ติด 1 ใน 25 สุดยอดสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปหญิง

“จี ดรากอน” มีรายได้ในปีนี้ 1,400 ล้านวอน แม้อยู่ในช่วงพักงานไปเป็นทหาร

นี่คนหรือนางฟ้า นางเอกสายบุญ ซูจี บริจาคเงิน 100 ล้านวอนเป็นประจำ

The post สวยกว่าเก่า สาวกว่าเดิม “ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน” นางเอกเกาหลี วัย 46 ปี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

แฮ็ปปี้เต็มอิ่มสมกับการรอคอยจริงๆ สำหรับงานแฟนมีตติ้งของศิลปินสาวเสียงหวาน “เจสสิก้า จอง” ( Jessica Jung ) ที่ลัดคิวด่วนมาเจอกับเหล่า Golden Stars ชาวไทย (ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของเจสสิก้า) ในงาน “XOXO Jessica Fan Meeting in Thailand” (เอ็กซ์โอเอ็กซ์โอ เจสสิก้า แฟนมีตติ้ง อิน ไทยแลนด์) จัดขึ้น ณ Ultra Arena Hall, Show DC

เริ่มต้นบรรยากาศงานแฟนมีตติ้งด้วยเสียงกรี๊ดต้อนรับที่ดังสนั่นจากแฟนคลับในทันทีที่สาวเจสสิก้าปรากฎตัวขึ้นในเพลง Because It’s Spring จากนั้นพิธีกรของงาน เจริญ แซ่จู ได้กล่าวต้อนรับเจสสิก้าและเหล่า Golden Stars ชาวไทยเข้าสู่งานแฟนมีตติ้งอย่างเป็นทางการ ด้านสิก้าเองก็ขอกล่าวทักทายแฟนๆ ด้วยเช่นกันว่า “Hello Bangkok สวัสดีค่ะ เจสสิก้าค่ะ (ภาษาไทย)” พร้อมบอกถึงความประทับใจที่มีแฟนคลับมารอต้อนรับเธออย่างอบอุ่นที่สนามบินแถมยังหยอดหวานใส่อีกว่า “I Love My Golden Stars” แม่อ้อนเบอร์แรงขนาดนี้ เล่นเอาแฟนคลับฟินจนแทบวูบตั้งแต่เริ่มงาน

ทักทายกันเล็กน้อยไปแล้ว ก็เข้าสู่ช่วง Jesstagram เป็นช่วงที่เจสสิก้านำภาพถ่ายส่วนตัวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาให้ Golden Stars ชาวไทยได้เห็นก่อนใคร พร้อมเล่าถึงโมเม้นท์สุดประทับใจในแต่ละภาพให้ฟัง จากนั้นก็ต่อด้วยช่วง Jessica’s Q&A เป็นการเลือกข้อความบนโพสท์อิทที่แฟนๆ เขียนมาถามและบอกความในใจถึงเจสสิก้าไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ซึ่งข้อความที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้มากที่สุดเป็นข้อความที่ขอให้สาวสิก้าพูดประโยคภาษาไทยว่า “รักนะ จุ๊บจุ๊บ” ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามคำขอแถมยังส่งหัวใจให้แฟนๆ ไปอีก

พักความฟินแล้วกลับมาโบกแท่งไฟไปตามจังหวะเพลงกันต่อในเพลงความหมายดีๆ อย่าง Dear Diary, Tonight และ Beautiful ซึ่งเมื่อสาวสิก้าร้องเพลง Beautiful จบก็เอ่ยชม Golden Stars ชาวไทยทันทีว่าแฟนๆ ทุกคนช่วยกันร้องเพลงนี้ได้ดีมากๆ และเธอก็ปลื้มใจมากสุดๆ เช่นกัน เซอร์วิสแฟนคลับกันต่อในช่วง Jessica’s Picnic เจ้าหญิงน้ำแข็งของทุกคนใส่ชุดสีชมพูสุดฟรุ้งฟริ้งออกมานั่งทำแซนวิชสตรอว์เบอร์รี่ด้วยตัวเองเพื่อมอบให้กับแฟนคลับผู้โชคดี 2 คนได้อิ่มอร่อยกับเมนูสุดพิเศษที่เชฟสิก้าอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบและความรักแบบเต็มชิ้น ของขวัญที่เจสสิก้านำมามอบให้กับ Golden Stars ชาวไทยยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในช่วง Jessica’s Present เจ้าตัวจับฉลากแฟนคลับผู้โชคดี 3 คนขึ้นมาเพื่อมอบของขวัญพิเศษ 3 อย่าง ได้แก่ ถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับเจสสิก้า, อัดเสียง Morning Call และทำแก้วน้ำ D.I.Y. ที่มีลายเดียวในโลก เรียกว่าคนที่ได้รับของขวัญจากสิก้าก็ฟินกลับบ้านกันไป

เข้าสู่ช่วงท้ายของงานเจ้าหญิงน้ำแข็งนำเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง Call Me Before You Sleep มาร้องให้ทุกคนได้ฟัง ก่อนจะลากันไป เจสสิก้าขอบอกความในใจกับแฟนๆ ทุกคนว่า “เวลาของงานแฟนมีตติ้งในวันนี้ผ่านไปเร็วมากๆ เลยค่ะ ไม่ได้มาเจอกับแฟนคลับชาวไทยนานมาก แต่มาเมืองไทยทุกครั้งก็จะได้พลังงานที่ดีกลับไปตลอดเลย ขอบคุณสำหรับความรักและกำลังใจที่ทุกคนมีให้นะคะ สิ่งดีๆ และความสุขที่พวกเราสร้างร่วมกันในวันนี้จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป สัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกอย่างแน่นอนค่ะ” จากนั้นเจสสิก้าก็ขอถ่ายภาพร่วมกับแฟนคลับทั้งฮอลล์ โดยในจังหวะนี้ Golden Stars ชาวไทยแอบทำเซอร์ไพรส์สาวสิก้าด้วย VCR และชูป้ายโปรเจ็กต์ข้อความว่า “SHINING FOR U” ในเพลง Starry Night พร้อมเปิดแสงไฟจากโทรศัพท์ส่องสว่างทั่วทั้งฮอลล์จนเจสสิก้าออกปากชมว่าเป็นแฟนโปรเจ็กต์ที่สวยงามมากๆ

ปิดท้ายความฟินแบบจัดหนักอีกครั้งในเพลง Fly ที่เจสสิก้าขอเดินลงไปรอบๆ ฮอลล์เพื่อให้ Golden Stars ทุกคนเห็นเธอแบบชัดๆ พร้อมกับหยอดหวานก่อนกลับอีกว่า “Thank You so much Golden Stars Thai. I love you. บอกเลยว่าแม่เล่นหวานตั้งแต่ต้นจนจบงานแฟนมีตติ้งขนาดนี้ กลับบ้านไปเห็นทีว่า Golden Stars ชาวไทยจะต้องไปเช็คระดับน้ำตาลในเลือดซะหน่อยแล้ว

The post Jessica Jung แฟนมีตติ้ง อบอุ่น เต็มอิ่ม แฮ็ปปี้สมการรอคอย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คีอานู รีฟส์ เปิดตัวแฟนใหม่ หลังครองตัวโสดมานาน อเล็กซานดรา แกรนท์ รักครั้งใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจป๋าให้ชุ่มชื่นอีกครั้ง

เป็นนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังระดับโลกที่ไม่เคยมีข่าวเสียใดๆ นับตั้งแต่อยู่วงการบันเทิง และยังเป็นนักแสดงที่ทำความดี ทำประโยชน์เพื่อสังคมมาโดยตลอดสำหรับ คีอานู รีฟส์ หลายคนอาจจะทราบกันแล้วว่า ผู้ชายแสนดีคนนี้ช่วงชีวิตของเขาตั้งแต่วัยเด็ก จนกระทั่งวัยหนุ่มเคยเจอเรื่องราวที่ทำให้เจ็บปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่แตกร้าว เพราะพ่อแม่หย่าร้างกัน อันเนื่องมาจากพ่อของเขาติดยา การสูญเสียความฝันที่จะเป็นนักกีฬาไอซ์ฮ็อกกี เพราะอาการบาดเจ็บทางร่างกาย หรือการเสียเพื่อนรักในวงการบันเทิงอย่าง รีเวอร์ ฟีนิกซ์ ที่เสียชีวิตเนื่องจากเสพยาเสพติดเกินขนาด

และการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ทำให้ชีวิตเขาชีวิตของเหมือนสูญสิ้นคือ เสียลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนด และภรรยาอันเป็นที่รักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมถึงน้องสาวเพียงคนเดียวก็มาล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือด

อย่างไรก็ตามถึงชีวิตด้านครอบครัวของเขาจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่สำหรับเรื่องงานในวงการบันเทิงกลับรุ่งโรจน์มาก ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสมถะ อยู่แฟลตเล็กๆ ใช้เงินไปกับการช่วยเหลือคนที่ทุกข์ร้อน เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ

ทั้งนี้หลายคนคงคิดว่าป๋ารีฟส์คงจะครองตัวเป็นโสด เพราะนับตั้งแต่  เจนนิเฟอร์ ไซม์ ภรรยาของเขาจากไป เราก็ไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องความรักจากเขาอีกเลย มีเพียงข่าวลือที่ว่า คีอานูจะแต่งงานกับนักแสดงสาวข้ามเพศ Jamie Clayton ซึ่งสุดท้ายก็ไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด

จนเมื่อไม่นานมานี้มีกระแสข่าวว่า คีอานูกำลังคบหาดูใจกับหญิงสาวรายหนึ่ง แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ ออกมาให้ทราบนัก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาคีอานู รีฟส์ ได้ควง อเล็กซานดรา แกรนท์ เปิดตัวต่อหน้าสาธารณะชนครั้งแรกในงาน LACMA Art + Film ที่จัดขึ้น ณ LACMA ลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอเนียร์

เรียกได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่จับมือกันตลอดเวลามีความสวีทหวานสุดๆ อย่างที่รู้กันว่า คีอานูเป็นสุภาพบุรษมาก โดยทุกครั้งที่แฟนคลับหรือนักแสดงหญิงยืนถ่ายรูปด้วย พ่อเทพบุตรคนนี้จะไม่โอบกอด ไม่แตะตัวสาวๆ โดยตรง แต่จะสัมผัสที่เสื้อผ้าเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นเขาจับมือกับหญิงสาวอย่างจริงจัง แต่ถึงแม้ว่าคีอานูจะยังไม่ได้ออกมายืนยันความสัมพันธ์กับอเล็กซานดราโดยตรง แต่ภาพในงานเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเขาและเธอกำลังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ทั้งนี้สื่อออนไลน์อย่าง bustle ได้ออกมาเผยว่า งานกาล่า LACMA ไม่ใช่ครั้งแรกที่คีอานูและอเล็กซานดราควงกันออกงาน แต่ก่อนนี้ทั้งคู่ได้ไปมาไหนกันโดยตลอด ซึ่งมีคนพบเห็นว่าทั้งคู่กำลังทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารอิตาเลียนซานตาโมนิก้าจอร์โจ่บัลดิในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา

สำหรับ อเล็กซานดรา แกรนท์ วัย 46ปี เธอทำงานเป็นนักศิลปะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากความเป็นเพื่อน และทำงานร่วมกันมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ทั้งคู่เคยร่วมงานกัน โดยตอนนั้นคีอานูทำหนังสือที่ชื่อว่า Ode To Happiness และในปี 2559 เขาได้เขียนหนังสืออีกเล่มคือ Shadows ซึ่งอเล็กซานดรา เป็นผู้วาดภาพประกอบในหนังสือเล่มนี้ให้ แต่ไม่ใช่แค่โครงการทำหนังสือร่วมกันเท่านั้น

ในปี 2560 ทั้งคู่ก่อตั้งสำนักพิมพ์ชื่อว่า X Artists ‘Books ด้วยกัน โดยมีเป้าหมายที่จะจัดพิมพ์ “หนังสือคุณภาพดี มีคุณภาพสูง และเน้นหนังสือเกี่ยวกับศิลปินเป็นหลัก นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อสองปีก่อน ดูเหมือนว่าสำนักพิมพ์ของพวกเขาจะวางขายหนังสือเพียงแค่ไม่กี่เล่มซึ่งในนั้นคือ  The Artist’s Prison เขียนโดยอเล็กซานดรา แกรนท์เองด้วย

นอกจากนี้นักศิลปะสาวคนนี้ยังมีผลงานเป็นของตัวที่เธอมักอัพลงอินสตาแกรม alexandragrantstudio และบนเว็บไซต์ www.alexandragrant.com อีกทั้งในปี 2008 อเล็กซานดราได้ก่อตั้งโครงการ GrantLOVE ซึ่งเป็นโครงการที่เธอใช้หาเงินเพื่อประโยชน์ของศิลปินและงานศิลปะ โดยเธอขายสติ๊กเกอร์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ภาพพิมพ์และสินค้าอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือองค์กรการกุศลรอบ ๆ เขตลอสแองเจลิส

และในปี 2558 เธอได้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Taking Lena Home ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อส่งคืนหินวางหน้าหลุมฝังศพที่ถูกขโมยไปยังเขตชนบทในรัฐเนบราสก้า

หลังจากที่มีภาพคีอานู รีฟส์ และอเล็กซานดรา แกรนท์ ในงาน LACMA Art + Film เผยให้เห็นออกมา แฟนๆ ของคีอานู รีฟส์ต่างแสดงความคิดอย่างมากมาย ซึ่งคอมเม้นต์เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พวกเขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นคีอานู ออกเดทกับคนที่เหมาะสม จากชายคนที่เคยถูกเรียกว่า “Sad Keanu” แต่ตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับความโรแมนติกเล็กๆ ในชีวิตของเขา

ข้อมูล : www.bustle.com

ภาพ : Getty Image

The post จับมือกันแน่น Alexandra Grant รักใหม่ คีอานู รีฟส์ เติมเต็มใจป๋าให้ชุ่มชื่นอีกครั้ง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เคยเป็นไหมที่เวลาแนะนำซีรีส์เกาหลีให้เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ แต่เขาเหล่านั้นปฏิเสธเพราะนางเอกไม่สวย วันนี้ แพรวดอทคอม รวบรวมเรื่องราวของ 5 นางเอกเกาหลี ที่มีความสามารถมากๆ แถมผลงานแต่ละเรื่องของพวกเธอสนุกทั้งนั้น เอาเป็นว่าอย่ารอช้า มีใครบ้างนั้นไปติดตามกันเลยค่ะ

“กงฮโยจิน” (Gong Hyo Jin)

“เจ๊กง” หรือ “กงฮโยจิน” นางเอกเกาหลี ดาราเบอร์ใหญ่ของวงการ เธอเป็นนักแสดงที่เหล่าสาวๆ ภาคพื้นเอเชียมอบฉายาให้ว่า “นางเอกแต้มบุญสูง” เนื่องจากในแต่ละเรื่องเธอได้ประกบคู่กับพระเอกฮ็อตขวัญใจสาวๆ ไม่ว่าจะเป็น เรน, กงยู, โซจีซบ, โจอินซอง, คิมซูฮยอน ฯลฯ แต่อย่าคิดไปว่าได้แรงดันจากพระเอกเหล่านี้นะจ๊ะ เพราะหลายคนแจ้งเกิดหลังจากเธออีก โดย “กงฮโยจิน” ยังขึ้นชื่อเรืองนางเอกเรตติ้งสูง มากกว่า 6 เรื่องมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ดูเหมือนว่าการเลือกบทที่เหมาะสมให้กับตัวเอง การพรีเซ็นต์งานแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และไม่ห่วงสวยจนเกินไป ทำให้ผู้ชมตกหลุมรักเธอได้ไม่ยากเลย

“แบดูนา” (Bae Doo Na)

ต่อกันที่นางเอกสายภาพยนตร์ “แบดูนา” ดาราหญิงที่มีฝีมือการแสดงฉกาจของเกาหลีใต้ เธอมีสายเลือดนักแสดงอย่างเต็มเปี่ยม เพราะเป็นลูกสาวของ “คิมฮวายอง” แต่นั่น! อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด หากเธอขาดพรแสวง โดยเส้นทางนักแสดงมืออาชีพของเธอ เริ่มต้นในปี 1999 จากการสวมบทเล็กๆ ในเรื่อง School หลังจากนั้นจึงได้หนังสยองขวัญชื่อดังอย่าง “The Ring Virus” ต่อมา “แบดูนา” ได้เล่นหนังเรื่อง “Barking Dogs Never Bite” ของผู้กำกับมือรางวัลอย่าง “บองจุนโฮ” ( Parasite คว้ารางวัลจาก Cannes Film Festival) ซึ่งอาจจะยังไม่มีใครทราบมาก่อนว่า ในวันที่เธอไปแคสติ้งบทนี้ เธอไม่ได้แต่งหน้าไปเลย และนั่นหมายความว่าเธอใช้การแสดงมัดใจผู้กำกับและทีมงานล้วนๆ อย่างไรก็ตาม “แบดูนา” ไม่ได้หยุดความฝันของเธอไว้ที่เกาหลี เพราะปัจจุบันเธอได้เข้าแคสติ้งบทต่างๆ ในฮอลลีวู้ด และนางเอกสาวคนนี้ยังเคยได้ขึ้นปกนิตยสารดังของสหรัฐอเมริกาประกบคู่กับ “สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน” และ “ดีพิกา พาดูโคน” มาแล้วด้วย

“คิมโกอึน” (Kim Go Eun)

หลังจากที่ TVN ประกาศว่า พระเอกเกาหลี “กงยู” หนุ่มหล่อเจ้าของฉายาลมหายใจภาคพื้นเอเชีย จะรับแสดงในซีรีส์ “Goblin” ก็ทำให้คนสนใจอย่างมาก และแน่นอนสาวๆ หลายคนต่างอยากรู้ว่านางเอกที่จะมาประกบคู่กับพระเอกขวัญใจจะเป็นใคร ซึ่งเมื่อมีการเปิดเผยว่าเป็น “คิมโกอึน” ก็ทำให้แฟนละครมีอาการไม่ปลื้มเบาๆ เนื่องจากเธอไม่แมสในกลุ่มคนดูละคร เธอเคยผ่านบทอีโรติกสุดๆ มาก่อน รวมถึงใบหน้าของเธอที่ดูธรรมดาเกินไป เหตุผลทั้งหมดเป็นเรื่องที่ชาวเน็ตตั้งป้อมกับเธอในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีการออกอากาศ แต่เมื่อเริ่มฉายไปผู้คนก็ตกหลุมรักสาวคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น “คิมโกอึน” ได้แสดงพัฒนาการของตัวละครออกมาได้อย่างละมุน ผู้ชมได้เห็นการพัฒนาของตัวละครตัวนี้จากเด็กสาวไปสู่วัยผู้ใหญ่ 16 ตอนที่ออกอากาศเราเหมือนผูกพันกับเธอไปด้วย นั่นทำให้เธอก้าวขึ้นแท่นนางเอกระดับแนวหน้าของวงการอย่างสง่างาม

“คิมซึลกิ” (Kim Seul Gi)

“คิมซึลกิ” เป็นนักแสดงที่ผู้ชมหลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อของเธอนัก เนื่องจากเธอเป็นนักแสดงสายมิวสิคัล แต่ถ้าเห็นหน้ารับรองว่าต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน เพราะดาราสาวคนนี้มักโผล่มาสร้างสีสันสำคัญให้กับละครดังหลายเรื่อง ได้แก่ “Reply 1994”, “Heartstrings”, “Oh My Ghost…รักนี้ผีขอป่วน”, “The Idle Mermaid” ฯลฯ และกลายเป็นนางเอกเต็มตัวในเรื่อง “Splash Splash Love” ซึ่งไม่ว่าในละครเธอจะกระเซอะกระเซิงอย่างไร แต่ก็ยังดึงดูดให้ผู้ชมดูผลงานของเธออย่างไม่วางตา

“คิมฮเยยุน” (Kim Hye Yoon)

ปิดท้ายที่ “คิมฮเยยุน” หรือ “อึนดันโอ” จากซีรีส์ “Extraordinary You” นางเอกผู้ได้ประกบคู่กับ 5 หนุ่มหล่อ ส่วนสูง 180 เซนติเมตร เป็นที่อิจฉาตาร้อนของสาวๆ สุดๆ จึงไม่พ้นถูกครหาความสวยจากบรรดาชาวเน็ต คนไม่เข้าใจก็เยอะ คนเข้าใจก็มี หลายคนยืนยันว่าเหมาะสมแล้ว เนื่องจาก “อึนดันโอ” ในเรื่องเป็นเพียงนักแสดงเอ็กซ์ตร้า (เรื่องนี้นักแสดงเอ็กซ์ตร้าเป็นนางเอก) จะให้สวยกว่านางเอกตัวจริงในเรื่องก็คงไม่เหมาะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไปดูรูปนอกจอสาวคนนี้ก็นับว่าสวยไม่เบาเลยทีเดียว “Extraordinary You” เป็นละครแนวโรแมนติก อาจจะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงของเธอสักเท่าไหร่ แต่ถ้าย้อนไปดูผลงานเก่าอย่าง “Sky Castle” ซีรีส์ครอบครัวที่ตีแผ่เรื่องระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ ก็นับว่าเธอสมเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจริงๆ

เป็นอย่างไรบ้างกับความสามารถของนางเอกสาวทั้ง 5 คน ใครชอบคนไหนเป็นพิเศษเพราะอะไร อย่าลืมคอมเม้นต์บอกกันบ้างนะคะ

The post นี่แหละคนมีเสน่ห์ 5 นางเอกเกาหลี หน้าตาเป็นรอง แต่ความสามารถเกินร้อย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเลือดนักสู้ แวร์ โซว ยิ้มออก หลังใช้หนี้หมด 13 ล้านบาท น้องคนดี ลูกสาวเป็นกำลังใจ ตอนนี้ถึงไม่มีบ้าน-รถ แต่ก็มีความสุข

นับได้ว่าเป็นคุณแม่ที่สู้สุดใจจริงๆ เพราะไม่ว่าต้องเผชิญปัญหาเล็กหรือใหญ่ แวร์ โซว ก็พยายามที่จะผ่านมันไปให้ได้แม้ตัวคนเดียว โดยก่อนหน้านี้เธอมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่มีมากกว่า 13 ล้านบาท และยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่นักแสดงสาวก็ไม่ท้อ ได้กำลังใจจากลูกสาว น้องคนดี เธอจึงเดินหน้าขายของปลดหนี้ทุกทางแบบไม่อายว่าเธอจะเป็นคนดัง ล่าสุดในงานบวงสรวงละคร เสน่หาสตอรี่ Season 2 ของบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เธอได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ได้ปลดหนี้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าเธอจะต้องหมดตัวแต่ก็ไม่เสียใจ เพราะไม่มีหนี้สิน ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับลูกสาว ภายในอพาร์ตเม้นท์เล็กๆ เพียงสองคนแม่ลูก ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แต่ก็เป็นชีวิตที่มีความสุขกว่าเดิมมาก

ปัญหาเรื่องหนี้สินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“ตอนนี้ขายคอนโดได้ เลยหมดหนี้หมดสิน ชีวิตเหมือนเริ่มต้นใหม่ที่ศูนย์ แต่สบายใจขึ้น ไม่อย่างนั้นมันกังวลเรื่องดอกเบี้ย เพราะเราต้องหามาจ่ายเขาทุกเดือนๆ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ งานเราก็ไม่ได้เยอะด้วย เราชักหน้าไม่ถึงหลังอะไรก็แล้วแต่ พวกนี้ก็เครียดอยู่ แต่พอเราไม่มีหนี้ไม่มีสินแล้ว ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะมากเลย และถามว่าไม่มีอะไรเหลือแล้วเสียใจไหม กังวลใจไหม ทุกข์ใจอะไรไหม ตอบเลยว่าไม่เลย การไม่มีหนี้สิน การไม่มีภาระผูกพันอะไรกับชีวิตเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเลย”

ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?

“ไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะแวร์เป็นคนประหยัดมัธยัสถ์กระเบียดกระเสียนอยู่แล้ว คือถ้าเราไม่ค่อยมีงาน เรามีหนี้สินเยอะแยะ แล้วเรายังไปใช้เงินฟุ่มเฟือยสิ อันนั้นมันจะยิ่งน่ากังวลใจ แต่ถ้าคนที่รู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าไลฟ์สไตล์เราง่ายมาก กินข้าวแกง 30-50 บาทก็แฮปปี้แล้ว แต่ถ้า 70-80 บาท ก็แพงแล้วนะ”

แล้วเรื่องที่เราเป็นโรคซึมเศร้า?

“คือจริงๆ แล้วคนหลายๆ คนคิดว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเพราะว่าปัญหาเรื่องเงิน แต่บอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องเงิน เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย มันเป็นเรื่องที่เราถูกเอาเปรียบ พอเราถูกเอาเปรียบมากๆ มันจะทำให้เรารู้สึกดดัน และคนที่เอาเปรียบเราเขาก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือว่าออกมาทำอะไรในสิ่งที่คุณเอาเปรียบเราไป อย่างแวร์ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถแล้วมันใช้งานไม่ได้ ถามว่าเราเองก็ไม่เคยติดค้างชำระ แล้วมันเป็นปัญหาของเรามั้ยที่จะต้องมานั่งรับผิดชอบ แบกจ่ายภาระหนี้สินดอกเบี้ยอยู่คนเดียว และคนที่มีส่วนร่วมกับปัญหานั้นเขาหายไปไหน เมื่อเราหาใครมาช่วยในส่วนนี้ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เกิดจากเราไง มันเกิดจากหลายๆ อย่าง แล้วเราต้องมารับผิดชอบอยู่คนเดียวก็เลยเหนื่อย แต่เรื่องพวกนี้ก็ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันมีเรื่องของครอบครัว เรื่องของการงาน เรื่องของเพื่อนร่วมงาน เรื่องของสังคม เรื่องของหลายๆ อย่าง และที่สำคัญเราโดนโทรศัพท์โรคจิตบ่อยๆ เราเองก็มีปัญหาเยอะแยะมากมาย แล้วยังมาเจอคนพูดจาไม่ดีอีก จนทุกวันนี้ใครมาโทรแวร์ก็ต้องเสียงแข็งไว้ก่อน เพราะมันเสียจริตหมดเลย จนเราก็ไม่ไหวแล้ว”

อาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“หายแล้วค่ะ แต่ถ้าย้อนกลับไป แวร์เป็นโรคซึมเศร้าโดยที่ไม่รู้ตัวมาประมาณ 5-6 ปีก่อนนั้นนะคะ และรักษามาประมาณ 3 ปี รวมทั้งหมดก็ประมาณ 8-9 ปีนะคะ แล้วตอนนี้คุณหมอบอกว่าทุกอย่างดีแล้ว แต่ยังไม่ให้หยุดกินยา เนื่องจากเรายังต้องเจอผู้คน เรายังต้องทำงาน เจออะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามากระทบเราได้ง่าย คุณหมอก็ขอดูอาการไปเรื่อยๆ ก็ไปพบคุณหมอ 2 เดือนครั้ง”

ลูกสาวให้กำลังใจคุณแม่อย่างไร?

(น้องคนดีตอบ) “ตอนที่คุณแม่ป่วยหนูก็ได้เห็นค่ะ เพราะหนูอยู่กับแม่สองคน เราก็ต้องคุยกันให้มันเยอะและทำความเข้าใจกันมากๆ ค่ะ ฉะนั้นการที่เราเปิดใจคุยกันและรับรู้ปัญหาของกันและกัน ทำให้หนูสามารถเข้าใจปัญหาและเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ได้มากขึ้น และคุณแม่ก็เข้าใจปัญหาและความรู้สึกของหนูได้มากขึ้นเหมือนกัน ฉะนั้นก็เลยจูนกันติดง่ายและค่อนข้างที่จะให้กำลังใจกันได้ง่ายค่ะ”

(แวร์ โซวตอบ) “คือครอบครัวแวร์เป็นครอบครัวที่มีอะไรคุยกันหมด ไม่มีปิดบัง เรื่องภาวะการเงินถ้าเราไม่มีเราก็พูดกันตรงๆ จะบอกกันตลอด น้องคนดีเขารู้ว่าช่วงนี้แม่มีงานเยอะ บางช่วงแม่ไม่มีงานเลย ช่วงนี้แม่กำลังอารมณ์สวิง อารมณ์กำลังขึ้น หรือช่วงนี้แม่อารมณ์เย็นลง สงบลง เขาจะรู้หมดทุกอย่าง และเขาก็จะไม่เกิดความสับสน แต่บางครอบครัวผู้ใหญ่มีปัญหาอะไรแล้วไม่บอกเด็กเลย เด็กก็จะงงว่าพ่อแม่ฉันเป็นอะไรเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แล้วตัวผู้ใหญ่เองก็ต้องรับฟังด้วย เพราะเขากำลังเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่เองก็ต้องรับฟังว่าวัยรุ่นเขาก็ต้องมีอารมณ์สวิงของเขาเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นการเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกันมันก็จะลดอาการของโรคซึมเศร้า หรือว่าปัญหาทางความคิดหรือความเครียดได้ เด็กวัยรุ่นเป็นโรคซึมเศร้าเยอะมาก เนื่องจากว่าไม่มีใครฟังใครในครอบครัว ก็อยากจะฝากหลายๆ คนด้วยนะคะ ยังไงความรักที่จริงใจ ความบริสุทธิ์ใจและเข้าใจกันจริงๆ ดูแลซึ่งกันและกันในครอบครัว มันไม่ใช่แค่มีที่นอน กินอิ่ม นอนหลับ มีเงินใช้เท่านั้นคือความสุข ไม่ใช่ แต่ข้างในใจ ความห่วงใย ความเข้าใจกันมากกว่า”

หลังจากนี้จะสร้างเนื้อสร้างตัวหารายได้อย่างไรบ้าง?

“ก็ฝากด้วยนะคะ ตอนนี้แวร์กับน้องคนดีพร้อมทำงานแล้วนะคะ เราเองตอนี้ก็อายุมากแล้ว เดี๋ยวเราก็จะแก่ชราแล้ว ก็คงต้องเก็บเงินไปอยู่บ้านพักคนชรา คงจะไม่รบกวนให้น้องคนดีเขามาเลี้ยงดูอะไรแวร์ ก็ต้องเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่เฒ่าด้วย และทำงานได้แล้ว เข้ากับสังคม เข้ากับคนหมู่มากได้แล้ว ไม่มีอาการขึ้นๆ ลงๆ อะไรแล้ว ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ (ยิ้ม)”

The post แวร์ โซว หมดตัว! ปลดหนี้ 13 ล้าน น้องคนดี เป็นกำลังใจไม่มีบ้าน-รถ แต่มีความสุข appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

งามสง่าตราตรึง “คิมเบอร์ลี่” ควงคู่หนุ่ม “โป๊ป” แปลงโฉมในลุค‘เทพีแห่งดวงจันทร์ – เทพแห่งพระอาทิตย์’ ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี “Central Anniversary 2019”

สวยงามตราตรึงราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซี เมื่อนางเอกสุดฮ็อต คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ แปลงโฉมเป็น ‘เทพีแห่งดวงจันทร์’ ควงคู่พระเอกหนุ่ม โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ หล่อเท่ในลุค ‘เทพแห่งพระอาทิตย์’ ปรากฏกายท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้สดหลากสีสัน บานสะพรั่งนับล้านดอก เต็มพื้นที่ทั่วห้างเซ็นทรัลชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ในงาน “Central Anniversary 2019” (เซ็นทรัล แอนนิเวอร์ซารี 2019) ภายใต้คอนเซ็ปต์ พันธุ์ไม้สีเหลืองหายากที่ตราตรึง และเหล่าดอกไม้บานสะพรั่งนอกฤดูกาล เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี ห้างเซ็นทรัล ณ ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม

ทำเอาทุกคนในงานเคลิ้มตามกันราวกับต้องมนต์สะกด กับการแสดงชุด “The Floral Astrology” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของมวลหมู่พฤกษาแห่งจักรราศี ที่งานนี้ “หนุ่มโป๊ป” ปรากฏกายมาในลุค ‘เทพแห่งพระอาทิตย์’ สุดหล่อ ชวนให้เหล่าจักรราศีและดวงดาราหลงใหล ส่วนนางเอกสาวสุดฮ็อตแปลงโฉมมาในชุดเดรสสีขาวของ Poem สวยดุจ เทพีแห่งดวงจันทร์ พร้อมร่ายมนต์ให้ชุดราตรีกลายเป็นหมู่มวลดอกไม้ สวยเด่นเป็นสง่า ก่อนที่ “หนุ่มโป๊ป” จะเซอร์ไพร้สด้วยช่อดอกทิวลิปสีเหลืองนอกฤดูกาลที่หาชมได้ยาก ท่ามกลาง “บันไดแห่งสรวงสวรรค์” ที่ตกแต่งด้วยดอกทิวลิปเหลืองหาชมยากกว่าหมื่นดอก พร้อมด้วยดอกแดฟโฟดิลสีเหลืองสลับสีขาว ดึงดูดทุกสายตา ที่หรูหราด้วยแชนเดอร์เลียร์จากเส้นไหมสีเหลืองสว่างไสวสุดประณีตความยาวกว่า 1 แสนเมตรเป็นไฮไลต์ของงาน สร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้แก่แฟนคลับและผู้ชมภายในงานเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดทัพศิลปินนักร้องคุณภาพชื่อดัง สลับกันมาขับกล่อมเสียงเพลง และร่วมมีตแอนด์กรี๊ดอย่างใกล้ชิด อาทิ บิว จรูญวิทย์, ไอซ์ ธมลวรรณ, นนท์ ธนนท์, ว่าน วันวาน, แตงโม ดีว่าเมคโอเว่อร์, ฟิล์ม บงกช, ซิลวี่ ภาวิดา, เต๋า เศรษฐพงศ์, จ๊อบ พงศกร, นุ ชีสแบนด์, โฟล์ค- ธรรศ และปลั๊กกี้ ธรากร, เอิร์ต ภัทรวี โดยงาน “Central Anniversary 2019” (เซ็นทรัล แอนนิเวอร์ซารี 2019) จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562

ร่วมดื่มด่ำสุนทรียะแห่งความงามของดอกไม้หลากหลายสีสันนานาพันธุ์ บานสะพรั่งนับล้านดอก ในงาน “Central Anniversary 2019” (เซ็นทรัล แอนนิเวอร์ซารี 2019 ) ตั้งแต่วันนี้ –12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. – 22.00 น. ณ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

The post อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอม คิมเบอร์ลี่ สวยดั่งเทพีแห่งดวงจันทร์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

การกลับมาของพายุแห่งความสุข Arashi บอยแบนด์แห่งชาติญี่ปุ่น ที่ครองใจแฟนๆ มากว่า 20 ปี เยือนไทยอีกครั้งในรอบ ในรอบ 13 ปี

บอยแบนด์แห่งชาติญี่ปุ่น ที่ครองใจแฟนๆ มากว่า 20 ปี อย่าง 5 หนุ่ม อาราชิ (แปลว่า พายุ) ประกอบไปด้วย โอโนะ ซาโตชิ (Ono Satoshi), ไอบะ มาซากิ (Aiba Masaki), ซากุราอิ โช (Sakurai Sho), นิโนะมิยะ คาซึนาริ (Ninomiya Kazunari) และ มัตซึโมโต้ จุน (Matsumoto Jun) ได้แถลงข่าวผ่าน YouTube Channel ถึงการเปิดช่องทางออนไลน์ เพื่อใช้ในการสื่อสารกับแฟนคลับ ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Weibo, TikTok, Twitter และ Facebook ซึ่งนี่ ถือเป็นช่องทางใหม่ ที่พวกเขาจะสามารถติดต่อสื่อสารกับแฟนๆ ที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดย มัตสึโมโต้ จุน ได้กล่าวว่า “เราเปิดช่องทางสื่อสารทางออนไลน์ขึ้น เพื่อให้แฟนๆ ได้สนุกสนานแบบ “เรียลไทม์” และแฟนๆ จะได้ทราบว่า ขณะนี้ พวกเรากำลังทำอะไร”

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน พวกเขายังมอบเซอร์ไพร้สให้กับแฟนๆ ด้วยการปล่อยดิจิทัลซิงเกิ้ลของวงทั้งหมด 65 ซิงเกิ้ล รวมถึงซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง “Turning Up” พร้อมดาวน์โหลดทั่วโลก ในเวลา 19:00 และเวลา 20.30 ARASHI ได้ปรากฎตัวอีกครั้ง ร่วมพูดคุยกับแฟนคลับก่อนที่จะร่วมชม MV “Turning Up” ในเวลา 21:00 (เวลาญี่ปุ่น) มัตสิโมโต้ จุน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราอยากให้เพลงของเราอยู่กับแฟนๆ แม้ว่า ARASHI จะพักกิจกรรม แฟนๆ จะได้หายคิดถึงพวกเราครับ” นอกจากนี้ยังเสริมอีกว่า “พวกเรามีความสุขอย่างยิ่งที่จะได้ส่งต่อความบันเทิงของพวกเราให้โลกได้เห็น ซึ่งเป็นความปรารถนาของคุณจอห์นนี่มายาวนาน นี่คือสิ่งที่พวกเราสามารถทำให้บริษัทจอห์นนี่ เพื่อตอบแทน และหวังว่าความท้าทายนี้ จะเป็นแนวทางให้กับพี่น้องในค่ายของพวกเรา พวกเรารู้สึกสนุกมากครับ”

ARASHI ยังประกาศเพิ่มเติมอีกว่า ในการแสดง 5×20 Anniversary Tour รอบสุดท้ายในวันที่ 25 ธันวาคม 2019 พวกเขาจะทำการถ่ายทอดสด Live Viewing ในโรงภาพยนตร์ มากกว่า 500 โรง ทั่วประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ ยังประกาศคอนเสิร์ตใหม่ ประเดิมสนาม Olympic (ที่ได้ปรับปรุงใหม่) ในเดือนพฤษภาคม 2020 และ คอนเสิร์ต Beijing Show 2020 ในฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย ซึ่ง นิโนะมิยะ คาซึนาริ ได้เสริมว่า “พวกเราอยากให้แฟนๆ ได้ชมการแสดงในคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายแบบเรียลไทม์ ได้มากที่สุดครับ”

บิ๊กเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งข่าว ที่แฟนๆ ต่างกรี๊ดกันทั่วโลก คือโปรเจ็กต์ JET STORM โดย ARASHI จะบินไปพบปะแฟนๆ และแถลงข่าวด้วยตัวเองถึง 4 เมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น จาการ์ตา, สิงคโปร์, ไทเป รวมถึงกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งการมาเยือนของพวกเขาถือเป็นการกลับมาในรอบ 13 ปี  (ในปี 2549 พวกเขาได้เดินทางมาแถลงข่าวจัดคอนเสิร์ตในเมืองไทยแต่เพราะปัญหาทางการเมืองทำให้ต้องเลื่อนการแสดงออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนถึงปัจจุบันนี้) ซึ่งแฟนๆ ชาวไทย เกาะติดความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมทาง Facebook.com/avalonlive และ Twitter @OfficialAvalon เร็วๆ นี้ #ArashiJETSTORMinBKK #ARASHI

The post การกลับมาของพายุแห่งความสุข อาราชิ เยือนไทย สิ้นสุดการรอคอยในรอบ 13 ปี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ถือเป็นตัวของ แร็ปเปอร์ตัวพ่อ ที่ใครๆ ก็รู้จัก สำหรับ โจอี้ บอย ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเจ้าตัวขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้ แต่ตอนนี้ โจอี้ บอย เปลี่ยนมาเป็นสายเฮลท์ตี้แล้ว ถึงขั้นปั่นน้ำผักกินเองทุกเช้าเลยทีเดียว ล่าสุด โจอี้ บอย มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ show ทางช่อง one31 พร้อมเผยเหตุร้องเพลงไม่รับค่าตัว

ตอนนี้ยังคอนเสิร์ตทุกคืนไหม?
โจอี้ บอย: ก็เกือบทุกคืนนะ กลางวันนอนบ้างไปถ่ายรายการอะไรบ้าง ร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ตมา 20 กว่าปี

ใน 20 กว่าปีมีจุดที่เบื่อวงการบ้างไหม?
โจอี้ บอย: ไม่เบื่อหรอก ทำไปเรื่อยๆ เราเล่นอะไรซ้ำๆ 20 กว่าปีนี่มันเกินครึ่งชีวิตไปแล้ว มันก็ต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ให้มันสนุก เล่นคอนเสิร์ตงานเราไม่มีวันหยุด รับแล้วก็ต้องไป เคยหยุดยาวที่สุดเต็มที่ก็เดือนนึง ถ้างานเยอะมากๆ เป็นช่วงเทศกาลก็มี 4 งาน ติดกัน 5 วัน

แล้วเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?
โจอี้ บอย: ที่แม่ครับ ปัจจุบันก็ขอเงินแม่ พี่ไม่มีอะไรต้องซื้อ พี่ไม่ค่อยช้อปปิ้ง

ตอนที่ช่วงเทปผี ซีดีเถื่อนระบาด ตอนนั้นเฟลไหม?
โจอี้ บอย: ในด้านธุรกิจ มันเกี่ยวกับเราจุดหนึ่งเหมือนกัน แต่หนักจริงๆ คงจะเป็นเรื่องของค่ายใหญ่ที่เขาลงทุน จริงๆ เราเป็นส่วนเล็กมากๆ ที่ได้รับผลกระทบ แต่ว่าในความรับผลกระทบจริงๆ คือจิตใจมากกว่า

เคยคิดลาวงการไหม?
โจอี้ บอย: ไม่เคย การสนุกสนานของผมคือการออกมาเล่นคอนเสิร์ต รับพลังงานแลกพลังงาน แลกกันไปมากับคนดูมากกว่า

เป็นนักกีฬาอาชีพ?
โจอี้ บอย: อันนั้นเป็นความฝัน อยากจะทำ แต่ถ้าเป็นอาชีพเป็นไม่ได้ เป็นได้บางอย่างในเมืองไทย ในชีวิตเราอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ

แต่ก็ได้เป็นทีมชาติพารามอเตอร์?
โจอี้ บอย: ใช่ครับ ตอนนั้นลาออกจากแกรมมี่ ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ด้วยความที่ถึงจุดอยากเป็นนักกีฬา ผมก็ไปหากีฬาที่อายุผมตอนนั้น 30กว่า เล่นอะไรที่เราจะเอาตัวเองไปให้สุดให้ได้ ก็ไปเจอพารามอเตอร์ แล้วเริ่มฝึกกับมัน เล่นกับมันอยู่ 3 ปี ได้แชมป์ประเทศไทย แล้วปีที่4 ติดทีมชาติ ไปแข่งได้เหรียญทอง

กีฬาแบบนี้ได้ตังไหม?
โจอี้ บอย: มันเสียตังครับ เอาเป็นว่าการโปรโมทยังไม่มากพอที่สปอนเซอร์จะเข้ามาช่วยได้มาก

แสดงว่าคนอย่างโจอี้บอย ถ้าอยากจะทำอะไรก็ต้องเอาให้สุด?
โจอี้ บอย: ก็ตั้งใจที่สุด

ตีกอล์ฟจนซี่โครงหักเหรอ?
โจอี้ บอย: อันนี้ตลก หมอก็บอกว่าเกิดมายังไม่เคยเจอ ผมว่ามันเกิดจากที่ผมหัดตี คือตอนที่ผมยิงธนู ผมก็ยิงจนแขนเขียวไปหมด ตีกอล์ฟก็เหมือนกัน อยากจะเก่งเร็ว ก็ตีไปเรื่อยๆ ตีผิด ไม้กอล์ฟก็หวดกับพื้น มันสะเทือนไปเรื่อยๆ จนมันก็เจ็บ ก็คิดว่ากล้ามเนื้อ ก็ไปออกรอบสนาม จำได้ว่าพอตีแล้วหายหลังไปโรงพยาบาล หมอเอกซเรย์ 3 ซี่แล้ว หักมาเดือนนึง ทนมาได้ยังไง

มีจังหวะช่วงที่เฟลๆ ไม่อยากทำอะไรเลยบ้างไหม?
โจอี้ บอย : มีเบื่อมากกว่า แบบทำอะไรดี ช่วงนี้ไม่มีอะไรทำเลย แต่เฟลเลยไม่มี ผมรู้สึกว่าคนเรามีสิทธิที่จะเฟลได้ คือเริ่มแล้วไม่ใช่ ไม่เก่ง มีอย่างอื่น คือคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อมุ่งไปจุดหมายเดียว เราทำไม่ได้ชีวิตพินาศมาก ไม่ๆ มันมีอีกหลายทางให้เลือกทำ

เคยกลัวตายไหม?
โจอี้ บอย: กลัวตายที่สุด เวลาพี่ทำอะไรพี่ทำอย่างมีสติ และมั่นใจว่าทำได้ พี่เป็นคนแบบหาหมอบ่อยมาก พี่ไม่อยากป่วย พี่ไม่อยากตาย พี่เป็นคนที่ตื่นมาถ้าอะไรผิดปกติจะต้องเช็กก่อน เพื่อไปทำสิ่งที่เรารักให้ได้

มาสายเฮลท์ตี้ได้ยังไง?
โจอี้ บอย: ผมก็ยังปาร์ตี้อยู่ แต่ผมก็ชอบเล่นกีฬา อันดับแรกของเฮลท์ตี้คือ ผมต้องมีสภาพร่างกายที่ผมไปเล่นกีฬาได้ ฉะนั้นผมจะบาลานซ์ปาร์ตี้ คือมันมีจุดหมายที่เล่นกีฬาเป็นอันดับแรกก่อน แต่ก็ยังมีปาร์ตี้อยู่บ่อย มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ ผมก็ปาร์ตี้ เดือนนึง 3-4 ครั้ง

ถ้าสมัยก่อนปาร์ตี้ทุกวันเลยไหม?
โจอี้ บอย: ก็ติดกันเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี

ทำยังไงให้คิดได้ว่าเลิกปาร์ตี้?
โจอี้ บอย : มันไม่จำเป็นต้องเลิก ร่างกายจะบอกเราเอง สำหรับผมปาร์ตี้หรือเฮลตี้มันอยู่ที่ความสุข สุดท้ายแล้วเราทำอะไรที่สนุก แล้วมีความสุขกับมัน รับผลที่จะตามมากับมันได้ก็ทำเลย

ทุกเช้าไหมที่ตื่นมาแล้วปั่นผักกิน?
โจอี้ บอย: ใช่ ปั่นเองครับ รู้สึกว่าต้องรักษามันเพราะอยากจะปาร์ตี้ อยากจะเฮลตี้มันก็ต้องทำทุกอย่างให้มันอยู่ให้ได้

พี่ไม่มีสาวปั่นให้หรอ?
โจอี้ บอย: มีเยอะแยะเลย

ตอนนี้มีคนดูแลไหม?
โจอี้ บอย: ไม่มี ตอนนี้โสด ถามว่ามีคุยไหม ก็มี แต่เราไม่มีเวลาไปโฟกัสกับเรื่องการมีคู่ครอง เราอายุขนาดนี้บางทีก็ลืมไปแล้ว

มองอนาคตไว้ไหม ว่าอยากมีครอบครัว อยากมีลูก?
โจอี้ บอย: คือไม่เคยปิด ไม่เคยบอกตัวเองว่าอยากมี หรือไม่อยากมี อะไรเกิดขึ้นมาก็ตามนั้น พี่ชอบเด็ก พี่เล่นกับหลานพี่สนุกมาก แต่เมื่อวันที่ต้องมีมาพี่พร้อม คือรู้อย่างเดียวคือเตรียมตัวเองให้พร้อมมาก

สเปคเป็นแบบไหน?
โจอี้ บอย: ต้องเป็นคนที่ทำให้เราหัวปักหัวปำ คือเราพลาดมาเยอะ เราอายุขนาดนี้ เราผิดหวังกับเรื่องความรักมาเยอะ เราย้อนกลับไปคิดอันดับแรกเลยว่าคนที่จะทำให้เราหัวปัก หัวปำ เหมือนรัก 2-3 ครั้งแรกได้นั่นคือสิ่งที่ต้องการ นิสัย ใจคอเอาไว้ก่อน เอาแพชชั่นเป็นอันดับแรก ผมรู้สึกอย่างนั้น

โสดมานานหรือยัง?
โจอี้ บอย: 1 ปีครับ

ใครทิ้งใคร?
โจอี้ บอย: อ่อ ไม่มีใครทิ้งใครครับ ก็คุยกันปกติ ธรรมดา โตแล้วไม่ทะเลาะ ไม่อะไรกันด้วย

นอกเหนือจากหักอกเขา เคยอกหักไหม?
โจอี้ บอย: อกหักบ่อย อกหักหนักที่สุดคือลืมเขาไปไม่ได้ คือข้ามยุคมาเลยนะ แบบเผลอๆ ยังไปเสิตกูเกิ้ลชื่อเขา แต่ไม่ได้เสียใจนะ แต่คิดถึงต่อเนื่องมา แต่ตอนนี้ไม่คิดถึงแล้ว

เดี๋ยวนี้คุณเล่นคอนเสิร์ตคุณไม่คิดค่าตัวหรอ?
โจอี้ บอย: ไม่ๆ ก็ยังคิดอยู่ จริงๆ ก็ยังเล่นคอนเสิร์ตทั่วไป หากินเป็นอาชีพ แล้วเราแค่รู้สึกว่าเราเห็นคนคนหนึ่งคือพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ สิ่งที่เขาทำมันประทับใจเรา คือเห็นมานานแล้วนะ จนพอมีเหตุการณ์อุทกภัยครั้งที่ผ่านมาก็เลยรู้สึกว่าเราก็เคยไปช่วยน้ำท่วมอยู่ จนถึงจุดหนึ่งสิ่งที่เราถนัดแล้วน่าจะช่วยได้จริงๆ คืออะไร ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราเล่นคอนเสิร์ตหาเงินไปช่วยเขาน่าจะเป็นสิ่งที่เราถนัด เพราะเราเคยไปซื้อเรือยาง ลุย แล้วกลายเป็นผู้ประสบภัยเองด้วยความที่ไม่รู้เรื่อง รู้ราวกับเขา รู้สึกว่าไปเกะกะเขา ทำในสิ่งที่เราถนันแล้วช่วยเขาได้ ก็เลยตัดสินใจบอกเขาว่า เดี๋ยวเดือนนี้ทั้งเดือนถ้าเล่นคอนเสิร์ตจะเอาเงินไปช่วยเขาให้หมด แต่พอคิดไปแบบนั้นปุ๊บไปเล่นคอนเสิร์ตไปช่วยเขา คนที่แบกความรับผิดชอบก็น่าจะเป็นเจ้าของผับ ทัวร์ทั่วประเทศไปเลย ไปเปิดหมวกให้คนที่อยากมาทำบุญร่วมกับเรามีโอกาสทำ ก็เอาเงินทั้งหมดส่งต่อให้พี่บิณฑ์ ตอนนี้ไปมา 15 จังหวัดแล้วครับ เดี๋ยวกำลังจะเริ่มเฟดที่ 2

เฟด1 ที่ผ่านมารวบรวมเงินได้เท่าไหร่?
โจอี้ บอย: 2 ล้านกว่าบาท

ทำไมต้องทั่วประเทศ ทำไมไม่อยู่แค่กรุงเทพฯ ?
โจอี้ บอย: อย่างที่บอกการไปเล่นคอนเสิร์ตมันคือความสนุกของผม ปกติผมเล่นในผับ เล่นในเฟสติวัล ผมอยากไปเล่นกลางตลาด เล่นในเวลาหัวค่ำ 6 โมงเย็น เจอคนที่ไม่เคยดู

เท่ากับว่าพี่ต้องยกเลิกงานจ้างเพื่อมาเล่นคอนเสิร์ตในครั้งนี้?
โจอี้ บอย: ใช่ก็จะมีงานบางอันที่ยกเลิกไม่ได้

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

The post จากสายปาร์ตี้สู่สายเฮลท์ตี้ เปลือยชีวิต แร็ปเปอร์ตัวพ่อ! “โจอี้ บอย” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

หวานฉ่ำอบอุ่นไปด้วยความรัก โดนัท มนัสนันท์ – ตาม เปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อนกลายเป็นแฟน ล่าสุด เข้าพิธีแต่งงานและจดทะเบียนเรียบร้อยภายหลังคบหากันมานาน 4 ปี

เข้าพิธีแต่งงาน พร้อมจดทะเบียนสมรสไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักแสดงสาวมากฝีมือ โดนัท มนัสนันท์ อายุ 36 ปี  กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจอายุ 35 ปี  “ตาม จำนงค์อาษา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิดโตทัย จำกัด ซึ่งทั้งสองคบหากันในฐานะเพื่อนมานานหลายปี ก่อนจะขยับเปลี่ยนสถานะเป็นคนรู้ใจเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว

โดย “โดนัท” และ “ตาม” เข้าพิธีเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.62 ณ ร้านอาหารเสน่ห์จันทน์ ถนนวิทยุ ท่ามกลางความปลื้มใจยินดีของครอบครัวและเพื่อนสนิทที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน และพิธีวิวาห์ของทั้งสองใช้แฮชแท็กว่า #MTnothingFancyJustLove จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามความต้องการของทั้งสอง เชิญเพียงครอบครัว เพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด โดยตอนเช้าเป็นพิธีสู่ขอกับครอบครัว ไม่มีแห่ขันหมาก ส่วนตอนเย็นจะมีงานเลี้ยงเล็กๆ ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตามนักแสดงสาววัย 36 ปี ได้เคยเปิดใจถึงความรักของเธอและหนุ่ม “ตาม” ผ่านรายการ “คลับฟรายเดย์โชว์” เส้นทางความเป็นมา จุดเปลี่ยนจากเพื่อนไปแฟน รวมถึง ความแตกต่างในไลฟ์สไตล์ ซึ่งทำให้ได้เห็นถึงความรักของคนทั้งคู่

เพื่อนกลายเป็นแฟน

“มันไม่ได้ตั้งใจ พอเราทำงานเยอะมากจนถึงจุดหนึ่งเรารู้สึกว่าต้องเจอเพื่อนบ้าง เพราะชีวิตขาดความเฮฮา ก็เลยเริ่มเจอเพื่อน พอได้เจอเพื่อนก็เลยได้กลับมาเจอกับ “ตาม” (แต่แรกตามเป็นเพื่อนของเพื่อน) ที่ผ่านมาเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ไม่เคยมีความรู้สึกที่ ว่าเขาคือคนที่ใช่ ด้วยเรามองว่าเขาเป็นคนไม่ได้เรื่อง เนื่องจากเราจะเจอกันตอนแฮงค์เอาท์ บางครั้งเราก็รู้สึกว่าไอ้นี่มันทำงานหรือเปล่า? เราเป็นผู้หญิงทำงาน ความคิดก็เลยมองว่าเขาไม่ได้เรื่อง จนวันหนึ่งในขณะที่เรากำลังมองหาออฟฟิศ ก็มีคนแนะนำว่าให้ใช้ออฟฟิศตาม เราก็เลยโทรไปขอ ซึ่งเขาก็บอกว่าให้เราเข้าไปดูเลย และเขาใส่เชิ๊ตใส่สแล็ก ก็เลยทราบว่าเขามีงานทำ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูกเพราะเขามีความเป็นคุณหนูมาก รู้สึกเหมือนว่าเราต้องคลานเข่าเข้าไปหาเขา ในขณะที่วันนั้นเราแต่งตัวเสื้อยืดกางเกง ยืนหน้าก็ไม่ได้แต่ง มีความรู้สึกว่าเราคุยกับคุณชายหรือเปล่า แต่พอเริ่มเปิดใจคุยกับเขาเราถึงเข้าใจว่า เขาไม่ได้เป็นคนไม่ได้เรื่องอย่างที่เราคิดไปเอง น่าจะเป็นที่โดนัทชอบคนทำงาน”

ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

“หลังจากนั้นก็เริ่มคุยในเรื่องที่เขาชอบและเราชอบ เริ่มคุยกันนานๆ พอมาถึงจุดหนึ่งมันเหมือนกับเริ่มจีบกัน แต่เราไม่เคยมีโมเมนต์ที่หันไปแล้วขอว่า “เราเป็นแฟนกันเถอะ” มันไม่เคยมีแบบนั้นมาก่อน คือพอมันถึงจุดหนึ่งเรารู้ด้วยความรู้สึกมันมากกว่าเพื่อน แต่ก็ยังมีความงงๆ เพราะช่วงก่อนหน้านั้นเราก็เจอเขามากับผู้หญิง แต่มาไอ้นู่นนี่นั่นกับเรา ก็เลยเริ่มคุยกับเขาว่าเราจะยังไงต่อ ถ้าไม่ได้ไปต่อเราก็อาจจะมีวิธีจัดการความสัมพันธ์อีกแบบหนึ่ง ที่ถามเพราะเราโตแล้วไม่อยากเดาหรืออยู่ๆไปเขาบอกว่า “เราไม่ได้คิดอะไรกับโดนัทนะ” มันต้องถามถ้าใช่ก็คือใช่ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ก็เลยเริ่มจริงจังกันขึ้น”

ความแตกต่างในไลฟ์สไตล์

“ชอบคนที่ไม่เหมือนกับเราเพราะมันไม่ต้องมาพูดเรื่องเดียวกัน แต่ก่อนพอเราเครียดจากงาน เจอกันก็พูดเรื่องที่ทำให้เราเครียด เถียงกันเรื่องที่ทำให้เราเครียด แต่ตอนนี้เราพูดไปเขาก็ไม่เข้าใจ หรือเขามาอธิบายงานที่เขาทำ เราก็ไม่เข้าใจอีก เราก็จะได้แต่ฟังและก็ยิ้ม มันเลยกลายเป็นว่าเราเจอกันเพื่ออยากเจอกันจริงๆ มันไม่ใช่เรามานั่งระบายเรื่องอื่น เราต้องหาเรื่องหากิจกรรมมาคุยกัน สิ่งที่ต่างกันคือ เขาทำงานออฟฟิศเข้างาน 8 โมง 5-6 โมงเย็นเลิกงาน ในขณะที่เราไม่มีเวลาเข้าออกงานเลย และบางทีก็ยุ่งมากแบบถ่ายละครซ้อนกันสองเรื่อง บางวันเราเหมือนใช้พลังหมดไปกับงานแล้ว แต่เขาคิดว่านี่คือเวลาของเขา เราจะต้องไปทำกิจกรรม เราจะต้องไปแฮงเอาท์ ช่วงแรกเราเลยต้องปรับทัศนคติกัน”

ชีวิตความรักมันต้องดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาเสมอ

“เราเห็นสิ่งที่ผ่านมา ตอนเด็กๆ อกหัก ร้องไห้ จะเป็นจะตาย แต่ทุกครั้งมันก็ดีขึ้น ต่อให้เราเจอสิ่งที่งงแค่ไหน ครั้งถัดไปเราจะมีประสบการณ์และรู้ว่าอันนี้ อย่าเลือกมันไม่ดี หรืออันนี้ทำแล้วจะเสียใจ  หรือเสียใจแล้ว เรามีวิธิจัดการอย่างไร ก็เลยเชื่อว่าทุกครั้งมันต้องดีกว่าเดิม แต่คนเราจะไม่ค่อยกล้าที่จะจบและเริ่ม เหมือนเรากลัวต้องสูญเสียความเคยชินแล้วต้องไปเริ่มใหม่ แต่โดนัทรู้สึกว่าอันนั้นคือดี เราได้เรียนรู้ได้เจอคนได้เห็นโลก”

อย่างไรก็ตามภายหลังจากพิธีเสร็จสิ้น “โดนัท” และ “ตาม”ได้เปิดเผยกลางงานเรื่องทายาทว่าคงต้องรอให้ละครที่รับไว้ 2 เรื่องถ่ายเสร็จสิ้นก่อน ยังไงก็ตาม “แพรวดอทคอม” ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่จริงๆ และขอให้มีทายาทออกมาให้แฟนๆได้เห็นเร็วๆ นะคะ

ข้อมลูจาก : คลับฟรายเดย์โชว์

ภาพจาก : @warry_d_warry

The post วิวาห์หวาน อบอุ่นไปด้วยความรัก โดนัท มนัสนันท์ – ตาม จากเพื่อนกลายเป็นแฟน appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ปอ ณฐมน หรือ ปอ วงแจมป์  ได้ฤกษ์ดีวิวาห์ พร้อมคู่ชีวิต “พี่ดัง- สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์” ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เนรมิตคอนเซ็ปต์อบอุ่น สไตล์เรียบๆ แขกร่วมงานกว่า 700 รายคนบันเทิงร่วมแห่ยินดีคับคั่ง

ปอ ณฐมน ภูวะปัจฉิม อดีตนักร้อง วงแจมป์ ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจ ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพจำหน่ายภายใต้ชื่อ แบรนด์ FunkyFruit ผลไม้แปรรูปกล้วยหอมทองแท้อบกรอบพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า “ สำหรับการตัดสินใจแต่งงานครั้งนี้ ด้วยความเหมาะสมในเรื่องอายุ ห่างกันประมาณ 4 ปี และทัศนคติที่ใกล้เคียงกัน ในหลายๆ เรื่อง ตั้งแต่คบหาพี่ดัง สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์ เรามีความต่างบางจุดแต่เป็นอะไรที่ลงตัวกัน ในการใช้ชีวิต มีความสุข บวกมีความสบายใจ ชอบท่องเที่ยว คบหากันในระยะเวลากว่า 2 ปี พี่ดังมีความใจเย็น ใจดี รักครอบครัว อบอุ่น และเข้าใจปอที่สุด และเราก็เห็นกันและกันในสังคมออนไลน์กันมาสักระยะ จนมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกันและกัน ความลงตัวที่ได้ศึกษากันในครั้งนี้ทำให้ปอตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับพี่ดังในที่สุด

“ด้วยการวางคอนเซ็ปต์งาน Mood & Tone Ovatine อบอุ่นสบายๆ โดยได้เชิญแขกที่มาจากสองครอบครัว ญาติ เพื่อน ฝูง ผู้ใหญ่ที่เคารพ พี่และน้อง กว่า 700 ราย ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาได้ไปจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อย งานแต่งงานในวันนี้ ได้รับเกียรติจากประธานฝ่ายชายและฝ่ายหญิงคือ หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล กราบของพระคุณอย่างสูงที่ให้เกียรติแก่ชีวิตคู่ปอกับพี่ดัง งานในวันนี้จัด ณ ห้องแกรนด์บอลลูน โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ซึ่งรองรับจำนวนแขกพิเศษของงานในวันนี้ ได้แบ่งเป็นช่วงเวลาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน  รดน้ำสังข์  งานเลี้ยงและ After Party ทั้งนี้ส่วนงานในวงการบันเทิงยังรับทำงานปกติ อาทิ งานพิธีกร หรือรับเชิญในซิทคอม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการวางแผนธุรกิจร่วมกันกับพี่ดัง เพิ่มขึ้น ” ปอ กล่าว

อย่างไรก็ตามส่วนตัวปอ มีคติในการใช้ชีวิตคู่ เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา รักกันในรูปแบบเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกัน เมตตากัน มีอะไรกันได้ทุกเรื่อง เรื่องทายาทคงอีก 1 ปีถึงคิดจะมีลูก เพราะต้องการอยู่ด้วยกันสองคนไปก่อน ยังสนุกกับงาน งานวันนี้ก็ดีใจอย่างมากเพราะมีผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อนฝูงในวงการตบเท้าร่วมยินดี อาทิ คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม , พี่เล็ก บุษบา , ผู้บริหารแกรมมี่ , ชายน้อง ยุคล , ปนัย สยามกลการ , มาริษา ฮอร์น, นานา ไรบีนา , เบนซ์ พรชิตา , พี่มิค บรมวุฒิ , ไอซ์ ศรัณยู , น้องแพรว คณิตกุล , แพง ขวัญข้าว , ญาญ่าหญิง , แอนนิต้า , ครี พัชวีพิชญ์, วุ้นเส้น , เมย์ พิชนาฏ , ธัญญาเรศ เองตระกูล ควงคู่มากับพี่เป๊ก สัญชัย สามี , ป๊อป อารียา , น้ำชา มาพร้อมพี่วาว , กันต์ กันตถาวร , พี่แจน พี่เจ เจตริน , ต๊อก ศุภกร , พี่ปิ่น เก็จมณี , พี่มอริส เค , พี่ลูกหมี รัศมี , เบล์ และหวาหว่า ไชน่าดอลล์ , โบ ทีเค อีกทั้งยังมีหนุ่มๆ ทีนเอจเกรดเอ อาทิ เวย์ , เต๊ะ, ทีน เป็นต้น

The post คอนเซ็ปต์อบอุ่นสบายๆ ปอ ณฐมน – ดัง สุทธิวรรธน์ วิวาห์ชื่นมื่น appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คุ้มค่าเม็ดเงิน ใส่กี่รอบก็ได้  ชุดแต่งงาน ของนักแสดงสาว โดนัท มนัสนันท์ จาก แบรนด์ Klär Lov:Atelier4289  มิกซ์แอนด์แมทช์ใหม่ได้ 3-4 ลุค

ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้เป็นช่วงที่คู่รักหลายคู่นิยมจัดงานแต่งงาน  อย่างเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนวงการบันเทิงก็จูงมือลั่นระฆังวิวาห์หลายคู่ อาทิ อดีตนักร้องสาววงแจมป์ “ปอ-ณฐมน ภูวะปัจฉิม” กับ หนุ่มนอกวงการ “ดัง-สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์” , ลูกทุ่งสาว  “ เปาวลี พรพิมล” กับ “เอิร์ธ-กานต์ กิจเจริญ” ลูกชายของ “ซูโม่กิ๊ก” รวมถึง นักแสดงสาวมากฝีมือ “โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” กับทายาทนักธุรกิจ “ตาม จำนงค์อาษา” ซึ่งเจ้าสาวแต่ละคนก็สวยภายใต้ ชุดแต่งงาน ในแบบของตัวเอง

พูดถึงชุดเจ้าสาว ในยุคนี้นอกจากชุดแบบมาตรฐานที่นิยมกันแล้ว เดี๋ยวนี้เจ้าสาวหลายคนนิยมให้ดีไซเนอร์ออกแบบชุดให้เหมาะสมกับสไตล์ของตัวเองอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นทายาทใบหยก “บุ้ง-สะธี ใบหยก” ที่กลายเป็นเจ้าสาวที่ไม่ยอมนุ่งกระโปรง แต่ก็ยังดูดีในแบบของตัวเอง

สำหรับเจ้าสาวที่กำลังคิดว่าจะตัดชุดเอง แต่ก็กลัวว่าจะใส่ไม่คุ้ม วันนี้อยากให้ดูชุดเจ้าสาวของ“โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ที่ออกแบบโดยแบรนด์ Klär Lov:Atelier4289  ที่นอกจากจะสวมใส่ในวันสำคัญแล้ว ยังเป็นชุดที่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์เป็นชุดที่ใส่ออกงานหรือวันธรรมดาได้อีกด้วย

ทั้งนี้ทางแบรนด์ Klär Lov:Atelier4289  ได้เปิดเผยกับ “แพรวดอทคอม” ว่า “ชุดนี้มีหลายชิ้นประกอบกัน แรงบันดาลใจมาจากโจทย์ของคุณโดนัท เธออยากได้ชุดแบบที่ไม่ดูเป็นชุดแต่งงาน ไม่เอาสีขาวและอยากเป็นชุดที่ยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก โดยชิ้นงานที่ทำไปจากชุดถ่ายพรีเวดดิ้งและชุดที่คุณโดนัทใส่ในงานจริงเหล่านั้นเอามาผสมมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้อีก 3-4 ลุคเลยครับ”

อย่างไรก็ตามลายปักนี้ยังละเอียดลออ โดยดีไซน์เนอร์ได้รับแรงบันดาลมาจาก จุดกำเนิดของชุดนี้ซึ่งมาจากชุดเสื้อผ้าโบราณสมัยศตวรรษที่ 18 เอาฟอร์มมาตัด ดัดแปลง ลดทอน จนกลายมาเป็นแบบที่เจ้าสาวต้องการ

ภาพจาก : @warry_d_warry @manatsanun_p

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

วิวาห์หวาน อบอุ่นไปด้วยความรัก โดนัท มนัสนันท์ – ตาม จากเพื่อนกลายเป็นแฟน

คอนเซ็ปต์อบอุ่นสบายๆ ปอ ณฐมน – ดัง สุทธิวรรธน์ วิวาห์ชื่นมื่น

แต่งงาน เปาวลี – เอิร์ธ บรรยากาศโรแมนติกวิวทุ่งนาเขียว เมืองสุพรรณบุรี

The post สวยเฉียบฉลาดเลือก ชุดแต่งงาน โดนัท มนัสนันท์ คุ้มค่าคุ้มราคา ใส่กี่รอบก็ได้   appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

 เปิดภาพล่าสุดของนักแสดงหนุ่มญี่ปุ่น มัตสึโมโต้ จุน (Arashi) ตำนานโรงเรียนชิโรคิน หนุ่มฮ็อตแห่ง Gokusen (ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู) ในวัย 36 ปี

กลับมาปลุกกระแส J-POP ในเมืองไทยให้คึกคักในรอบสิบปีเลยก็ว่าได้ สำหรับ 5 หนุ่ม “อาราชิ” (Arashi) บอยแบนด์ระดับตำนานของประเทศญี่ปุ่น ที่ประกอบไปด้วย สมาชิก 5 คน โอโนะ ซาโตชิ (Ohno Satoshi), ซากุไร โช (Sakurai Sho), ไอบะ มาซากิ (Aiba Masaki), นิโนะมิยะ คาสึนาริ (Ninomiya Kazunari) และ มัตสึโมโต้ จุน (Matsumoto Jun) ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาสร้างโปรเจ็กต์พิเศษในโอกาสครบรอบ 20 ปีของวง  “Arashi Jet Storm”  ที่ฮือฮามากๆ เพราะพวกเขาต้องบินเจ็ทไปพบปะกับแฟนคลับของพวกเขาในหลายประเทศ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย และ ไต้หวัน โดยในทุกประเทศมีแฟนคลับไปต้อนรับพวกเขาอย่างคับคั่ง รวมถึงประเทศไทยด้วย

พูดถึงชื่อของ “อาราชิ” (Arashi) คนไทยที่ไม่ใช่แฟนคลับอาจไม่คุ้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึง “Matsumoto Jun” อาจจะพอคุ้นๆ บ้าง เพราะเขาคือนักแสดงหนุ่มคนดังที่มีผลงานเป็นที่รู้จักมากมาย เป็นนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆของประเทศญี่ปุ่น มีผลงานสร้างชื่อของเขามีมากมายอาทิ Hana Yori Dango หรือ F4 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น, You’re my Pet , ฯลฯ แต่ที่โด่งดังในไทยที่สุดคือเรื่อง Gokusen (ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู) ออกอากาศเมื่อปี 2002 โดยนักแสดงหนุ่มรับบทเป็น “ซาวาดะ ชิน” ตำนานหัวโจกแห่งโรงเรียนชิโรคิน ซึ่งปัจจุบันหนุ่มคนนี้อายุ 36 ปี แต่ยังหล่อไม่แพ้เมื่อ 18 ปีที่แล้วเลยนะ

อย่างไรก็ตามสำหรับวง Arashi ตำนานบอยแบนด์แห่งวงการ J-POP ที่มีอายุถึง 2 ทศวรรษ ในปีนี้พวกเขาจะทุ่มเททำกิจกรรมเป็นพิเศษให้กับแฟนๆทั่วโลกก่อนจะพักงานหลังสิ้นสุดปี 2020

The post มัตสึโมโต้ จุน ตำนานชิโรคิน หนุ่มฮ็อตแห่ง Gokusen (ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู) appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี”, “ราณี แคมเปน” และ “หญิง-รฐา โพธิ์งาม” ดาวเด่นในคืน ลอยกระทง นางนพมาศ 2562 สวยงามในชุดไทย

ลอยกระทง หรือ Loy Krathong Festival ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลของไทยที่โด่งดัง จนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศ โดยนอกจากกิจกรรมลอยกระทงที่เป็นไฮไลท์ของงานแล้ว อีกหนึ่งสีสันที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้คือการแต่งชุดไทย ซึ่งสร้างสีสันให้กับงานทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมแบบไทยอีกด้วย

สำหรับบรรยากาศในปีนี้ยังถือได้ว่ายังคึกคักเช่นเดิม โดยภาครัฐและเอกชนได้จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีไทย ทั้งยังได้เชิญเหล่านักแสดงสาวคนดังมาสร้างสีสันให้กับงานประจำปี ใน ด้วยการแปลงโฉมมาในคอนเซ็ปต์ “นางนพมาศ”

เริ่มที่ “นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี” นักแสดงสาวที่มักได้รับการจัดอันดับว่าเธอเหมาะสมกับการใส่ชุดไทยมากที่สุด โดยในคืนวันลอยกระทงเธอปรากฏตัวในงานการแสดงผสมผสานแสง สี เสียง “สักการะสายน้ำแห่งความรุ่งเรือง” ในงานเทศกาล “ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF GLORY” ณ ศูนย์การค้า ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร สาวนุ่นในชุดไทยโบราณภูษาผ้าลายอย่าง งดงามจริงๆ (ภาพจาก : IG @siraphat_xx)

อีกหนึ่งสาวที่เหมาะกับชุดไทยแถมยังสร้างปรากฏการณ์ชุดไทยฟีเวอร์ก็คือ นางเอกสาว “ราณี แคมเปน” ที่ถูกแห่มาในขบวน “นบบูชา ศรัทธาคงคามหานที” ที่จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ณ สวนสันติชัยปราการ  (ภาพจาก : IG @surasak_studio)

ขณะที่ทางด้านนักแสดงสาววัย 26 ปี “หญิง-รฐา โพธิ์งาม” เธอปรากฏตัวในลุคที่สวยไม่แพ้ใคร ชุดไทยโบราณของ “เมอเรียด แกรนด์ มอนด์” ช่างเข้ากับเธออย่างเหมาะเจาะ โดยในเทศกาลนี้เธอได้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน “นางนพมาศ” ครั้งแรกของ “ไอคอนสยาม” (ภาพจาก : IG @realyingrhatha)

อย่างไรก็ตามยังมีคนดังที่ใส่ชุดไทยในงาน Loy Krathong Festival นี้อีกเพียบส่วนจะเป็นใครกันบ้างนั้น ไปติดตามกันดูเลยนะคะ

The post หลากสีสัน! รวมดาวเด่นในคืน ลอยกระทง นางนพมาศ 2562 สวยงามในชุดไทย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

แฟนๆ นางงามตื่นเต้นไม่น้อย เพราะวันนี้แล้วที่จะเป็นวันประกวดรอบไฟนอลของ Miss International 2019 งานนี้ไทยมีลุ้นมงแรก เพราะตัวแทนสาวงามของประเทศไทยอย่าง ‘บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ คะแนนเก็บตัวดี ทำเต็มที่ทุกรอบ

ทั้งนี้ บิ๊นท์-สิรีธร ได้ออกมาเผยขณะที่เข้าประกวดว่า มองว่า จุดแข็ง 3 อย่างของเธอคือ เธอมีความเป็นธรรมชาติสูง ยิ่งขึ้นเวทียิ่งไม่ตื่นเต้น และอยากจะพูด Speech มาก อีกทั้งเธอเองก็ไม่เคยหยุดที่จะพยายาม เช่น การเดิน เธอรู้ตัวว่ายังเดินได้ไม่ดี ก็ซ้อมเดินหน้าห้องทุกวัน ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ น่าจะทำให้เธอทำได้ดีในการประกวดรอบสุดท้าย เพราะทุกอย่างจะแสดงออกผ่านทางแววตา เธอตั้งใจกับการประกวดครั้งนี้มาก ต้องการที่จะดีที่สุดในเวอร์ชั่นของตัวเอง แต่ไม่ได้ต้องการจะแข่งขันกับใคร

สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด คือ กลัวไม่มีสติ และสมาธิ เพราะการประกวดที่ผ่านมา เวลาเธอมีสติ และสมาธิก็จะทำได้ดี ไม่ตื่นเต้น ซึ่งในการประกวดครั้งนี้ เธอคิดว่า ได้เตรียมความพร้อมมาแล้วทุกวัน เมื่อการประกวดรอบตัดสินมาถึง ก็จะปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่คิดว่าจะต้องทำให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับที่ซ้อมทุกวัน

บิ๊นท์ กล่าวอีกว่า ในการเก็บตัวครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้สึกว่าทุกคนเป็นคู่แข่ง เพราะกิจกรรมต่างๆ เน้นสร้างความสัมพันธ์ ทุกคนทำงานหนักจนไม่ตื่นเต้นแล้วว่าวันจริงหรือวันประกวดรอบตัดสินจะเป็นอย่างไร แต่กลับรู้สึกว่าจะต้องจากเพื่อนแล้วหรอ

บิ๊นท์ พูดถึงการตัดสินการประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการจะลงมาสังเกตพวกเธอระหว่างทำกิจกรรม และเก็บคะแนนความประพฤติ และวินัยของสาวงาม ซึ่งเธอเชื่อว่าในส่วนนี้เธอทำได้ดี บางคนก็ชมว่าเธอเป็น ‘Good Girl’ แต่เธอเองก็ไม่ได้หวังกับการประกวดครั้งนี้มากจนเกินไป กลัวจะผิดหวัง คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุด ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

ส่วนเรื่องตัวเต็งเธอไม่เคยคิดถึงเลย เพราะคิดว่า “เขาก็คือเขา เราก็คือเรา” อีกทั้งในการประกวดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราไม่มีทางรู้เลยว่ากรรมการเขามองอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้มองแค่ความสวย แต่ถ้าพูดตามกระแสของแฟนนางงาม มิสอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นคนที่สวย และเคยเป็นดารามาก่อน

ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ กล่าวว่า สิ่งที่สาวงามกังวลที่สุดในการประกวดรอบสุดท้าย ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง ‘Speech’ หรือ การพูดในห้วข้อที่ได้รับจากกองประกวดฯ ในรอบ 15 คนสุดท้าย ซึ่งนางงามมักจะกลัวหลงลืมเนื้อหาที่เตรียมมา อารมณ์ และสารที่จะสงไปถึงผู้ฟัง เรื่องต่อมาคือสติ เวลาอยู่บนเวทีมีแสงสีเสียง ธงชาติ และกองเชียร์จำนวนมากมาย เมื่อผู้เข้าประกวดเห็นกองเชียร์มันก็ดูจะมีกำลังใจ แต่ในอีกมุมหนึ่งมันทำให้เขารู้สึกกดดันทันที จิตตก และสติแตก ทำให้อารมณ์ที่มั่นคงไขว่เขวหวั่นไหว บ้างก็เดินไม่ดีพูดไม่ได้

และเรื่องสุดท้ายคือ ความฉุกละหุกหลังเวที ทำให้นางงามต้องดูแลตัวเอง เช่น ทรงคิ้ว ผม ใบหน้า สีปาก มันอาจจะผิดเพี้ยนไปด้วยเวลาที่กระชั้นชิด และอารมณ์ของสาวงาม นอกจากสติไม่ดีแล้ว แต่งหน้าก็จะไม่สวย ทรงผมก็จะบิดเบี้ยว คิ้วก็จะไม่ได้รู้ทรง ซึ่งเสื้อผ้าหน้าผมถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ปัญหาเหล่านี้ ทางกองประกวดประเทศไทย ได้ฝึกสอน และเข้มงวดกับผู้เข้าประกวดมาก จึงทำให้ไม่ต้องกังวลในข้อที่สอง และข้อที่สาม

แต่ปัญหาสำคัญคือข้อแรก เพราะนางงามไทยมักจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ และ Speech ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ ขนาดพูดสุนทรพจน์เป็นภาษาไทยต่อหน้าคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารที่ส่ง สำเนียง และแววตาอารมณ์ มันก็อยากอยู่แล้วที่ทำให้คนรู้สึก เมื่อมาเป็นภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ก็จะยิ่งยากไปอีก นี่คือปัญหาที่นางงามไทยเจอมาตลอด และส่วนใหญ่จะหยุดลงในรอบสุดท้ายคือ Speech เพราะเวลาจะพูดให้ได้ใจได้อารมณ์คน ต้องมีศิลปะในการพูด

แต่ก่อนที่จะได้ศิลปะในการพูด เราต้องคล่องในภาษาก่อน แต่ทีนี้ภาษาก็ไม่คล่อง ศิลปะก็ยาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเสียง การเว้นวรรค แววตา ที่ส่งออกไป มันต้องออกมาจากใจจริงๆ แต่พอเป็นภาษาที่เราไม่คล่อง มันก็ต้องจำ และอารมณ์มันก็จะหายไปส่งไม่ถึงผู้ชม สิ่งที่จะทำได้เพียงอย่างเดียวคือการฝึกและซ้อม

สำหรับบิ๊นท์มีความสุขด้วยตัวเองอยู่แล้ว และยังใหม่สำหรับการประกวด จึงไม่ได้มีอินเนอร์สูตรสำเร็จของความเป็นนางงาม และสิ่งสำคัญที่ตนจะพูดกับบิ๊นท์เสมอก็คือ อย่าให้ความหวังของแฟนนางงาม หรือของครอบครัว หรือการแบกภาระคำว่า ประเทศไทย ต้องมาทำให้เราหมดความสุข ต้องไม่คิดเรื่องนั้น มีความสุขและเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาเรื่องพวกนั้นมากดดันตัวเอง

ขณะที่เธอมองว่าประเทศฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จบ่อย จึงถือเป็นแรงกดทับตัวนางงาม ส่วนมิสมาเลเซียก็ถือว่าเป็นปีแรกที่ตัวแทนจากประเทศนี้ได้รับความสนใจจากแฟนนางงาม ซึ่งเธอเองก็มีชื่อเสียงในประเทศ ส่งผลให้มิสมาเลเซียกลัวและกดดัน

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมไม่ต้องห่วง “บอกเลยนางงามไทยเป๊ะตลอด” มีการจัดวางเครื่องประดับ และชุดเป็นเซ็ตไว้อยู่แล้ว ตัวบิ๊นท์เองก็ฝึกแต่งหน้าทำผมเองมาตลอด “นางงามไทยไว้ใจได้ทุกเรื่อง สิ่งที่น่าห่วงอย่างเดียวคือ Speech ภาษาอังกฤษ ไม่ต่างกับรอบตอบคำถาม

สำหรับการประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 รอบตัดสิน จะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย. เวลา 12.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ โตเกียวโดม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

The post โค้งสุดท้าย Miss International 2019 ‘บิ๊นท์-สิรีธร’ คะแนนเก็บตัวดี ไทยมีลุ้นมงแรก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ สร้างประวัติศาสตร์  คว้ามงแรก Miss International 2019 ให้ประเทศไทย

ในที่สุดก็ทำได้ บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ ตัวแทนสาวงามของประเทศไทย เจ้าของมงกุฎนางสาวไทยประจำปี 2562 ที่ได้เดินทางไปประกวด Miss International 2019 ยังประเทศญี่ปุ่น คว้ามงแดง และยังเป็นมงแรกของคนไทยในเวทีนี้ ทุบประวัติศาสตร์ นำความภาคภูมิใจมาให้แฟนๆ นางงาม รวมถึงคนไทยทุกคน

โดยบิ๊นท์ ทำผลงานได้ดีมาตลอดในการเก็บตัว ถึงแม้ว่าก่อนหน้าจะถูกบูลลี่ว่าไม่สวย แต่หลังได้รับตำแหน่งนางสาวไทย ความอดทน ความพยายามของเธอ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วบิ๊นท์สามารถทำได้ โดยเธอฝึกฝนอย่างหนักก่อนที่จะเธอทางไปประกวด ณ ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การพูด รวมถึงปรับลุคต่างๆ จนในวันนี้บิ๊นท์สามารถชนะใจกรรมการ และคว้ามงมาให้กับคนไทย

โดยในรอบสัมภาษณ์บิ๊นท์ได้ตอบคำที่ออกมาจากใจว่า…..

นอกจากคว้ามงใหญ่มาครองแล้ว บิ๊นท์-สิรีธร ยังได้ตำแหน่ง Miss International Asia อีกด้วย สวย เก่ง สมกับตำแหน่งจริงๆ แพรวดอทคอม ขอแสดงความยินดีกับบิ๊นท์ด้วยนะคะ

ภาพ : T-Pageant Club FB

The post ไม่หวั่นแม้ถูกบูลลี่ บิ๊นท์-สิรีธร สร้างประวัติศาสตร์ คว้ามงแรก Miss International 2019 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

กว่าจะประสบความสำเร็จก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 คว้ามงกุฎแรกในประวัติศาสตร์ให้กับคนไทยได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ“บิ๊นท์-สิรีธร” นางสาวไทย และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ซึ่งเธอต้องทั้งลดน้ำหนักกว่า 10 กก. ใน 27 วัน ก่อนไปประกวดเวทีอินเตอร์ที่ญี่ปุ่น และต้องเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ เพื่อปรับตัวให้ได้กับทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการประกวดครั้งนี้

หน้าเป๊ะรูปร่างฟิตเปรี๊ยะยิ่งกว่าตอนได้ตำแหน่งเสียอีก สำหรับ “บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์” เจ้าของตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2562 และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2019  ที่เพิ่งคว้ามงฯ มาหมาดๆ จากเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนที่จะเดินทางไป ตลอด 27 วันที่ผ่านมา “บิ๊นท์” ได้เข้าคอร์สติวเข้มเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทั้งด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ด้านเสริมความสวยงามทำผม-แต่งหน้า ฝึกการตอบคำถาม และนำเสนอความสวยความอย่างไทยแบบอินเตอร์ แต่ที่ดูจะฮือฮาในหมู่แฟนนางงามมากที่สุดคือรูปร่างของเธอ มันเปลี่ยนแปลงไปด้วยน้ำหนักที่ลดลงถึง 10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาเพียง 27 กว่าวันเท่านั้น นั่นทำให้เห็นว่าเธอต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจเป็นอย่างมากจริงๆ

โดยเมื่อวันที่ 23  ตุลาคม 2562  ที่ โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน สื่อมวลชนสายนางงามได้มีโอกาสพบกับ “บิ๊นท์” ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น งานนี้ “แพรวดอทคอม” ไม่พลาดที่จะไปที่จะไปสัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัว ความพร้อม และความมั่นใจของเธอก่อนที่จะเดินทางด้วย

สถานที่ถ่ายภาพ :โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน

เพราะอะไร บิ๊นท์มั่นใจมากว่าจะคว้ามงกุฎกลับมาได้?

“บิ๊นท์เชื่อว่าความมั่นใจของเราจะนำพาทุกสิ่งเลย  เหมือนเวทีที่ผ่านมาของบิ๊นท์ แต่ครั้งนี้ที่สำคัญคือทั้งเราและทีมงานก็พร้อมทุกอย่าง ดังนั้นมันไม่มีอะไรต้องกลัว บิ๊นท์เชื่อว่าทีมงานไทยและแฟนคลับไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย”

คิดว่ายังมีอะไรต้องปรับตัวไหม?

“บิ๊นท์คิดว่าต้องปรับตลอดเวลา หรือเรียกว่าต้องปรับให้เท่าทันดีกว่า เพราะว่าเดี๋ยวยิ่งเราย้ายไปประเทศญี่ปุ่นก็ยิ่งจะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของเขาอีก ดังนั้นบิ๊นท์ปรับตัวตลอดเวลา”

จะใช้ความเป็นไทยจับใจกรรมการที่ญี่ปุ่นอย่างไร?

“บิ๊นท์เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นทุกอย่างอยู่ในตัวบินท์แล้ว เราอาจจะเสริมความสามารถพิเศษเข้าไป บิ๊นท์เชื่อว่าความเป็นคนไทย ยิ้มง่าย  ความเฟรนด์ลี่เราได้แสดงมันออกมาหมดแล้ว จึงเชื่อว่าจะจับใจชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน”

มีความกังวลเกี่ยวกับรอบการตอบคำถามบ้างไหม?

“ไม่กังวลเลย เพราะเป็นคนที่ตอบคำถามจากใจ ดังนั้นไม่ได้ต้องมาประมวลผลหรือคิดเยอะมาก เราอยากตอบอะไรเราก็ตอบออกไป และถามเกิดมีความผิดพลาดบิ๊นท์คิดว่าความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย มันผิดพลาดกันได้ เราแค่ปรับปรุงดังนั้นจึงไม่ได้กังวลอะไร เราแค่ศึกษาไปให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว และเชื่อว่าถ้าเราปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่มีใครด่าซ้ำแน่นอน”

สิ่งที่หลายคนพูดถึงคือน้ำหนักบิ๊นท์ลดลงไปถึง 10 กก. ในเวลาเพียง 27 วันเท่านั้น หลายคนเลยอยากทราบเทคนิคพอจะบอกได้ไหม?

“บิ๊นท์น้ำหนักลง 10 กิโลกรัม จาก 65 กิโลกรัม ลงมาอยู่ที่ 55 กิโลกรัม  ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือไม่ใช่การอดอาหารเพราะสุดท้ายแล้วร่างกายมันก็จะต้องกลับมากินให้เยอะกว่าเดิม แต่ว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือกินทุกมื้อแต่น้อยลง อย่างบิ๊นท์ก็ค่อยๆ ตัดข้าว จาก 2 ทัพพี เหลือ ครึ่งทัพพี แล้วเลือกกินโปรตีนแทนเอา คือเราต้องมีความเข้าใจก่อนว่าการกินคาร์โบไฮเดรตน้อยลง โปรตีนมากขึ้นก็จะช่วยทดแทนและสร้างกล้ามเนื้อได้มากกว่า เพราะจะไม่มีไขมันหรือน้ำตาลสะสม”

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานชุดว่ายน้ำจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK คอลเล็คชั่น Abode of Metamorphosis Spring-Summer 2019 สำหรับในการประกวดครั้งนี้

พูดถึงผ้าไทยเห็นว่าครั้งนี้เตรียมไปเยอะมากบิ้นท์จะนำไปยกระดับให้ชาวโลกได้รู้จักอย่างไรบ้าง?

“บิ๊นท์คิดว่าด้วยผ้าไทยที่บิ้นท์นำไปมันอินเตอร์เนชั่นแนลมาก ทุกคนจะได้เห็นผ้าไทยในรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่ผ้าไทยแบบเดิมๆ เลย ไปถึงปุ๊บคนอาจจะตกใจก็ได้ว่าผ้าอะไร ทำไมสวยจัง มันจะเป็นความสวยที่ทุกคนเห็นแล้วชอบแน่นอน แล้วก็มีผ้าพิเศษที่ประยุกต์นำหลายๆ ภาคเข้ามาไว้ด้วยกันซึ่งบิ้นท์จะนำไปประมูลด้วย”

อยากจะฝากอะไรถึงแฟนคลับที่เมืองไทยก่อนจะบินไปที่ประเทศญี่ปุ่นบ้าง?

“ก็ฝากตัวกับแฟนๆ ทุกคนนะคะ บิ๊นท์ยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเวทีแรกเสมอ บิ้นท์ตื่นเต้นทุกครั้งที่เปลี่ยนเวที จากเวทีนางงามกรุงเทพฯ มาเป็นนางสาวไทย จนตอนนี้มันถึงเวทีระดับอินเตอร์เนชั่นแนลแล้วก็อยากฝากตัวจริงๆ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ ตลอดเวลาที่บิ๊นท์อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็จะพยายามไลฟ์และคุยกับทุกคน ยังไงก็ฝากติดตามบิ๊นท์ได้ที่ไอจีสตอรี่และเฟซบุ๊คของบิ๊นท์ได้นะคะ พูดได้บอกได้เลยนะคะ เช่นวันนี้ผมไม่สวย แต่งหน้าไม่ดี เพราะเราจะได้แก้ทัน สวยทุกวันด้วยฝีมือชาวไทยค่ะ”

The post มุ่งมั่นสมศักดิ์ศรีสาวไทย เบื้องหลังความสำเร็จก่อนคว้าชัย มิสอินเตอร์ฯ 2019 ของ “บิ๊นท์ สิรีธร” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

การฟังเพลงโปรดผ่าน YouTube หรือดูรายการที่กำลังได้อรรถรส แต่กลับถูกคั่นด้วยโฆษณาที่ Skip ได้บ้างไม่ได้บ้าง คงจะเกิดความหงุดหงิดรำคาญใจใช่หรือเปล่าคะ ต่อไปนี้ปัญหาการกด Skip จะหมดไปแล้วค่ะ เพราะว่าประเทศไทยได้รับสิทธิ์ให้ใช้บริการ YouTube Premium เหมือนกับหลายประเทศทั่วโลกแล้ว จุ๊บอกเลยว่ามีความน่าสนใจอยู่เยอะมากค่ะ

YouTube Premium คือบริการจาก YouTube ที่ผู้ใช้บริการต้องเสียเงินรายเดือนเพื่อแลกกับการดูวิดีโอแบบไม่มีโฆษณารบกวน โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 159 บาทต่อเดือน (ให้ทดลองใช้ฟรี 4 เดือน) นอกจากจะดูวิดีโอได้อย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังสามารถ Save วิดีโอที่ชอบไว้ดูแบบ Offline ในขณะที่กำลังเดินทางหรืออยู่บนเครื่องบิน และสิ่งสำคัญที่ทุกคนรอคอย แม้ว่าหน้าจอจะล็อคไปแล้วแต่ YouTube ก็ยังเล่นวิดีโอได้ปกติ แล้วเรายังสามารถใช้แอพอื่นๆ ได้ ในขณะที่ดูวิดีโอไปด้วยได้แล้วนะคะ แค่นี้ก็ดีต่อใจมากแล้ว YouTube ยังมีแพ็คเกจ Family ให้เราเพิ่มสมาชิกในครอบครัวสามารถแชร์ร่วมกันได้สูงสุด 5 คน จ่ายรายเดือนเพียง 239 บาทต่อเดือน โดยไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลเดียวกันอีกด้วย

ยังไม่มีหมดแค่นี้ค่ะ สำหรับคนรักเสียงเพลง ที่ชอบฟังเพลงล่าสุด เพลงรีมิกซ์ ดูคอนเสิร์ต ฯลฯ จุ๊อยากให้รีบสมัครเลย YouTube Music สตรีมมิ่งเพลงที่ใช้ AI เข้ามาช่วยจัดลิสต์เพลงตามพฤติกรรมการฟังเพลงของคุณค่ะ โดย AI จะวิเคราะห์จากกิจกรรมต่างๆ ที่คุณกำลังในขณะที่ฟังเพลงอยู่ด้วย ทำให้คุณจะมีลิสต์เพลงที่หลากหลายฟังทุกช่วงเวลาแบบไม่ต้องค้นหาเอง และที่ YouTube Music เหนือกว่าสตรีมมิ่งเพลงเจ้าอื่นคือ ถ้าไม่รู้ว่าเพลงที่อยากฟังชื่ออะไร ขอแค่คุณจำเนื้อเพลงได้สักท่อนหนึ่ง แล้วค้นหาด้วยการร้องเพลง คุณก็จะได้คำตอบทันทีค่ะ แต่ว่า YouTube Music จะต้องโหลดแอพแยกออกมานะคะ ซึ่งค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 129 บาทต่อเดือนค่ะ และไม่มีโฆษณาให้กด Skip ฟังเพลงไม่สะดุดแน่นอนค่ะ

ถ้าใครที่กำลังสนใจ YouTube Premium และ YouTube Music ด้วยการสมัครผ่านโทรศัพท์มือถือ จุ๊อยากให้ลองเช็ครุ่นหรือระบบปฎิบัติการกันดีๆ นะคะ เพราะราคาค่าบริการรายเดือนอาจจะไม่เท่ากัน แต่ต้องไม่ลืมว่ายังมีคนติดกับความเข้าใจที่ว่า YouTube สามารถดูฟรีได้ตลอด งานนี้คงต้องดูกันไปยาวๆ ว่า YouTube จะสามารถซื้อใจคนไทยด้วยบริการรายเดือนได้หรือไม่ค่ะ

The post YouTube Premium & Music เมื่อคิดเงินรายเดือน จะซื้อใจคนไทยได้มั้ย? appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.